การใช้รถยนต์ช่วยสร้างความสะดวกสบายต่อการเดินทางในชีวิตประจำวันหรือแม้แต่ขับรถทางไกล ซึ่งแม้การขับขี่ด้วยความระมัดระวังจะทำให้โอกาสเกิดปัญหาขณะขับรถลดน้อยลงไปมาก แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าเหตุไม่คาดฝันสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาแม้จะขับรถโดยไม่ประมาท ดังเช่นกรณีรถเฉี่ยวชนที่ไม่ว่าสาเหตุจะเกิดจากรถยนต์ของเราหรือผู้ขับขี่รายอื่น ๆ ก็ตาม ดังนั้นมาดูกันว่าเมื่อเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนควรมีวิธีปฏิบัติที่เหมาะสมอย่างไร แล้วกฎหมายที่เกี่ยวข้องมีโทษต่อผู้ที่หนีการกระทำผิดร้ายแรงแค่ไหนบ้าง
รถเฉี่ยว คืออะไร
รถเฉี่ยว คือ อุบัติเหตุที่รถสองคันสัมผัสกันโดยไม่ได้ตั้งใจ ส่วนใหญ่เกิดจากการขับรถแซงเปลี่ยนเลน การจอดรถไม่ระวัง หรือการขับขี่ในช่วงการจราจรหนาแน่น มักเป็นอุบัติเหตุที่ไม่รุนแรงแต่สร้างความเสียหายต่อตัวรถ การเข้าใจว่ารถเฉี่ยวชนเกิดขึ้นได้อย่างไรจะช่วยให้ป้องกัน และรับมือได้อย่างเหมาะสม
รถเฉี่ยวชน ถือเป็นคดีอะไร
รถเฉี่ยวชนตามกฎหมายถือเป็นคดีแพ่งและอาญา หากเป็นความประมาทเล็กน้อยจะเป็นคดีแพ่ง แต่หากเป็นการขับขี่ประมาทร้ายแรงหรือหลบหนีจากที่เกิดเหตุ อาจกลายเป็นคดีอาญาได้ โดยมีบทลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา
รถเฉี่ยว มีกี่ประเภทในทางข้อกฎหมาย
ตามกฎหมายแบ่งเป็น 3 ประเภท คือ การเฉี่ยวโดยประมาท การเฉี่ยวโดยจงใจ และการเฉี่ยวแล้วหลบหนี แต่ละประเภทมีบทลงโทษและวิธีการดำเนินคดีแตกต่างกัน โดยส่วนใหญ่จะเป็นประเภทประมาทซึ่งสามารถไกล่เกลี่ยได้
- การเฉี่ยวโดยประมาท : เกิดจากความประมาทเลินเล่อ ไม่ได้เจตนา สามารถไกล่เกลี่ยได้ มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท
- การเฉี่ยวโดยจงใจ : มีเจตนาทำร้าย หรือขับรถด้วยความโกรธ ถือเป็นคดีอาญา มีโทษจำคุกและปรับตามความรุนแรง
- การเฉี่ยวแล้วหลบหนี : หลบหนีจากที่เกิดเหตุ ถือเป็นความผิดร้ายแรง มีโทษจำคุกสูงสุด 6 เดือน และปรับไม่เกิน 12,000 บาท
12 วิธีรับมือเมื่อเกิดอุบัติเหตุรถเฉี่ยวชนบนท้องถนนให้ปลอดภัย
การขับรถเฉี่ยวรถคนอื่นเป็นอุบัติเหตุที่สามารถเกิดขึ้นได้ง่ายตามท้องถนน ไม่ว่าจะมาจากการขับรถแซงเปลี่ยนเลน การขับขี่โดยประมาท เฉี่ยวรถจอดอยู่ หรือการขับรถเบียดกัน เป็นต้น ล้วนสามารถสร้างปัญหาอาการบาดเจ็บได้ตั้งแต่เล็กน้อยจนอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ แต่เมื่อเกิดเหตุขึ้นควรปฏิบัติ ดังนี้

1. ตั้งสติและชะลอรถหาที่จอดที่ปลอดภัย
เมื่อเกิดเหตุรถเฉี่ยวชน สิ่งแรกที่ต้องทำคือหยุดรถและรักษาสติให้มั่นคง อย่าตื่นตระหนกหรือหลบหนี เพราะการขับรถหนีจากที่เกิดเหตุถือเป็นความผิดทางกฎหมายที่มีโทษสูง ควรจอดรถในที่ปลอดภัยและเปิดไฟฉุกเฉิน หากคู่กรณีพยายามขับรถหลบหนี ให้รีบจดทะเบียนรถ สี ยี่ห้อ และรุ่นให้ได้มากที่สุด
2. ประเมินสถานการณ์และความปลอดภัย
ก่อนลงจากรถให้สำรวจสถานการณ์รอบ ๆ ว่าปลอดภัยหรือไม่ หากอยู่บนถนนที่มีการจราจรหนาแน่น ควรเคลื่อนย้ายรถไปยังบริเวณที่ปลอดภัยก่อน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุซ้ำซ้อน
3. ตรวจสอบการบาดเจ็บของผู้โดยสาร
ตรวจสอบว่าตนเองและผู้โดยสารในรถมีอาการบาดเจ็บหรือไม่ รวมถึงผู้ขับขี่และผู้โดยสารในรถของอีกฝ่าย หากมีผู้บาดเจ็บให้รีบโทรขอความช่วยเหลือจากหน่วยกู้ชีพทันที
4. บันทึกหลักฐานด้วยการถ่ายภาพ
ถ่ายภาพความเสียหายของรถทุกมุม รวมถึงตำแหน่งที่รถเฉี่ยวชนกัน สภาพถนน และป้ายทะเบียนรถของทั้งสองฝ่าย การมีหลักฐานภาพจะช่วยในการพิจารณาคดีและการเรียกร้องค่าเสียหาย
5. ติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ
โทรแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อมาบันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม้ว่าจะเป็นอุบัติเหตุรถเฉี่ยวเล็กน้อย การมีใบแจ้งความจากตำรวจจะช่วยให้กระบวนการเรียกร้องประกันภัยเป็นไปอย่างราบรื่น หากเกิดกรณีคู่กรณีหลบหนี ต้องแจ้งความดำเนินคดีทันที และแจ้งรายละเอียดรถที่เฉี่ยวหนีให้ครบถ้วน
6. แจ้งบริษัทประกันภัย
โทรแจ้งบริษัทประกันภัยของคุณทันทีเพื่อรายงานเหตุการณ์รถเฉี่ยว ทางประกันจะส่งเจ้าหน้าที่มาประเมินความเสียหายและช่วยในการไกล่เกลี่ยกับอีกฝ่าย ควรเตรียมข้อมูลกรมธรรม์และรายละเอียดเหตุการณ์ไว้ให้พร้อม หากคู่กรณีหลบหนี สามารถใช้ประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 ในส่วนความคุ้มครองรถเฉี่ยวหนีได้ นอกจากนี้หากมีฝ่ายใดได้รับบาดเจ็บควรโทรแจ้งเบอร์โทรฉุกเฉินถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย
7. แลกเปลี่ยนข้อมูลกับคู่กรณี
เก็บข้อมูลสำคัญจากคู่กรณี ได้แก่ ชื่อ-นามสกุล หมายเลขโทรศัพท์ เลขทะเบียนรถ และรายละเอียดบริษัทประกันภัย ให้ข้อมูลของคุณแก่อีกฝ่ายเช่นกัน เพื่อใช้ในการติดต่อประสานงานต่อไป
8. หาพยานและบันทึกเสียง
หากมีผู้พบเห็นเหตุการณ์รถเฉี่ยวชน ควรขอข้อมูลการติดต่อไว้เป็นพยาน รวมถึงบันทึกเสียงการสนทนากับคู่กรณีเก็บไว้ เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นภายหลัง หากมีกล้องวงจรปิดในบริเวณเกิดเหตุ ควรขอดูภาพหลักฐานโดยเฉพาะในกรณีที่คู่กรณีหลบหนี
9. หลีกเลี่ยงการยอมรับความผิด
ไม่ควรกล่าวคำว่า “ขอโทษ” หรือยอมรับความผิดในทันที แม้ว่าจะรู้สึกผิด เพราะอาจส่งผลต่อการพิจารณาคดีได้ ให้เจ้าหน้าที่ประกันภัยและตำรวจเป็นผู้ตัดสินความผิดถูกแทน
10. ตรวจร่างกายกับแพทย์
แม้ว่าจะไม่รู้สึกมีอาการบาดเจ็บในตอนแรก แต่ควรไปตรวจร่างกายกับแพทย์ เพราะบางอาการอาจปรากฏภายหลัง การมีใบรับรองแพทย์จะช่วยในการเรียกร้องค่าเสียหายหากมีปัญหาสุขภาพเกิดขึ้น
11. ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจและประกันภัยมาถึงแล้ว ให้ความร่วมมือและปฏิบัติตามคำแนะนำ อย่าเจรจาต่อรองเองกับคู่กรณี ปล่อยให้ผู้เชี่ยวชาญดำเนินการไกล่เกลี่ยแทน
12. ติดตามผลการดำเนินคดี
หลังจากเสร็จสิ้นขั้นตอนในวันเกิดเหตุแล้ว ควรติดตามผลการดำเนินงานจากบริษัทประกันภัยอย่างสม่ำเสมอ เก็บเอกสารทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน และเตรียมพร้อมสำหรับกระบวนการเรียกร้องค่าเสียหายที่อาจใช้เวลา
กฎหมายน่ารู้เกี่ยวกับรถเฉี่ยวชน รู้ไว้ช่วยได้เยอะ
อุบัติเหตุการขับรถเฉี่ยวชนมีเรื่องกฎหมายรองรับไว้อยู่แล้ว เพราะการขับรถโดยประมาทจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียทรัพย์เป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้เสมอ เมื่อรถโดนเฉี่ยวมีคู่กรณีมาดูกันว่าข้อกฎหมายที่น่าสนใจมีอะไรบ้าง

- ชนกันธรรมดา
การขับรถชนกันธรรมดา ไม่มีมีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ถือเป็นความผิดขับขี่โดยประมาทและน่าหวาดเสียว ส่งผลให้ต้องระวางโทษปรับ 400 ถึง 1,000 บาท เป็นไปตามพระราชบัญญติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 43 (4) และมาตรา 157
- ชนกันและบาดเจ็บเล็กน้อย
การเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกันจนมีผู้บาดเจ็บเล็กน้อย นับเป็นการขับรถโดยประมาทจนเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับอันตรายทางกายหรือจิตใจ มีโทษจำคุก 1 เดือน ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 390
- ชนกันและมีผู้บาดเจ็บสาหัส
การขับรถเฉี่ยวชนกันจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส พิการ สูญเสียอวัยวะ หรือรักษาตัวมากกว่า 20 วัน จะนับเป็นความผิดขับรถโดยประมาทจนเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับอันตรายบาดเจ็บสาหัส โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 300
- ชนกันจนมีผู้เสียชีวิต
หากขับรถชนจนคู่กรณีถึงแก่ความตาย เป็นความผิดโทษฐานขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับ 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291
- ชนแล้วหนี
การขับรถเฉี่ยวชนแล้วหนี ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 และตามที่แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 78 กำหนดให้ผู้ขับรถหรือควบคุมสัตว์ในทางที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อบุคคลหรือทรัพย์สินของผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นความผิดของบุคคลนั้นหรือไม่ จำเป็นต้องหยุดรถ หรือสัตว์ พร้อมให้ความช่วยเหลือตามสมควร แสดงตัวต่อเจ้าหน้าที่และแจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ใกล้เคียงทันที นอกจากนี้ต้องแจ้งชื่อสกุล ที่อยู่ หมายเลขทะเบียนรถให้กับผู้ได้รับความเสียหายด้วย หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุก 3 เดือน ปรับตั้งแต่ 2,000 ถึง 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
อย่างไรก็ดีหากศาลพิพากษาให้ผู้ขับขี่ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย หรือได้รับบาดเจ็บสาหัส หากผู้ขับขี่ไม่มีการช่วยเหลือตามสมควรจะถูกพิพากษาเพิ่มโทษอีกกึ่งหนึ่งของโทษที่ศาลกำหนดเอาไว้ด้วย
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับอุบัติเหตุรถเฉี่ยวชน
รถเฉี่ยวชนกันเป็นคดีอะไร
รถเฉี่ยวชนกันส่วนใหญ่เป็นคดีแพ่งที่สามารถยุติด้วยการไกล่เกลี่ยผ่านบริษัทประกันภัย แต่หากมีการบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง อาจกลายเป็นคดีอาญาตามมาตรา 291 ประมวลกฎหมายอาญา การจำแนกประเภทคดีรถโดนเฉี่ยวขึ้นอยู่กับความรุนแรงและเจตนา
ขับรถประมาทร่วม เสียค่าปรับเท่าไหร่
การขับรถประมาทร่วมมีค่าปรับตั้งแต่ 1,000-10,000 บาท ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของเหตุการณ์ หากมีผู้เสียชีวิตค่าปรับสูงสุด 60,000 บาท และอาจมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี
เกิดอุบัติเหตุรถชนกัน ควรทําอย่างไร
เมื่อเกิดอุบัติเหตุควรหยุดรถทันที ตรวจสอบผู้บาดเจ็บ โทรแจ้งตำรวจและประกันภัย ถ่ายภาพหลักฐาน แลกเปลี่ยนข้อมูลกับคู่กรณี และรอเจ้าหน้าที่มาดำเนินการไกล่เกลี่ย การปฏิบัติตามขั้นตอนในกรณีรถเฉี่ยวจะช่วยให้ดำเนินการได้อย่างถูกต้อง
รถเกิดอุบัติเหตุพรบคุ้มครองอะไรบ้าง
พ.ร.บ. คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลสูงสุด 30,000 บาท ค่าทดแทนเสียชีวิต 200,000 บาท ค่าทดแทนทุพพลภาพ 240,000 บาท และค่าเสียหายทรัพย์สินบุคคลที่สาม 1,000,000 บาท
รถขูดซ่อมกี่บาท
ค่าซ่อมรถขูดขึ้นอยู่กับความรุนแรง รถขูดเล็กน้อยประมาณ 3,000-8,000 บาท รถขูดปานกลาง 10,000-30,000 บาท และรถขูดหนัก 50,000 บาทขึ้นไป รวมถึงค่าสีและค่าแรง
เกิดเหตุรถชนทำไง
เกิดเหตุรถชนให้หยุดรถในที่ปลอดภัย ตรวจสอบผู้บาดเจ็บ โทรเรียก 191 และประกันภัย ถ่ายภาพหลักฐาน จดข้อมูลคู่กรณี และปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ อย่าย้ายรถหากมีผู้บาดเจ็บหนัก
แก้เนื้อหาเพิ่ม Internal link
อุบัติเหตุคือเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้ แต่โอกาสเกิดปัญหาดังกล่าวจะลดลงไป หากขับขี่ด้วยความไม่ประมาท คำนึงถึงกฎจราจรเพื่อความปลอดภัยบนท้องถนนอย่างเคร่งครัด รวมถึงการเสริมความปลอดภัยให้ชีวิตและรถของคุณด้วยยางรถยนต์ Pirelli by ATV ที่มีตัวเลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ยางรถยนต์ขอบ 15, ยางรถยนต์ขอบ 16 ยางรถยนต์ขอบ 17, ยางรถยนต์ขอบ 18, ยางรถยนต์ขอบ 19, หรือยางรถยนต์ขอบ 20 ทั้งยังมีเทคโนโลยีช่วยเสริมการเบรกที่ดีเยี่ยม นอกจากนี้ยังมีประกันยาง “บาด-บวม-แตก” ที่สามารถเคลมฟรี 1 ปี หรือระยะทาง 25,000 กิโลเมตร โดยอยู่ภายใต้เงื่อนไขของบริษัท สามารถติดตั้งหรือเปลี่ยนยางรถยนต์ได้ที่ B-Quik ทุกสาขา สนใจติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่อินบอกซ์เฟซบุ๊ก m.me/PirellibyAsiatires
บทความจาก Pirelli

เวลาเลี้ยวรถแล้วมีเสียงยางดังเอี๊ยด เกิดจากอะไร พร้อมวิธีตรวจสอบและแก้ไข
หลายคนคงเคยประสบปัญหาเวลาเลี้ย …