โช้คอัพรถยนต์ เป็นชิ้นส่วนสำคัญที่มีผลต่อความปลอดภัย และความสบายในการขับขี่เป็นอย่างมาก ซึ่งผู้ใช้รถหลายคนอาจยังไม่ทราบว่า โช้คอัพทำหน้าที่อะไรบ้าง และควรดูแลรักษาอย่างไร วันนี้ พิเรลลี่ จะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับโช้คอัพรถยนต์กันให้มากขึ้น
โช้คอัพรถยนต์ ทำหน้าที่อะไร
โช้คอัพรถยนต์ทำหน้าที่หลักในการรองรับแรงกระแทกของตัวถังรถ เพื่อช่วยลดแรงสั่นสะเทือนจากพื้นถนน และช่วยให้ล้อรถสัมผัสกับพื้นถนนอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้ยังควบคุมการยุบ และยืดตัวของสปริง จึงทำให้การขับขี่เกิดความนุ่มนวล และช่วยให้ผู้ใช้รถสามารถควบคุมรถได้ดีขึ้น เลยส่งผลให้การขับขี่มีความปลอดภัยมากขึ้นไปด้วย
ประเภทของโช้คอัพรถยนต์
โช้คอัพรถยนต์ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่ โช้คอัพระบบน้ำมัน และโช้คอัพระบบแก๊ส ซึ่งจะแตกต่างกัน ดังนี้
- โช้คอัพระบบน้ำมัน : ทำงานด้วยระบบไฮดรอลิก โดยน้ำมันจะไหลผ่านวาล์วภายในลูกสูบ ซึ่งอาจเกิดฟองอากาศภายในทำให้การทำงานผิดปกติได้ จึงมักนิยมใช้ในรถที่มีงบประมาณจำกัด
- โช้คอัพระบบแก๊ส : เป็นโช้คอัพที่ได้รับความนิยมมากกว่า เนื่องจากทำงานได้มีประสิทธิภาพกว่า โดยทำงานร่วมกันระหว่างแก๊สไนโตรเจน และน้ำมันไฮดรอลิก มีทั้งแบบแรงดันต่ำ และแรงดันสูง ซึ่งช่วยลดปัญหาการเกิดฟองอากาศได้ดี
โช้คอัพรถยนต์ อายุการใช้งานนานไหม
โดยทั่วไปแล้ว โช้คอัพรถยนต์จะมีอายุการใช้งานประมาณ 3-5 ปี หรือระยะทางประมาณ 50,000-100,000 กม. ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น สภาพถนนที่ใช้งานเป็นประจำ น้ำหนักในการใช้บรรทุก พฤติกรรมการขับขี่ และการดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอ รวมไปถึงการเลือกใช้ยางนุ่มเงียบด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ควรเริ่มตรวจสอบสภาพโช้คอัพตั้งแต่ระยะทาง 20,000 กิโลเมตรขึ้นไป เพื่อให้แน่ใจว่าโช้คอัพยังทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ควรเลือกโช้คอัพรถยนต์ใช้งานอย่างไร
ในการเลือกโช้คอัพ มีปัจจัยหลักที่ควรพิจารณาอยู่หลายข้อ แต่อันดับแรกคือประเภทการใช้งาน หากใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน โช้คอัพแบบมาตรฐานที่เน้นความนุ่มนวลก็อาจจะเพียงพอแล้ว แต่ถ้าชอบการขับขี่แบบสปอร์ต ควรเลือกโช้คอัพแบบแก๊สแรงดันสูงที่ช่วยให้ทรงตัว และยึดเกาะถนนได้ดีกว่า สำหรับคนที่ชอบลุยออฟโรด โช้คอัพแบบแก๊สกระบอกคู่จะเหมาะสมกว่า เพราะรองรับแรงกระแทกได้ดีในทางขรุขระ
หากโช้คอัพรถยนต์พัง จะเกิดอะไรขึ้น
เมื่อโช้คอัพรถยนต์เสื่อมสภาพหรือพัง จะส่งผลเสียต่อการขับขี่หลายอย่าง เช่น ควบคุมรถได้ยากโดยเฉพาะเวลาเข้าโค้ง รถจะโยก และกระดอนมากเวลาผ่านพื้นที่ขรุขระ หรืออาจเสียการทรงตัวเมื่อใช้ความเร็วสูง และทำให้หน้ารถเชิดขึ้นเวลาออกตัวหรือเบรก รวมไปถึงเสียงดังผิดปกติจากช่วงล่างด้วยเช่นกัน ซึ่งปัญหาเหล่านี้อาจนำไปสู่อุบัติเหตุร้ายแรงได้ จึงควรรีบนำรถเข้าตรวจสอบทันทีที่สังเกตเห็นอาการผิดปกติของโช้คอัพรถยนต์
สัญญาณที่ควรระวังหากโช้คอัพมีปัญหา
ผู้ใช้รถหลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า เมื่อโช้คอัพมีปัญหา จะมีสัญญาณเตือนอะไรบ้างที่สามารถสังเกตเองได้ วันนี้เรามีตัวอย่างอาการที่ควรระวังมาให้ดูกัน
- รถเด้งขึ้นลงหลายครั้งเมื่อกดหน้ารถแล้วปล่อย
- มีคราบน้ำมันรั่วซึมบริเวณโช้คอัพ
- ตัวโช้คอัพบุบ บิดเบี้ยว หรือแกนคดงอ
- ยางสึกไม่สม่ำเสมอเป็นบั้ง ๆ
- กระบอกโช้คอัพไม่ร้อนหลังใช้งาน
- รถเชิดหน้าเวลาออกตัวหรือทิ่มหน้าเวลาเบรก
- รถกระเด้งกระดอนเมื่อผ่านเนินหรือหลุมเล็ก ๆ
- เสียการทรงตัวเมื่อถูกลมปะทะด้านข้าง
ควรใช้รถอย่างไรให้โช้คอัพอยู่ได้นานขึ้น
วิธีการดูแลโช้คอัพให้อยู่ได้นานขึ้นนั้นมีหลายวิธี เช่น ไม่บรรทุกน้ำหนักเกินพิกัดของรถ ขับรถด้วยความเร็วพอเหมาะ ชะลอความเร็วเมื่อผ่านลูกระนาดหรือหลุมขนาดใหญ่ หมั่นตรวจเช็กช่วงล่าง และลมยางอย่างสม่ำเสมอ ส่วนอีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญ ก็คือ การใช้อะไหล่แท้ในการซ่อมบำรุงเพื่อใช้งาน โดยไม่ควรประหยัดค่าใช้จ่ายส่วนนี้ เพราะจะส่งผลต่อการขับขี่โดยตรง เพียงเท่านี้ ก็จะช่วยให้โช้คอัพรถยนต์มีอายุการใช้งานที่นานขึ้นได้อย่างแน่นอน
สรุปบทความ
ผู้ใช้รถทุกคนน่าจะเห็นกันแล้วใช่ไหมว่า หน้าที่ของโช้คอัพรถยนต์นั้นสำคัญแค่ไหน และส่งผลอย่างไรต่อการขับขี่โดยตรง แต่ถ้าจะพูดถึงเรื่องความอุ่นใจ และความปลอดภัยในการใช้รถ การเลือกใช้ยางก็เป็นสิ่งสำคัญ ควรเลือกยางที่ดีมีคุณภาพ และน่าเชื่อถือ เหมาะสมกับการใช้งานของผู้ขับขี่ อย่าง ยางรถยนต์ Pirelli ยางที่เต็มเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพและเทคโนโลยี เสริมสร้างความปลอดภัยให้ผู้ขับขี่ และยังมีการรับประกัน บาด บวม แตก เคลมฟรี 1 ปี หรือ 25,000 กม. อีกด้วย (เมื่อซื้อยางครบ 4 เส้น ทุกรุ่น ทุกขนาด และลงทะเบียนภายใน 14 วัน) จึงเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ยางที่คุ้มค่าในการใช้งาน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/pirellibyatv/