ยางสึก ปัญหาอันตรายที่ห้ามประมาท
การขับรถยนต์เป็นประจำทุกวัน หนึ่งในชิ้นส่วนของรถที่ถูกใช้งานมากที่สุดย่อมหนีไม่พ้นยางรถยนต์ที่ต้องสัมผัสพื้นถนนอยู่ตลอดเวลา ทั้งยังเป็นส่วนสำคัญต่อการบรรทุกน้ำหนักของรถด้วย เป็นสาเหตุที่ต้องเลือกใช้ยางที่มีคุณภาพและควรใส่ใจดูแลเช็กยางรถยนต์บ่อยครั้งเพื่อความปลอดภัยบนท้องถนน มิฉะนั้นอาจเกิดปัญหายางเสื่อมสภาพ อาการไม่สู้ดีเอาได้ ซึ่งหนึ่งในนั้นเกิดจากอาการยางสึกที่มาจากหลากหลายปัจจัย แต่จะมีวิธีป้องหรือแก้ไขอย่างไรมาดูคำตอบกัน
ยางสึกปล่อยไว้อันตรายแค่ไหน
การฝืนใช้ยางสึกบนท้องถนนสามารถสร้างอันตรายได้มาก โดยเฉพาะช่วงเทศกาลที่ต้องขับรถทางไกลเพื่อกลับบ้านหรือไปเที่ยวด้วยความเร็วสูง ซึ่งหากยางมีอาการเสื่อมสภาพจากการสึกอาจทำให้เกิดเหตุการณ์ยางระเบิดเป็นผลให้ไม่สามารถควบคุมรถจนพุ่งชนเข้ากับสิ่งกีดขวางหรือรถคันอื่น ๆ ทั้งยังอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต
นอกจากนี้หากฝืนใช้งานยางสึกในหน้าฝน มีโอกาสสูงที่จะสามารถเกิดเหตุการณ์รถเหินน้ำ ซึ่งเกิดขึ้นได้จากดอกยางเสื่อมจนทำให้ยางไม่เกาะถนนนั่นเอง
สาเหตุของยางสึกมีอะไรบ้าง
- การปรับศูนย์ล้อไม่เหมาะสม
การปรับศูนย์ล้อไม่เหมาะสมอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ยางสึกได้ เนื่องจากการปรับระดับที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้ยางสึกหรอไม่สม่ำเสมอกัน สึกไม่เท่ากัน ทางที่ดีหากเกิดปัญหาดังกล่าวควรให้ผู้เชี่ยวชาญดูแล
- นิสัยการขับรถ
เรื่องของนิสัยการขับรถสามารถสร้างปัญหาต่อยางได้ ไม่ว่าจะเป็นการขับรถเร็วเกินไป การเบรกอย่างกะทันหัน หรือการใช้ความเร็วขณะที่เข้าโค้งบ่อยครั้ง พฤติกรรมการขับขี่เหล่านี้สามารถทำให้ยางสึกหรอไวเกินกว่าที่ควรจะเป็นได้ทั้งสิ้น
- ยางเสื่อมสภาพตามการใช้งาน
แม้จะเป็นขับรถตามปกติทั่วไป แต่การใช้งานยางเป็นประจำทุกวันสามารถทำให้ยางเสื่อมสภาพได้เช่นกัน เนื่องจากโดยปกติแล้วยางจะมีอายุการใช้งานอยู่ที่ 2-3 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร ดังนั้นเมื่อถึงเวลาควรตรวจสอบสภาพยางและควรเปลี่ยนยางใหม่
- บรรทุกน้ำหนักมากเกินไป
การบรรทุกน้ำหนักมากเกินไปสามารถสร้างปัญหาให้กับยางรถยนต์ได้ เนื่องจากทำให้แรงกดที่ยางมีมากขึ้น เบื้องต้นผู้ขับขี่ควรตรวจสอบเรื่องความสามารถในการรับน้ำหนักของยางได้ที่เครื่องหมายตัวเลขบนแก้มยาง เพื่อไม่ให้ใช้งานรถบรรทุกสิ่งของหนักมากเกินไปแบบไม่รู้ตัว
- การเติมลมยางที่ไม่เหมาะสม
การเติมลมยางไม่เหมาะสมทำให้เกิดอาการสึกของหน้ายางไม่เท่ากัน โดยปกติแล้วการเติมลมยางพอดีสามารถทำให้หน้ายางกดบนถนนได้อย่างสม่ำเสมอ แต่หากเติมลมยางอ่อนหรือมากเกินไป สามารถทำให้ยางเกิดอาการสึกที่ไม่เท่ากัน
ทั้งนี้การเติมลมยางที่เหมาะสมเบื้องต้น รถยนต์ขนาดเล็กควรเติมที่ 25-30 ปอนด์ ขนาดกลาง 30-35 ปอนด์ รถกระบะทั่วไป 35-40 ปอนด์ และ รถตู้ 43-55 ปอนด์ แต่ขึ้นอยู่กับการบรรทุกน้ำหนักและข้อกำหนดจากทางผู้ผลิตด้วย
- การขับรถบนถนนที่ไม่ได้มาตรฐาน
การขับรถบนท้องถนนที่ไม่ได้มาตรฐานสามารถเป็นอันตรายต่อยางได้ โดยหากรถตกหลุมบ่อยมีโอกาสที่ให้ยางเสื่อมสภาพได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงต่อการเกิดยางบาด ซึ่งนับเป็นปัญหาใหญ่ได้เช่นกัน
- การเก็บรักษายางที่ไม่ดีพอ
แม้จะไม่เกี่ยวข้องจากการขับขี่ของผู้ใช้รถยนต์โดยตรง แต่การใช้ยางที่ผ่านการเก็บรักษามาไม่ดีก็เป็นปัญหาทำให้ยางสึกเสื่อมสภาพได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นการวางไว้กลางแจ้งเจอทั้งแดดและฝน การวางยางซ้อนกันมากเกินไปจนผิดรูป การวางใกล้กับแหล่งที่มีความชื้นและความร้อนสูง ดังนั้นการเลือกยางจากร้านค้าทั่วไปควรมองการเก็บรักษายางเป็นหนึ่งในปัจจัยการซื้อด้วย
การสึกของดอกยางตำแหน่งต่าง ๆ บ่งบอกสาเหตุได้
ปัญหาการสึกของดอกยางสามารถบ่งบอกสาเหตุเบื้องต้นได้ ในแต่ละตำแหน่งเกิดจากการขับรถที่แตกต่างกันไป ดังนี้
- ขอบยางสึกด้านนอกหรือในเร็วกว่าส่วนอื่น
หากขอบยางด้านอกและในมีปัญหาสึกเร็วกว่าส่วนอื่น แสดงให้เห็นว่าอาจมีปัญหาที่การตั้งศูนย์ล้อที่ไม่เหมาะสม หากการขับรถมีความรู้สึกผิดปกติ อย่างรถมีอาการเอียงไปทางซ้ายหรือขวาเมื่อปล่อยพวงมาลัย ควรไปดำเนินการแก้ไขที่ศูนย์บริการให้เรียบร้อย
- ดอกยางสึกตรงกลาง
การสึกที่ดอกยางตรงกลางมากกว่าส่วนอื่น มีสาเหตุมาจากการเติมลมยางที่มากเกินไป ทำให้ตรงส่วนกลางของดอกยางสัมผัสผิวถนนมากกว่าส่วนอื่น ส่งผลให้ควรปรับลมยางให้เหมาะสม
- ขอบยางสึกทั้งสองข้าง
การสึกของขอบยางทั้งสองข้างมากกว่าตรงกลาง นั่นมาจากสาเหตุของการเติมลมยางอ่อนเกินไป ทำให้ยางกดลงพื้นไม่สม่ำเสมอ วิธีแก้ไขคือการเติมลมยางให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ทำให้หน้าดอกยางลงน้ำหนักเท่ากัน
ยางสึกมากขนาดไหน ถึงควรเปลี่ยนยางใหม่
วิธีการดูว่ายางสึกจนควรเปลี่ยนยางเส้นใหม่ สามารถดูได้จากสะพานยางในร่องดอกยางรถยนต์ โดยสังเกตได้จากเครื่องหมายสามเหลี่ยมเล็ก ๆ ที่ช่วยชี้ตำแหน่งแต่ละจุด หากดอกยางสึกถึงสะพานยาง นั่นหมายความว่าถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนยางใหม่กันแล้ว
เห็นได้ชัดว่าอาการยางสึกไม่ใช่สัญญาณที่ดีสักเท่าไหร่สำหรับผู้ใช้รถยนต์ หากถึงเวลาเปลี่ยนยางรถยนต์ใหม่ก็ควรหันไปใช้สินค้าที่ได้คุณภาพ ยกตัวอย่างเช่นแบรนด์ Pirelli ที่ผลิตยางมาตรฐานวางใจได้ด้วยประสบการณ์กว่า 151 ปี สามารถหาซื้อได้ที่ Pirelli by ATV ที่สามารถมั่นใจได้ถึงงานบริการและดูแลที่ยอดเยี่ยม ทั้งยังมีประกันยาง “บาด-บวม-แตก” ที่สามารถเคลมฟรี 1 ปี หรือระยะทาง 25,000 กิโลเมตรโดยอยู่ภายใต้เงื่อนไขของบริษัท สนใจติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่อินบอกซ์เฟซบุ๊ก m.me/PirellibyAsiatires