เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเข็มขัดนิรภัย
เรื่องของความปลอดภัยเป็นสิ่งที่ผู้ผลิตให้ความสนใจเป็นอันดับต้น ๆ ในการผลิตรถยนต์เองก็ต้องมีฟังก์ชันและอุปกรณ์ที่เสริมการขับขี่ปลอดภัยด้วย ซึ่งเข็มขัดนิรภัยก็เป็นอุปกรณ์พื้นฐานที่ต้องมีในรถยนต์เพื่อเสริมความปลอดภัย และยังมีระบบส่งเสียงเตือนเมื่อผู้ใช้รถไม่คาดเข็มขัดนิรภัย กระตุ้นการคาดเข็มขัดนิรภัยให้มากขึ้น เนื่องมาจากทุกฝ่ายมองเห็นความสำคัญของการใช้เข็มขัดนิรภัยว่าเพิ่มความปลอดภัยได้จริง และในปัจจุบันไม่เฉพาะคนนั่งเบาะหน้าเท่านั้นที่ต้องคาดเข็มขัดนิรภัย แต่คนนั่งทุกตำแหน่งต้องคาดเข็มขัดนิรภัยด้วย
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเข็มขัดนิรภัย
เรื่องของการคาดเข็มขัดนิรภัยถูกบัญญัติอยู่ในพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 13) พ.ศ.2565 มีการกล่าวถึงเรื่องเข็มขัดนิรภัยไว้ดังนี้
1.) ไม่รัดเข็มขัดนิรภัย ปรับไม่เกิน 2,000 บาท (จากเดิม 500 บาท)
2.) รถที่ติดตั้งเข็มขัดนิรภัยได้ เช่น รถตู้ รถยนต์ส่วนตัว ต้องคาดเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง
3.) รถยนต์ที่ไม่สามารถติดตั้งเข็มขัดนิรภัยได้ทุกที่นั่ง เช่น รถกระบะ ผู้นั่งตอนหน้าต้องคาดเข็มขัดนิรภัย
4.) เด็กอายุน้อยกว่า 6 ปีต้องมีคาร์ซีทในรถยนต์ เพื่อคาดเข็มขัดนิรภัย
โทษปรับของการคาดเข็มขัดนิรภัยเพิ่มขึ้นเพื่อสร้างความเข้มงวด และยังบังคับให้รถยนต์ที่มีเด็กใช้คาร์ซีทด้วย เพื่อให้ผู้โดยสารทุกที่นั่งมีความปลอดภัยเบื้องต้นจากเข็มขัดนิรภัย รวมถึงผู้ขับขี่ควรสนใจป้ายเตือนระวังอันตรายที่ติดไว้ข้างทาง เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้มากขึ้น
เข็มขัดนิรภัยในรถยนต์มีกี่แบบ
ภายในรถยนต์จะมีเข็มขัดนิรภัยติดตั้งเอาไว้ภายในรถ ซึ่งเข็มขัดนิรภัย คือ อุปกรณ์ในรถยนต์ที่มีสายคาดและหัวเข็มขัด อุปกรณ์ปรับความยาว และตัวยึดติดภายในรถ เข็มขัดนิรภัยแบ่งออกเป็น 5 ประเภทตามข้อมูลของกรมการขนส่งทางบก ดังนี้
1.) แบบคาดหน้าตัก (Lap Belt) เป็นเข็มขัดนิรภัย 2 จุดที่คาดเฉียงบริเวณกระดูกเชิงกรานด้านหน้าเพียงเส้นเดียว ไม่มีสายคาดเฉียง
2.) แบบคาดเฉียง (Diagonal Belt) เป็นเข็มขัดนิรภัยที่คาดเฉียงจากไหล่ของผู้คาดแล้วไปยึดไว้ที่บริเวณสะโพกฝั่งตรงข้ามกับไหล่ที่คาดเข็มขัดนิรภัย
3.) แบบสามจุด (Three – Point Belt) เป็นเข็มขัดนิรภัย 3 จุดที่รวมสายคาดบริเวณกระดูกเชิงกรานด้านหน้า และสายเฉียงคาดไหล่ไว้ที่จุดยึดจุดเดียวกัน
4.) แบบพิเศษ (S – Type Belt) เป็นเข็มขัดนิรภัยที่มีรูปแบบนอกเหนือจากการคาดไหล่ และการคาดหน้าตัก เช่น เข็มขัดนิรภัยรอบเอว
5.) แบบยึดโยง (Harness Belt) เป็นเข็มขัดนิรภัยแบบพิเศษที่รวมเข็มขัดนิรภัยแบบคาดหน้าตักและคาดไหล่ไว้ด้วยกัน นิยมใช้ในรถแข่งเพื่อเพิ่มความปลอดภัย
เข็มขัดนิรภัยออกแบบมาให้ยึดร่างกายผู้นั่งไว้กับเบาะรถยนต์ เวลารถชน ขับผ่านโค้งอันตราย หรือเกิดการกระแทกจะได้ไม่กระเด็นออกนอกตัวรถ ผู้ขับขี่จึงควรให้ความสนใจกับความสมบูรณ์ของเข็มขัดนิรภัยเอาไว้ให้ดี
ปัญหาที่มักเกิดกับเข็มขัดนิรภัย
- เข็มขัดนิรภัยไม่ล็อก ให้ลองใช้น้ำมันหรือสารหล่อลื่นฉีดเข้าไปในตัวล็อค เพราะบางครั้งอาจจะมีชิ้นส่วนที่ฝืดอยู่ภายใน
- สายเข็มขัดไม่ดึงกลับหรือฝืด ให้ลองทำความสาดเข็มขัดนิรภัยดูก่อน หากไม่ดีขึ้นต้องให้ช่างเปลี่ยนชุดเข็มขัดนิรภัยให้ใหม่เพราะสปริงอาจเสื่อมคุณภาพ
- เข็มขัดนิรภัยฉีกขาด ต้องเปลี่ยนใหม่เท่านั้น ไม่ควรฝืนใช้ เพราะประสิทธิภาพการป้องกันของเข็มขัดลดลง
เข็มขัดนิรภัยเป็นตัวช่วยเพิ่มความปลอดภัยที่มีการรณรงค์ให้รถทุกคันต้องคาดเข็มขัดนิรภัย แต่นอกจากเข็มขัดนิรภัยที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยแล้ว ยางรถยนต์ก็เป็นหนึ่งในตัวช่วยที่มีความสำคัญ เพราะยางต้องรับน้ำหนักรถและบดกระแทกไปกับพื้นถนน การรู้วิธีเลือกยางรถยนต์ที่ดีจะช่วยให้การขับขี่มีประสิทธิภาพ ควรเลือกยางที่ใช้งานได้ดีกับทุกสภาพถนน ขนาดยางรถยนต์เหมาะกับรถตนเอง และแบรนด์ยางคุณภาพ น่าเชื่อถือ แนะนำยางรถยนต์ Pirelli ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก นอกจากนั้นยังมาพร้อมเทคโนโลยีดี ๆ ที่ช่วยให้อุ่นใจทุกภาพถนน ยางมีปัญหาก็หายห่วง เพราะยาง Pirelli มีเทคโนโลยี Run Flat ที่ช่วยให้รถวิ่งต่อได้แม้ลมยางเป็น 0 และเทคโนโลยี Seal Inside ที่เจลซิลิโคนในยางจะเข้ามาเชื่อมประสานยางเมื่อยางมีรอยรั่ว เทคโนโลยีจาก Pirelli ที่ช่วยให้การขับรถปลอดภัยมากยิ่งขึ้น หาซื้อได้ตามร้านค้าตัวแทนจำหน่าย และพิเรลลี่ออนไลน์ใน Shopee และ Lazada เพิ่มความปลอดภัยในท้องถนนด้วยยางพิเรลลี่