รถคู่ใจกินน้ำมันหนักมาก มีวิธีแก้ยังไงดี
รถยนต์ที่ใช้พลังงานเชื้อเพลิงกับปัญหารถกินน้ำมัน หรือที่บางคนเรียกว่ารถซดน้ำมันถือเป็นเรื่องที่พบเห็นได้บ่อย เพราะรถกินน้ำมันเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ควรปล่อยให้รถกินน้ำมันมากเกินไป ควรหาวิธีแก้รถซดน้ำมัน หรือรถกินน้ำมันให้ได้ เพื่อป้องกันไม่ให้เสียค่าใช้จ่ายในเรื่องค่าน้ำมันที่สูงเกินความจำเป็น ยิ่งช่วงที่ราคาน้ำมันผันผวน การใส่ใจเรื่องการกินน้ำมันของรถเอาไว้ก่อนจะดีกว่า
รู้ได้อย่างไรว่ารถกินน้ำมัน
รถกินน้ำมันมีสาเหตุได้หลากหลาย โดยส่วนมากจะมาจากการทำงานของอะไหล่และเครื่องยนต์ที่ผิดปกติ ทำให้รถต้องใช้น้ำมันมากกว่าเดิม มีวิธีเช็คว่ารถกินน้ำมันมากน้อยแค่ไหนสามารถตรวจสอบได้ด้วยการคำนวณอัตราสิ้นเปลืองพลังงานเชื้อเพลิง มีวิธีการดังนี้
1.) เติมน้ำมันให้เต็มถัง
2.) ปรับเลขไมล์ให้เป็น 0 หรือจดเลขไมล์หลังเติมน้ำมันเอาไว้
3.) ใช้งานรถประมาณ 100 กิโลเมตรขึ้นไป หรือจนกว่าน้ำมันใกล้จะหมด แล้วบันทึกเลขไมล์เอาไว้
4.) เติมน้ำมันให้เต็มถัง โดยไม่ต้องปัดเศษให้เป็น 0 เพื่อจะดูปริมาณน้ำมันที่ได้จริงหลังจากใช้งาน
5.) คำนวณอัตราสิ้นเปลืองด้วยสูตร ระยะทางที่วิ่ง/จำนวนลิตรน้ำมันที่เติมครั้งล่าสุด จะได้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันของรถตนเอง
อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันของรถแต่ละประเภทจะไม่เท่ากัน เช่น รถเก๋งควรจะมีอัตรากินน้ำมันประมาณ 10 – 20 กิโลเมตร/ลิตรจึงจะถือว่าเหมาะสม แต่ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งาน ขนาดเครื่องยนต์ และสมรรถนะอื่น ๆ ของรถด้วย
สาเหตุที่รถกินน้ำมัน
เนื่องจากรถกินน้ำมันมักจะมีสาเหตุมาจากการทำงานที่ผิดปกติของเครื่องยนต์ และระบบต่าง ๆ ซึ่งระบบที่ส่งผลให้รถกินน้ำมันมากขึ้นมีดังนี้
- ไส้กรองรถยนต์และหัวฉีด
การที่ไส้กรองและหัวฉีดมีปัญหาอุดตันจะทำให้การเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ รถต้องกินน้ำมันมากขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้ จะสังเกตเห็นได้จากท่อไอเสียที่ดำและมีกลิ่นน้ำมัน แก้ได้ด้วยการล้างไส้กรอง
- สายพานหน้าเครื่อง
หน้าที่ของสายพานหน้าเครื่องจะทำหน้าที่ส่งพลังงานไปยังระบบต่าง ๆ เช่น คอมเพรสเซอร์แอร์ ไดชาร์จ ปั๊มน้ำ หากสายพานหย่อนจะทำให้การส่งพลังกำลังน้อยลง และต้องใช้น้ำมันมากขึ้น
- น้ำยาหล่อเย็น
น้ำหล่อเย็นจะอยู่ที่หม้อน้ำ หากน้ำหล่อเย็นเสื่อมสภาพหรือมีสนิมจะทำให้เครื่องร้อนเร็วขึ้น และเผาไหม้ได้รวดเร็วขึ้น ซึ่งกระบวนการเผาไหม้นี้ต้องใช้น้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้นด้วย เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เครื่องยนต์ร้อนจัด
- ยางรถยนต์
ยางรถยนต์ที่ทำให้กินน้ำมันมากขึ้นคือยางรถยนต์ที่ลมยางอ่อนจนเกินไป เพราะรถต้องใช้แรงมากขึ้นในการขับเคลื่อน ซึ่งจะต้องดึงน้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้นเช่นกัน
- คอยล์จุดระเบิด
การที่คอยล์จุดระเบิดเสื่อมสภาพจะทำให้การทำงานของรถไม่สมดุล ทำให้รถกินน้ำมัน เร่งไม่ขึ้น สตาร์ทติดยาก และเครื่องยนต์สะดุด จะพบมากในเครื่องยนต์เบนซินและเครื่องยนต์ติดแก๊ส
- หัวเทียน
หัวเทียนเป็นอีกส่วนที่เกิดปัญหากับเครื่องยนต์เบนซินและเครื่องยนต์ติดแก๊ส น้ำมันจะเผาผลาญมากขึ้น การเผาไหม้ไม่หมดจด ส่งผลให้อัตราเร่งและความแรงของรถลดลง
รถกินน้ำมันเป็นปัญหาที่เมื่อใช้งานรถยนต์ไปสักระยะหนึ่งแล้วจะต้องเจอ แต่สามารถชะลอปัญหานี้ได้ด้วยการตรวจสภาพรถ และดูแลอะไหล่ เครื่องยนต์ต่าง ๆ ให้มีสภาพสมบูรณ์
ยางประหยัดน้ำมันจาก Pirelli
การประหยัดน้ำมันนอกจากจะทำได้ด้วยการเลือกรถประหยัดน้ำมันแล้ว ยังควรเลือกยางประหยัดน้ำมันด้วย ซึ่งยางรถยนต์ถ้าใช้อย่างถนอม เติมลมยางให้พอดี ยางจะลดการกินน้ำมันได้ แต่ก็มียางบางรุ่น
Cinturato P7
- ผลิตด้วยเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- มีความสมดุลระหว่างสมรรถนะการขับขี่และความนุ่มเงียบ
- ยึดเกาะถนนดี ทั้งถนนเปียกและถนนแห้ง
- มีเทคโนโลยี Seal Inside ปะยางตัวเองได้ด้วยสารซิลิโคนที่อยู่ในยาง
- ยาง Cinturato P7 เคยได้รางวัล ECO TYRE OF THE YEAR 2022
- ประหยัดน้ำมัน
Cinturato Rosso
- ยางนุ่มเงียบ ลดเสียงรบกวนขณะขับขี่
- เหมาะสำหรับรถยนต์ขนาดเล็กและขนาดกลาง
- มีการยึดเกาะถนนที่ดีทั้งถนนเปียกและถนนแห้ง
- มีความมั่นคงในการขับขี่ สมดุลการขับขี่ดี
- ประหยัดน้ำมัน
Scorpion Verde All Season
- เหมาะกับรถ SUV รถ Crossover และรถบรรทุกน้ำหนักเบา
- เน้นความปลอดภัยในการขับขี่ที่มากขึ้น
- มีความทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน
- มีความนุ่มสบายขณะขับขี่
ยางรถยนต์เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยแก้ปัญหารถกินน้ำมันได้ โดยการเลือกยางคุณภาพดี ประหยัดน้ำมัน ผู้ที่สนใจยาง Pirelli สามารถสั่งซื้อได้ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ หรือทางออนไลน์ของร้านค้า Official บนแพลตฟอร์ม Shopee และ Lazada มาพร้อมโปรโมชั่นพิเศษ เมื่อซื้อยาง Pirelli by ATV ครบ 4 เส้น/ใบเสร็จ และลงทะเบียนภายใน 14 วัน รับประกันยางรถยนต์ฟรี 1 ปี หรือ 25,000 กิโลเมตร เมื่อยางบาด บวม แตกจากการใช้งาน