OEM ย่อมาจากอะไร มีความสำคัญอย่างไร ทำไมยางหลายแบรนด์ถึงสนใจ

รู้จักยางรถยนต์ OEM ทำไมต้องเรียกยาง OEM

ยางรถยนต์เป็นหนึ่งในอะไหล่รถยนต์ที่มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนรถ การผลิตยางรถยนต์จะต้องคำนึงถึงคุณภาพและมาตรฐานการผลิต เพื่อให้ยางแต่ละเส้นใช้งานบนท้องถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากยางรถยนต์ที่วางจำหน่ายตามร้านจำหน่ายและเปลี่ยนยางทั่วไปแล้ว ยังมียางรถยนต์ที่ติดมากับรถยนต์ เรียกว่ายางรถยนต์ OEM

คำนิยามและลักษณะของยาง OEM

คำว่า OEM ในด้านยานยนต์ย่อมาจาก Original Equipment Manufacturer หมายถึง อุปกรณ์ติดรถจากผู้ผลิต ซึ่งในที่นี้พูดถึงยางที่ติดมากับรถยนต์หรือยางจากโรงงานนั่นเอง จะเห็นว่ายางรถยนต์ OEM คือ ยางรถยนต์ที่ได้รับการคัดเลือกจากผู้ผลิตรถยนต์ให้เป็นยางมาตรฐานติดรถยนต์ ซึ่งขั้นตอนกว่าจะเป็นยาง OEM จะต้องผ่านการทดสอบหลายขั้นตอน เพื่อให้ได้ยางรถยนต์ตรงตามความต้องการของผู้ผลิตรถยนต์ และใช้งานกับรถยนต์รุ่นนั้น ๆ ได้อย่างดีเยี่ยม

ลักษณะของยาง OEM จะเหมือนยางรถยนต์ทั่วไป แต่บนแก้มยางจะมีสัญลักษณ์ที่ระบุเพื่อบ่งบอกว่ายางเส้นนี้เป็นยาง OEM ของรถยนต์ยี่ห้อใด เช่น ยาง OEM ของ Mercedes-Benz จะมีสัญลักษณ์ MO ปรากฎอยู่บนแก้มยาง ยาง Jaguar จะมีสัญลักษณ์ J ซึ่งรถบางรุ่นอาจไม่มีสัญลักษณ์ระบุอยู่ก็ได้

ข้อดีของยาง OEM

ยาง OEM เป็นยางจากผู้ผลิต ซึ่งต้องผ่านการกระบวนการทดสอบหลายขั้นตอน เพื่อให้ผู้ผลิตรถยนต์ได้ยางที่ตรงตามความต้องการมากที่สุด ซึ่งยาง OEM มีข้อดีดังนี้

• มาตรฐานดีในทุกด้าน

ยางรถยนต์ OEM ผลิตตามคุณภาพมาตรฐานที่ผู้ผลิตรถยนต์ต้องการ ยางส่วนใหญ่จึงมักมีคุณสมบัติที่เหมาะกับรถยนต์ ทั้งเรื่องของน้ำหนัก ความคงทน การใช้งานบนถนน ซึ่งยาง OEM จะเน้นความเสถียร และความสมดุลกับการใช้งาน

• ดีไซน์ให้เข้ากับรถ

เนื่องจากยาง OEM เป็นยางที่ได้ออกแบบเฉพาะเพื่อรถยนต์รุ่นนั้น ๆ ดีไซน์ของยางจึงสอดคล้องกับภาพลักษณ์ของรถ เช่น รถยนต์ Audi และรถยนต์ BMW เลือกยางรถยนต์ Pirelli P Zero PZ4 เป็นยาง OEM เพราะนอกจากจะมีสมรรถนะของยางที่ดีแล้ว รูปลักษณ์และดีไซน์ของยางยังมีความสปอร์ต ตอบโจทย์รถได้เป็นอย่างดี

ยางรถยนต์ OEM เป็นยางจากโรงงานที่มีระยะเวลาการใช้งานเหมือนยางรถยนต์ทั่วไป คือประมาณ 2 – 3 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร เมื่อยางเสื่อมประสิทธิภาพจำเป็นต้องเปลี่ยนยางใหม่ ซึ่งยางรถยนต์ที่เปลี่ยนใหม่ไม่จำเป็นต้องเป็นยางรุ่นเดียวกับยาง OEM แต่ควรเลือกยางที่เหมาะสมกับการใช้งานของรถ

การเลือกยางรถยนต์ให้เหมาะกับรถ

ยาง OEM เป็นยางที่ติดมาจากโรงงาน แต่เมื่อถึงเวลาเปลี่ยนยางใหม่การหายางรุ่นเดียวกัน ยี่ห้อเดียวกันกับยาง OEM อาจจะทำได้ยาก ยางรถยนต์ที่วางจำหน่ายทั่วไปจึงเป็นทางเลือกที่สะดวกกว่า มีวิธีการเลือกยางรถยนต์ให้เหมาะกับรถยนต์ดังนี้

• ขนาดของยางรถยนต์

ยางรถยนต์ทุกเส้นมีการระบุขนาดยางเอาไว้ เมื่อต้องการเปลี่ยนยางเส้นใหม่จึงควรเลือกยางที่มีขนาดเท่าเดิม หรือหากต้องการเปลี่ยนขนาดเพื่อให้ตอบสนองต่อการใช้งานได้มากขึ้น ควรเลือกยางที่ขนาดใกล้เคียงของเดิม และปรึกษาช่างก่อนการเปลี่ยนทุกครั้ง

• ประเภทของยางรถยนต์

การเลือกใช้ยางให้ถูกประเภทจะส่งเสริมการขับเคลื่อนของรถยนต์ โดยหลัก ๆ ยางจะมี 3 ประเภท คือ 1.) Highway Terrain ยางสำหรับถนนเรียบและถนนในเมือง 2.) All Terrain ยางสำหรับวิ่งบนทางขรุขระเล็กน้อย และ 3.) Mud Terrain ยางสำหรับถนนวิบาก และรถบรรทุกหนัก จะเห็นว่ายางแต่ละประเภทใช้งานต่างกัน ก่อนการเปลี่ยนยางจึงควรเลือกยางที่เหมาะกับการใช้งานและความเหมาะสมกับรถด้วย

• คุณภาพและมาตรฐานของยางรถยนต์

การตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐานของยางรถยนต์ที่ง่ายที่สุดคือการดูรีวิวผู้ใช้จริง ควรเป็นยางที่คนให้ความไว้วางใจ ซึ่งยาง Pirelli ก็เป็นแบรนด์หนึ่งที่ได้รับความไว้วางใจมาอย่างยาวนาน ใช้งานกับรถยนต์ได้หลากหลายประเภท รวมถึงรถยนต์ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ไม่ใช่เฉพาะรถแบรนด์หรูเท่านั้น เป็นอีกตัวเลือกที่เหมาะสมกับรถยนต์ในปัจจุบัน

ยางรถยนต์มีความสำคัญกับรถยนต์ แน่นอนว่ายาง OEM ถูกผลิตมาเพื่อให้สอดคล้องกับการใช้งานของรถยนต์แต่ละรุ่น แต่เมื่อถึงเวลาเปลี่ยนยาง บางคนอาจจะมองหายางยี่ห้อเดียวกับยาง OEM ซึ่งยางรถยนต์ Pirelli ก็เป็นยาง OEM ของรถยนต์หลายรุ่น หรือหากมองหายางรถยนต์ที่ตอบโจทย์การใช้งานหลากหลาย คุณภาพดี ได้รับความไว้วางใจจากผู้ผลิตรถยนต์และผู้ขับขี่มาอย่างยาวนาน ยางรถยนต์ Pirelli ก็ตอบโจทย์อีกเช่นกัน ด้วยประสบการณ์การผลิตยางมากว่า 151 ปี มียางให้เลือกหลายรุ่นที่เหมาะกับการใช้งานกับรถยนต์ทั่วไป พร้อมโปรโมชั่นสำหรับการซื้อยางรถยนต์ Pirelli by ATV รับประกันยาง 1 ปี หรือ 25,000 กิโลเมตร เมื่อเกิดปัญหาอุบัติเหตุแล้วยางบาด บวม และแตก ติดต่อ Pirelli ได้ทางเฟซบุ๊ก m.me/PirellibyAsiatires