ขับรถขึ้นเขาเกียร์ออโต้ มือใหม่ก็ไปได้
วันหยุดยาวเป็นช่วงเวลาที่หลายคนวางแผนเดินทางท่องเที่ยวพักผ่อนตามสถานที่ต่าง ๆ หนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ถือเป็นความท้าทายก็คือการขับรถขึ้นเขา แถมบางเส้นทางขึ้นชื่อว่าเป็นจุดปราบเซียนอยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะมือใหม่หัดขับและผู้ที่ไม่ชำนาญเส้นทาง อย่างเช่นการขับรถขึ้นเขา ลงเขาที่สูงชัน หรือมีเส้นทางคดเคี้ยวตามผาสูงชัน ซึ่งเส้นทางลักษณะนี้จำต้องใช้ทักษะในการขับขี่หลายอย่างไปพร้อม ๆ กัน สำหรับมือใหม่หัดขับที่อยากไปเที่ยวภูเขาแต่มีความกังวลใจ เพราะไม่รู้วิธีเปลี่ยนเกียร์ออโต้ขณะขับขึ้นเขา ตามมาดูวิธีขับรถเกียร์ออโต้ขึ้นเขา ลงเขาที่ถูกต้องและปลอดภัยกัน
สิ่งที่ควรรู้ ก่อนขับรถเกียร์ออโต้ขึ้นเขา
เกียร์ออโต้ หรือ Automatic เป็นเกียร์รถยนต์ที่ช่วยให้ขับรถได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่ต้องใช้รถบนในเมือง เพราะแค่ใช้เกียร์ D ก็สามารถขับเคลื่อนรถไปในเส้นทางที่ต้องการได้ทันที แต่วิธีขับรถขึ้นเขาเกียร์ออโต้ไม่ใช่แบบนั้น โดยก่อนไปดูคำตอบว่าการขับรถเกียร์ออโต้ขึ้นเขา ลงเขา ต้องใช้เกียร์อะไร มาดูกันว่าสิ่งที่ผู้ขับขี่ต้องเตรียมพร้อมก่อนขับรถขึ้นเขามีเรื่องใดบ้าง
พักรถก่อนขึ้น
หากขับรถมาจากสถานที่ห่างไกล เช่น ขับรถจากระยองไปเที่ยวภูทับเบิก ควรพักรถไว้ก่อนสักประมาณ 30 นาทีเป็นอย่างต่ำ เพื่อให้เครื่องยนต์และหม้อน้ำเย็นลงก่อนจะขึ้นเขา เพราะยิ่งขับรถขึ้นเขาที่มีความสูงชันอาจทำให้เครื่องยนต์ร้อนมากหรือหม้อน้ำระเบิดได้
ห้ามแซงทางโค้ง
โค้งหักศอกเป็นอีกหนึ่งจุดที่อันตราย เพราะระยะการมองเห็นอาจแคบลง ทำให้อาจมองไม่เห็นรถที่ขับสวนมา แนะนำให้ชะลอความเร็วและขับรถชิดซ้ายไว้ และไม่ควรขับแซงกันในเส้นทางช่วงที่มีโค้ง เพื่อความปลอดภัยทั้งของตนเองและเพื่อนร่วมทาง แต่ถ้าต้องการแซงจริง ๆ ควรหาจังหวะแซงในจุดที่ไม่ใช่ทางโค้ง และถ้าขับแซงตรงบริเวณที่เป็นจุดอับสายตา รวมถึงบีบแตรเป็นสัญญาณเตือนรถที่สวนทางมาด้วย
ควรใช้เกียร์ต่ำช่วงขึ้นเขา
แม้การขับรถเกียร์ออโต้ขึ้นเขาส่วนใหญ่ใช้แค่เพียงเกียร์ D ก็เพียงพอ แต่กรณีที่เจอทางลาดชันมาก ๆ ควรเปลี่ยนจากเกียร์ D มาเป็นเกียร์ L แทน อย่างไรก็ดีเกียร์ L ของรถยนต์บางยี่ห้ออาจถูกเรียกด้วยชื่ออื่น เช่น เกียร์ S เกียร์ B เกียร์ D2 หรือเกียร์ D3 ฉะนั้นควรศึกษาข้อมูลเกียร์รถยนต์จากคู่มือประจำรถอย่างละเอียด เพื่อให้ทราบว่ารถยนต์ที่ใช้งานอยู่ เกียร์ไหนเหมาะใช้ขับรถขึ้นเขา
หากได้กลิ่นไหม้ให้รีบจอดทันที
ถ้าขณะขับรถขึ้นเขาแล้วได้กลิ่นเหม็นไหม้หรือมีควันออกจากฝากระโปรงรถ แนะนำให้เปิดไฟฉุกเฉินเพื่อแจ้งเตือนเพื่อนร่วมทาง จากนั้นให้รีบนำรถเข้าไปจอดในที่ปลอดภัยทันที โดยสาเหตุที่ทำให้เกิดกลิ่นไหม้อาจเกิดจากเครื่องยนต์ร้อนมากเกินไปหรือเบรกไหม้
เว้นระยะห่างจากคันหน้า
ไม่ได้มีแค่การขับรถบนทางราบเท่านั้น ที่ควรเว้นระยะห่างจากรถคันหน้าเพื่อความปลอดภัย เพราะการขับรถขึ้นเขาซึ่งเป็นเส้นทางที่ต้องใช้ความระมัดระวังสูง ผู้ขับขี่ก็ควรเว้นระยะห่างมากกว่าปกติ เพื่อเผื่อระยะในการเบรกเวลาเกิดเหตุไม่คาดฝัน
ควบคุมความเร็ว
การขับเกียร์ออโต้ขึ้นเขาควรต้องเร่งเครื่องอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ เพื่อเพิ่มกำลังส่งขณะขึ้นเขาและเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุรถไหลมาชนรถคันอื่นที่ขับตามมา
6 เทคนิคการขับขึ้นเขา ที่มือใหม่หัดขับควรรู้
(1) ใช้เกียร์ D ในการขับรถขึ้นเขา แต่ถ้าเส้นทางมีความลาดชันมาก ให้เปลี่ยนตำแหน่งมาที่เกียร์ D1 เกียร์ D2 หรือเกียร์ L (ขึ้นอยู่กับรถแต่ละรุ่น) เพื่อช่วยเพิ่มพละกำลังให้กับเครื่องยนต์ และเปลี่ยนมาใช้เกียร์ D กรณีที่วิ่งบนทางราบ
(2) เหยียบคันเร่งตามจังหวะความชันพยายามให้รอบเครื่องอยู่ประมาณ 2,000-3,500 รอบ อย่าให้เกิน 4,500 รอบ
(3) ควบคุมความเร็วรถให้อยู่ที่ประมาณ 50-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
(4) พยายามเว้นระยะห่างจากรถคันหน้าประมาณ 30-50 เมตร หรือ 2 ช่วงรถ เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินอย่างรถคันหน้าขึ้นไม่ไหวแล้วไหลกลับลงมา รถเบรกกะทันหัน หรือมีรถเสียกลางทาง จะได้หลบเลี่ยงได้อย่างปลอดภัย
(5) การขับรถขึ้นเขาทำให้เจอกับทางโค้งเป็นระยะ ฉะนั้นผู้ขับขี่ควรมองเส้นทางด้านหน้าให้ไกลเข้าไว้ เพื่อจะได้เห็นว่ามีรถสวนมาหรือไม่ หรือเส้นทางข้างหน้าเป็นโค้งซ้ายหรือขวา
(6) ทางโค้งแคบที่มีสันเขาบังสายตาหรือมีหมอกลงจัดไม่แนะนำให้ขับแซง แต่ถ้าต้องการขับแซงรถข้างหน้าจริง ๆ ให้บีบแตรส่งสัญญาณก่อนทุกครั้งเพื่อแจ้งให้รถด้านหน้าและป้องกันรถที่วิ่งสวนมา
จะเห็นได้ว่าหัวใจสำคัญของการขับรถเกียร์ออโต้ขึ้นเขา คือ การควบคุมความเร็วรถกับเกียร์ให้ทำงานสัมพันธ์กัน เพื่อให้รถเคลื่อนตัวไปยังจุดหมายปลายทางได้อย่างปลอดภัย ไม่เกิดปัญหาเครื่องยนต์ทำงานหนักจนไปหรือเบรกแตก นอกเหนือจากนี้การเช็กรถก่อนออกเดินทางไกลที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการท่องเที่ยว
เพื่อลดโอกาสเกิดเหตุไม่คาดฝันการเลือกใช้ยางรถยนต์คุณภาพดีตอบโจทย์การใช้งานหลากหลาย จาก Pirelli แบรนด์ยางรถยนต์ที่ได้รับความไว้วางใจผู้ขับขี่มาอย่างยาวนาน ทั้งมาพร้อมเทคโนโลยียางสุดล้ำ เช่น ยาง Run Flat ที่ช่วยให้รถวิ่งต่อไปได้แม้ยางแบน ยาง Seal Inside ที่ปะยางตนเองได้ในกรณีที่รอยแผลบนยางไม่ลึก รวมถึงการรับประกันยางกรณีเปลี่ยนยางรถยนต์ 4 ล้อ กับ Pirelli by ATV ผู้นำเข้าสินค้าจากต่างประเทศแบบถูกกฎหมาย และลงทะเบียนภายใน 14 วัน ได้รับสิทธิประกันยางรถยนต์ฟรี 1 ปี หรือ 25,000 กิโลเมตร กรณียางบาด บวม และแตกจากอุบัติเหตุต่าง ๆ สำหรับผู้สนใจยาง Pirelli สามารถเลือกซื้อได้ตามร้านจำหน่ายยางตัวแทนจำหน่ายของ Pirelli by ATV หรือทางออนไลน์