ทำความรู้จักแบรนด์รถ EV ในไทยก่อนซื้อ
ตอนนี้เมื่อคิดมองหารถใหม่สักคัน เชื่อว่าใครหลายคนให้ความสนใจรถยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle) หรือที่เรียกกันสั้น ๆ ว่า รถ EV ที่มีสมรรถนะในการทำงานใกล้เคียงกับรถยนต์สันดาป ซึ่งเป็นรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง ด้วยมองว่า รถ EV มีข้อดีอย่างรูปลักษณ์สวยงาม ประหยัดค่าใช้จ่ายในยุคน้ำมันแพง และไม่สร้างมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม สำหรับใครที่กำลังลังเลหรือกำลังตัดสินใจว่า ควรซื้อรถยนต์ไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี บทความนี้จะพาไปทำความรู้จักกับแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าที่น่าสนใจในไทยกันให้มากขึ้น
รถยนต์ไฟฟ้ามีกี่ประเภท
อันดับแรกมาทำความเข้าใจกันก่อนว่า รถ EV ที่วางจำหน่ายอยู่ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า แบ่งเป็น 4 ประเภทหลัก ๆ โดยแต่ละประเภทมีรายละเอียดที่น่าสนใจ ดังนี้
(1) รถยนต์ไฟฟ้าประเภทไฮบริด
รถยนต์ไฟฟ้าประเภทไฮบริด (Hybrid Electric Vehicle: HEV) หรือที่เรียกกันว่า รถยนต์ไฟฟ้าพลังงานผสม เป็นยานพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วยการทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์สันดาปและมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้รถ EV ประเภทนี้มีกำลังและอัตราการเร่งที่สูงกว่ารถยนต์ที่มีเครื่องยนต์ขนาดเดียวกัน ทั้งยังลดอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันได้มากกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันเพียงอย่างเดียวด้วย ถึงจะขึ้นชื่อว่าเป็นรถ EV แต่รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริดไม่ต้องเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟ เพราะใช้พลังงานจลน์ที่ได้จากเครื่องยนต์เปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้าแล้วนำมาเก็บไว้ในแบตเตอรี่ ก่อนนำมาจ่ายเป็นพลังงานให้กับมอเตอร์ไฟฟ้าต่อไป
(2) รถยนต์ไฟฟ้าประเภทปลั๊กอินไฮบริด
มาต่อกันที่รถยนต์ไฟฟ้าประเภทปลั๊กอินไฮบริด (Plug-in Hybrid Vehicle: PHEV) เป็นรถยนต์ที่มีลักษณะการทำงานและชิ้นส่วนคล้ายกับรถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด แต่ต่างกันที่รถ PHEV สามารถชาร์จไฟฟ้าจากภายนอกได้ ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าประเภทนี้สามารถสลับไปใช้งานการขับเคลื่อนด้วยระบบมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวในระยะสั้น ๆ ได้
(3) รถยนต์ไฟฟ้าประเภทเซลล์เชื้อเพลิง
ขณะที่รถยนต์ไฟฟ้าประเภทเซลล์เชื้อเพลิง (Fuel Cell Electric Vehicle: FCEV) เป็นรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นหลัก แต่ใช้เทคโนโลยีไฮโดรเจนในการผลิตพลังงานไฟฟ้า ซึ่งไฮโดรเจนที่ว่านี้จะถูกเก็บอยู่ในรูปแบบของเหลว ก่อนจะถูกส่งไปที่แผงเซลล์ร่วมกับอากาศที่มีออกซิเจน เพื่อทำปฏิกิริยาในการสร้างไฟฟ้า จากนั้นไฟฟ้าจะถูกส่งไปเก็บไว้ที่แบตเตอรี่เพื่อใช้เป็นพลังงานให้กับมอเตอร์ไฟฟ้าต่อไป เมื่อพิจารณาจากข้อมูลข้างต้น ทำให้รถยนต์ประเภทนี้ต้องเติมพลังงานไฮโดรเจนแทนการชาร์จไฟ
(4) รถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่
สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (Battery Electric Vehicle: BEV) หรือรถยนต์ไฟฟ้า (รถ EV) ที่ต่างคุ้นเคยกันดี โดยรถ EV ประเภทนี้ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว ซึ่งมีข้อดีตรงที่ไม่มีการปล่อยควันไอเสียออกมาเลย แต่มีข้อเสียตรงต้องชาร์จพลังงานไฟฟ้าก่อนใช้งานทุกครั้ง ทำให้ผู้ขับขี่ต้องคำนวณระยะทางการเดินทางต่อพลังงานไฟฟ้าก่อนขับรถทางไกลเสมอ
แนะนำ 5 แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าที่น่าสนใจในประเทศไทย
- รถไฟฟ้า Tesla
Tesla ที่ถือได้ว่าเป็นผู้นำในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในอันดับต้น ๆ ดัวยมีสมรรถนะการเดินทางที่เทียบเท่าหรือใกล้เคียง Supercar และเทคโนโลยีช่วยขับอย่าง Autopilot ที่มีการ ใช้ AI ขับแทนคน โดยเชื่อมต่อกับเซ็นเซอร์และระบบต่างๆ อย่างกล้องผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต นอกจากเรื่องของพลังงานไฟฟ้าและเทคโนโลยีแล้ว รถยนต์ไฟฟ้า Tesla ยังมีความโดดเด่นเรื่องของการออกแบบ เนื่องจากเทสล่าไม่มีเครื่องยนต์ทำให้สามารถดีไซน์ทั้งภายนอกและภานในออกมาได้อย่างอิสระ เป็นผลให้มีพื้นที่เก็บของเป็นจำนวนมากทั้งกระโปรงหน้าและกระโปรงหลัง ขณะที่ภายในเน้นเรียบง่ายแต่หนักไปทางเทคโนโลยีในการควบคุมผ่านหน้าจอ สำหรับโมเดลรถไฟฟ้าเทสล่า ได้แก่ รถยนต์ไฟฟ้า Model S, Model 3, Model X และ Model Y
- รถไฟฟ้า BYD
BYD เป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีน ที่แต่เดิมมีผลิตภัณฑ์หลักคือแบตเตอรี่มือถือ ก่อนที่ BYD จะก้าวเข้าสู่วงการรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเป็นทางการ ในปี 2008 บริษัทก็สามารถพัฒนารถรุ่น F3DM ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบบปลั๊ก-อินไฮบริดคันแรกของโลกได้สำเร็จ โดยใช้ความชำนาญของการเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่มาพัฒนาต่อยอด ส่งผลให้ปัจจุบันมีรถยนต์ไฟฟ้า BYD หลากหลายรุ่นที่น่าสนใจ เช่น BYD ATTO 3 รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกที่ BYD เข้ามาทำตลาดในไทย หรือ BYD DOLPHIN รถแบบแฮทช์แบ็ค ที่โดดเด่นด้วยการออกแบบจากรูปทรงโลมาตั้งแต่ภายนอกจนถึงภายใน เป็นต้น
- รถไฟฟ้า ORA
ORA เป็นแบรนด์รถไฟฟ้า100% จากค่าย GWM หรือ Great Wall Motor ที่มาพร้อมเทคโนโลยีและนวัตกรรมอันชาญฉลาดและล้ำสมัย เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปสู่โลกที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น โดยรถยนต์ไฟฟ้าจากแบรนด์ ORA ที่ต่างคุ้นตากันดี คือ ORA Good Cat รถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะที่ไม่เพียงแต่มีรูปโฉมที่สวยงาม แต่ยังอัดแน่นไปด้วยนวัตกรรมสมัยใหม่ ๆ จึงไม่แปลกที่รถไฟฟ้า ORA รุ่นนี้ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี และเป็นที่พูดถึงกันอย่างรวดเร็วในเมืองไทย
- รถไฟฟ้า NETA
NETA เป็นแบรนด์รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ที่อยู่ภายใต้บริษัท Hozon New Energy Automobile หรือ Hozon Auto ยักษ์ใหญ่จากจีน ที่วางแผนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางธุรกิจรถไฟฟ้าในภูมิภาคอาเซียน พร้อมเล็งส่งรถยนต์ไฟฟ้า NETA (เนต้า) เข้าสู่ตลาดอย่างน้อยปีละ 1 รุ่น ซึ่งปัจจุบันค่าย NETA มีรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ทำตลาด 3 รุ่น ได้แก่ NETA U รถยนต์พลังงานไฟฟ้าสไตล์ SUV, NETA V รถยนต์พลังงานไฟฟ้าสไตล์ City Car รวมไปถึง NETA S รถยนต์พลังงานไฟฟ้าสไตล์สปอร์ต
- รถไฟฟ้า MG
MG (เอ็มจี) หรือ Morris Garages เป็นรถยนต์แบรนด์แรกของประเทศอังกฤษ ก่อตั้งบริษัทครั้งแรกเมื่อปี 1924 ในอดีตแบรนด์ MG มีชื่อเสียงโด่งดังมาจากการผลิตรถสปอร์ตเปิดประทุนสุดคลาสสิก รวมไปถึงรถยนต์ MG รุ่นต่าง ๆ ที่ถูกส่งไปตีตลาดรถทั่วโลก ก่อนค่าย MG จะหันมาพัฒนารถ EV เพื่อร่วมแข่งขันในตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้า โดยรถ EV รุ่นเริ่มต้นจาก MG ที่เป็นที่รู้จักกันดี ก็คือ MG ZS EV รถยนต์ไฟฟ้า 100% ประเภท SUV ที่มาพร้อมดีไซน์โดดเด่นสะดุดตา ตามมาด้วย MG EP PLUS รถยนต์ไฟฟ้า 100% สไตล์ Wagon ที่มีความเรียบหรูถูกใจวัยเก๋าและคนมีครอบครัวไม่น้อยทีเดียว นอกจากนี้ในเมืองไทยยังมีรถไฟฟ้า MG อีกหลากหลายรุ่นที่น่าสนใจ
จะเห็นได้ว่าค่ายรถยนต์แต่ละแห่งหันมาให้ความสนใจอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น ทำให้ตลาดรถยนต์ทั่วโลก มีรถ EV จากหลากค่าย หลายรุ่นให้เลือกซื้อมาใช้งานในชีวิตประจำวันตามไลฟ์สไตล์และความชื่นชอบของแต่ละบุคคล แน่นอนว่าไม่ได้มีแค่แหล่งพลังงานที่ใช้ในการขับเคลื่อนรถ EV ที่แตกต่างจากรถยนต์ทั่วไป กระทั่งยางรถยนต์ที่ช่วยให้รถเคลื่อนที่อย่างปลอดภัยก็มีความต่างกัน เนื่องจากยางรถยนต์ไฟฟ้าต้องมีคุณสมบัติความทนทานต่อการรับน้ำหนักที่มาก เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้าหรือยางรถ EV เกือบทุกรุ่นจะมีขนาดแบตเตอรี่ที่ใหญ่ ประกอบกับยางรถยนต์ไฟฟ้าถูกถูกออกแบบมาให้มีความทนทานต่อแรงบิดสูง ดังนั้นถ้าฝืนใช้ยางรถยนต์ทั่วไป ในระยะยาวอาจส่งผลให้ยางสึกหรอได้เร็วกว่าปกติ จนนำไปสู่การเปลี่ยนยางเส้นใหม่บ่อยกว่าปกติ
สำหรับใครที่สนใจยางรถ EV แบรนด์ Pirelli ที่มี ELECT™ เทคโนโลยีแห่งความล้ำยุคสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ ช่วยให้เดินทางได้ไกลกว่าเดิม ลดการสูญเสียพลังงาน และประหยัดแบตเตอรี่ได้มากขึ้น โดยสามารถค้นหาร้านยาง Pirelli ใกล้ฉัน แล้วขอคำปรึกษาเพื่อให้ได้ยางรถ EV ที่ตอบโจทย์การใช้งานอย่างครอบคลุม ที่สำคัญเมื่อเลือกซื้อยางพิเรลลี่พร้อมกัน 4 เส้น/ใบเสร็จ ผ่าน Pirelli Thailand ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ รับไปเลยการประกันยางบาด บวม และแตก ที่สามารถเคลมฟรี 1 ปี หรือระยะทาง 25,000 กิโลเมตร โดยอยู่ภายใต้เงื่อนไขของบริษัท สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่อินบอกซ์เฟซบุ๊ก Pirelli Authorized Distributor by ATV Thailand