Pirelli Thailand by ATV เช็คราคายานยนต์ ออนไลน์

สำหรับเจ้าของรถใหม่ป้ายแดงที่ซื้อรถมาได้สักพักหนึ่งแล้ว อยากจะต่อภาษีรถยนต์ประจำปี แต่ต้องตรวจสภาพรถ ที่ ตรอ. ก่อน ซึ่งไม่เคยทราบมาก่อนว่าจะต้องทำแบบนี้ด้วย บทความนี้ Pirelli จะพาคุณไปทำความรู้จักกับการตรวจสภาพ ตรอ. ว่าคืออะไร ต้องตรวจอะไรบ้าง พร้อมกับคำถามที่หลายคนอาจสงสัย เช่น ตรอ. เปิดวันไหนบ้าง เปิดกี่โมง ไปวันอาทิตย์จะตรวจได้ไหม และอื่น ๆ ที่คนมีรถจำเป็นต้องรู้อีกมากมาย 

ตรวจสภาพรถ ตรอ. คืออะไร

ตรอ. ย่อมาจาก สถานตรวจสภาพรถเอกชน หรือสถานที่ตรวจสอบสภาพรถยนต์หรือจักรยานยนต์ที่ได้รับอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบก ให้เป็นสถานที่ตรวจสภาพรถ​ ว่ามีความพร้อมใช้งานเพียงใด เพื่อลดอุบัติเหตุบนท้องถนน และไม่สร้างมลพิษทางอากาศ โดยผู้ขับขี่ที่นำรถเข้ารับการตรวจสภาพกับ ตรอ. จะได้ใบรับรองการตรวจสภาพรถยนต์ที่ระบุว่ารถยนต์ของคุณพร้อมใช้งาน เพื่อนำไปใช้ประกอบการต่อภาษีรถยนต์ประจำปี โดยไม่ต้องไปรอตรวจสภาพรถที่กรมการขนส่งทางบก หรือสำนักงานขนส่ง

ตรวจสภาพรถ ตรอ. ควรทำตอนไหน 

หากถามว่า ควรนำรถไปตรวจสภาพที่ ตรอ. หรือไม่ ? คำตอบคือ ไม่ว่าจะออกเดินทางไปไหน เดินทางใกล้หรือไกล แม้แต่ก่อนขับรถเที่ยวต่างจังหวัดก็ควรตรวจเช็กรถให้พร้อมก่อนเดินทางเสมอ เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันเวลาขับรถทางไกล ในกรณีที่อาจหาศูนย์บริการรถยนต์ หรืออู่ซ่อมลำบาก ที่สำคัญการเช็กสภาพรถจะช่วยให้ผู้ขับขี่ทราบถึงจุดบกพร่อง หรือความเสื่อมสภาพของอะไหล่และอุปกรณ์ในส่วนต่าง ๆ ของรถ สามารถดำเนินการแก้ไขข้อบกพร่องได้อย่างทันท่วงที นอกจากจะทำให้ทริปเที่ยวเป็นไปอย่างราบรื่น ยังลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุอันตรายบนท้องถนนอีกด้วย

วิธีค้นหาสถานตรวจสภาพรถเอกชน ใกล้ฉัน

mechanic-composition

ปัจจุบันผู้ขับขี่สามารถค้นหา ตรอ. ใกล้ฉัน ได้ผ่าน Google หรือ Google Map โดยการค้นหา ตรวจสภาพรถ ตรอ. ใกล้ฉัน ซึ่งจะมีการแสดงข้อมูลสถานตรวจสภาพรถเอกชนที่อยู่ใกล้ตำแหน่งของคุณที่สุด รวมถึงแผนที่ที่ตั้งศูนย์ตรวจสภาพรถ ตรอ. และบางแห่งอาจมีข้อมูลรีวิวการให้บริการจากผู้ขับขี่รายอื่น ๆ ทำให้สามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าควรเลือกไปตรวจสภาพรถที่ไหนดี ขณะเดียวกันหากไม่อยากเช็กข้อมูลผ่าน Google หรือ Google Map ผู้ขับขี่ก็สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ที่สำนักงานขนส่งประจำจังหวัดผ่านเว็บไซต์ของกรมการขนส่งทางบก เพื่อตรวจสภาพรถที่ได้รับอนุญาตจากกรมขนส่งทางบก

ช่างตรวจสภาพรถ 

ตรวจสภาพรถ ตรอ. มีประโยชน์ทั้งต่อภาษีรถและเวลาเดินทางไกล

ตรวจสภาพรถ ตรอ. ราคเท่าไหร่

ค่าใช้จ่ายสำหรับการตรวจสภาพรถยนต์ที่ ตรอ. มีการกำหนดราคาจากกรมการขนส่งทางบก ตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 ไว้ดังนี้

  • รถจักรยานยนต์ คันละ 60 บาท
  • รถยนต์ที่มีน้ำหนักรถเปล่าไม่เกิน 1,600 กิโลกรัม คันละ 150 บาท
  • รถยนต์ที่มีน้ำหนักรถเปล่าเกิน 1,600 กิโลกรัม คันละ 250 บาท

ตรวจสภาพรถ ตรอ. ใช้เอกสารอะไรบ้าง

เอกสารหรือสิ่งที่ผู้ขับขี่ต้องเตรียมให้พร้อมก่อนนำรถยนต์เข้าไปตรวจเช็กที่สถานตรวจสภาพรถเอกชนหรือ ตรอ. เพื่อให้สามารถดำเนินไปได้อย่างรวดเร็วแบบไม่ติดขัด ประกอบด้วย

  • ใบคู่มือจดทะเบียนรถหรือเล่มทะเบียนรถ สามารถใช้ได้ทั้งฉบับจริงหรือสำเนา
  • ยานพาหนะที่ต้องเข้ารับการตรวจสภาพ
  • เงินค่าตรวจสภาพรถ

วิธียื่นต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์หลังตรวจสภาพรถ ตรอ. ใกล้ฉัน 

ในการยื่นต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ สิ่งหนึ่งที่ต้องรู้ก่อนเลยก็คือ สถานตรวจสภาพรถ ตรอ. เอกชน แต่ละแห่ง อาจจะมีการอัปเดตข้อมูลเข้าระบบช้าเร็วไม่เท่ากัน แต่โดยมากแล้วจะกินระยะเวลาไม่เกิน 1 – 2 วัน ก่อนดำเนินการยื่นต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ด้วยขั้นตอนเหล่านี้ 

  1. เข้าไปที่เว็บไซต์ https://eservice.dlt.go.th/esvapp/login.jsf
  2. ล็อกอินเข้าสู่ระบบตามขั้นตอนปกติ
  3. กดเลือก “ยื่นชำระภาษีรถยนต์ประจำปี”
  4. ลงทะเบียนข้อมูลรถที่ต้องการต่อภาษี 
  5. ระบบจะทำตรวจสอบ พ.ร.บ. รถยนต์ และการตรวจสภาพรถ ตรอ. ของรถยนต์คันที่ลงทะเบียน 
  6. เมื่อเงื่อนไขผ่านเกณฑ์ทั้งหมด จะสามารถกดชำระภาษีประจำปีได้ทันที พร้อมเลือกช่องทางการชำระเงิน
  7. รอรับป้ายภาษีรถยนต์ตามข้อมูลที่อยู่จัดส่งที่กรอกไว้

ทำไมต้องตรวจสภาพรถ ตรอ.

changing-car-wheels

สำหรับคนที่เพิ่งออกรถใหม่อาจยังไม่คุ้นเคยกับการตรวจสภาพรถยนต์กับ ตรอ. ก่อนต่อภาษีรถยนต์ประจำปี จนถึงขั้นมีการตั้งคำถามว่าทำไมต้องตรวจด้วย ทั้ง ๆ ที่ผ่านมาก็สามารถยื่นต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ได้ทันที ด้วยเหตุนี้ Pirelli ได้รวบรวมคำถามสุดฮิตเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวมาฝาก ไม่ว่าจะตรวจสภาพรถ ตรอ. ใกล้ฉัน ได้ที่ไหน ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง ราคาเท่าไหร่ แล้วรถอายุเท่าไหร่ถึงต้องใช้บริการ ตรอ. มาดูคำตอบกัน

ตรอ. ตรวจอะไรบ้าง

การตรวจเช็กสภาพรถแต่ละครั้ง ก่อนนำไปต่อภาษีรถยนต์ประจำปี ตรวจอะไรกันบ้าง? Pirelli มีเช็กลิสต์ขั้นตอนการตรวจของ ตรอ. มาให้คุณแล้ว ดังนี้ 

ตรวจสอบข้อมูลของรถว่าถูกต้องหรือไม่ เช่น ลักษณะของรถ ยี่ห้อรถ หมายเลขตัวรถ แผ่นป้ายทะเบียน เป็นต้น

  1. ตรวจสอบระบบภายใน เช่น ระบบเชื้อเพลิง ระบบบังคับเลี้ยว เป็นต้น
  2. ตรวจสอบสภาพตัวรถ เช่น พวงมาลัย ที่ปัดน้ำฝน สี ตัวถัง เป็นต้น
  3. ตรวจวัดโคมไฟหน้า เพื่อดูทิศทางการเบี่ยงเบนของแสง และวัดค่าความเข้มของแสงไฟโคมหน้า
  4. ตรวจสอบระบบเบรก และอะไหล่ต่าง ๆ ว่ายังอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานหรือไม่
  5. ตรวจสอบควันดำ กรณีที่รถของคุณเป็นเครื่องยนต์ดีเซล จำเป็นต้องตรวจควันดำ ด้วยเครื่องวัดควันดำระบบการกรองต้องวัดค่าได้ไม่เกิน 50% และเครื่องวัดควันดำระบบความทึบแสงไม่เกิน 45%
  6. ตรวจวัดก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ และก๊าซไฮโดรเจน หากรถของคุณเป็นรถยนต์ส่วนบุคคลที่นั่งไม่เกิน 7 คน 
  7. ตรวจวัดเสียงรถ ต้องเสียงดังไม่เกิน 100 เดซิเบล

รถอายุกี่ปี ที่ต้องไปตรวจสภาพรถ ตรอ.

สำหรับผู้ขับขี่ที่สงสัยว่า ตรวจสภาพรถ ตรอ. แล้วรถที่อายุเกิน 7 ปี ต้องตรวจสภาพทุกปีไหม? คำตอบคือ กรมการขนส่งทางบกได้กำหนดให้รถยนต์ที่มีอายุใช้งานครบ 7 ปี และรถจักรยานยนต์ที่มีอายุใช้งานครบ 5 ปี ต้องนำรถไป ตรอ. เพื่อตรวจภาพรถก่อนที่จะต่อภาษีรถประจำปี โดยแบ่งประเภทของรถได้ดังนี้

  • รถยนต์ส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง ที่มีอายุการใช้งาน 7 ปีขึ้นไป
  • รถยนต์ส่วนบุคคลเกิน 7 ที่นั่ง ที่มีอายุการใช้งานรถยนต์ 7 ปีขึ้นไป
  • รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลที่มีอายุการใช้งานรถครบ 7 ปีขึ้นไป
  • รถจักรยานยนต์ที่มีอายุการใช้งาน 5 ปีขึ้นไป
  • รถยนต์ที่ติดตั้งก๊าซธรรมชาติ NGV และ LPG (จำเป็นต้องตรวจทุกปีก่อนต่อภาษีรถยนต์)

 ทั้งนี้ผู้ขับขี่สามารถนับอายุการใช้งานของรถว่าเมื่อไหร่ควรตรวจสภาพรถยนต์ก่อนต่อภาษีประจำปีได้ง่าย ๆ ด้วยการเริ่มนับตั้งแต่วันที่จดทะเบียนครั้งแรกจนถึงวันที่สิ้นอายุภาษีประจำปี (วันครบกำหนดเสียภาษีประจำปี) นอกจากนี้สามารถนำรถไปตรวจสภาพกับ ตรอ. ได้ล่วงหน้าไม่เกิน 3 เดือนก่อนวันหมดอายุภาษีประจำปี

รถแบบไหนที่ไม่สามารถตรวจสภาพ ตรอ. ได้

รถที่ไม่สามารถตรวจสภาพกับ ตรอ. ได้ มีดังนี้

  1. รถยนต์ที่มีการดัดแปลงสภาพ หรือไม่ตรงตามข้อมูลที่ระบุไว้ในเล่มทะเบียนรถ เช่น สีตัวรถ หรือการดัดแปลงต่าง ๆ
  2. รถที่ถูกโจรกรรม และพึ่งได้คืนมา
  3. รถที่ไม่ปรากฎเลขเครื่องยนต์ ในกรณีนี้ อาจเกิดจากอายุการใช้งานของรถทำให้เลขระบุเลือนหายไป ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบได้ 
  4. รถยนต์เก่า เช่น รถที่มีเลขทะเบียนเป็นรุ่นเก่า กท-00001 กทจ-0001 เป็นต้น ในกรณีนี้สามารถแก้ไขได้ โดยต้องดำเนินการเปลี่ยนทะเบียนรถก่อน จึงจะสามารถเข้ารับการตรวจ ตรอ. และต่อภาษีรถยนต์ประจำปี
  5. รถที่ขาดการต่อทะเบียนนานเกิน 1 ปี 

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับสถานตรวจสภาพรถ ตรอ. ใกล้ฉัน

ตรวจ ตรอ. ที่ไหนได้บ้าง 

การตรวจ ตรอ. ใกล้ฉัน จะมีอยู่ 2 ช่องทาง ก็คือ การนำรถไปตรวจเช็กที่กรมขนส่งทางบกโดยตรง และอีกที่คือสถานตรวจสภาพรถ ตรอ. เอกชน ซึ่งแบบหลังอาจจะสะดวกกว่า เพราะมีตัวเลือกให้เข้าไปใช้บริการค่อนข้างเยอะ 

ตรอ. เปิดวันอาทิตย์ไหม 

ตรอ. ใกล้ฉัน ไม่เปิดวันอาทิตย์ จะเปิดเพียงวันจันทร์ – เสาร์เพียงเท่านั้น หากไม่สะดวกใช้บริการในวันธรรมดา ก็ควรเผื่อเวลาในการนำรถเข้าไปตรวจเช็กสภาพวันเสาร์จะดีที่สุด 

ตรอ. เปิด-ปิดกี่โมง

ตรอ. ส่วนใหญ่จะเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 07.30 น. – 17.00 น. โดยประมาณ หรืออาจจะแตกต่างกันไปในแต่ละที่ จึงควรโทรสอบถามก่อนนำรถเข้าตรวจเช็กทุกครั้งจะดีที่สุด 

ตรวจสภาพรถ (ตรอ.) ก่อนต่อทะเบียนได้กี่วัน

การตรวจสภาพรถ ตรอ. สามารถทำล่วงหน้าได้ไม่เกิน 90 วัน หรือ 3 เดือน ก่อนไปต่อภาษีรถยนต์ จึงสะดวกสำหรับคนอยากวางแผนต่อภาษีล่วงหน้าได้ดี 

ตรวจสภาพรถ (ตรอ.) ใช้เวลานานไหม 

โดยปกติแล้ว การตรวจสภาพรถ ตรอ. จะใช้เวลาราว 15 – 30 นาทีเท่านั้น จึงสะดวกสำหรับคนไม่มีเวลา และต้องการนำรถไปสถานตรวจสภาพรถ ตรอ. ใกล้ฉัน แบบเร่งด่วน 

ตรวจสภาพรถไม่ผ่าน ต้องทำอย่างไร

เนื่องจากจะต้องนำใบตรวจสภาพรถไปต่อภาษีรถยนต์ประจำปี แต่ถ้าตรวจสภาพรถ ตรอ. ไม่ผ่านก็ทำให้ไม่สามารถนำเอกสารไปยื่นเรื่องดำเนินการได้ ทั้งนี้หากรถของคุณเข้าข่ายเป็นรถที่ไม่สามารถตรวจสภาพได้ หรือตรวจแล้วแต่ไม่ผ่าน ทางตรอ. จะแจ้งรายละเอียดว่ามีข้อบกพร่องตรงไหน มาจากสาเหตุอะไร โดยจะต้องดำเนินการแก้ไขปัญหานี้ภายใน 15 วัน และเสียค่าบริการเพียงแค่ครึ่งหนึ่งของราคาเท่านั้น หากเกินกำหนด 15 วันจะต้องนำรถมาเข้ารับการตรวจใหม่ และเสียค่าบริการเต็มอัตราเลย

มาถึงตรงนี้ คนมีรถคงทราบกันแล้วว่า เหตุใดต้องตรวจสภาพรถยนต์กับ ตรอ. รวมถึงมีรถประเภทไหนบ้าง แน่นอนว่าการนำรถเข้าไปรับบริการที่ ตรอ. ไม่ได้มีประโยชน์เวลาต่อภาษีรถเท่านั้น ผู้ขับขี่ยังทราบว่ามีระบบใด หรืออะไหล่ส่วนไหนของรถที่ต้องทำการเปลี่ยน เพื่อให้รถกลับมาสมบูรณ์พร้อมใช้งาน โดยเฉพาะยางรถยนต์ชิ้นส่วนที่ส่งผลต่อการเคลื่อนที่บนพื้นผิวถนน ชะลอหรือหยุดรถในสถานการณ์ต่าง ๆ หากพบว่ายางแตกลายงา ยางบวม หรือดอกยางจาง ควรเปลี่ยนยางเส้นใหม่ทันทีเพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัยโดยเฉพาะผู้ที่วางแผนขับรถเที่ยวทางไกล

สำหรับคนที่กำลังมองหายางรถยนต์เส้นใหม่ไว้ใช้งานในชีวิตประจำวันหรือขับรถทางไกลทริปวันหยุด แนะนำยางรถยนต์ Pirelli แบรนด์ที่มียางรถยนต์ให้เลือกหลากหลายแบบ ทั้งยางนุ่มเงียบ ยางประหยัดน้ำมัน และยางยึดเกาะดี นอกจากนั้นยังมีตัวช่วยความปลอดภัย เช่น ยางที่มีเทคโนโลยี Seal Inside ที่สามารถปะยางตนเองได้ด้วยเจลซิลิโคนภายในยาง เมื่อเกิดรอยรัวจากการเหยียบวัตถุแหลมคม ช่วยให้หมดกังวลเวลาเดินทางต่างจังหวัดหรือขับรถตอนกลางคืนแล้วหาร้านปะยางใกล้ฉันไม่เจอ สนใจยางรถยนต์ Pirelli มองหายาง Pirelli by ATV ในร้านขายยางชั้นนำทั่วประเทศ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมทางเว็บไซต์ หรือเฟซบุ๊ก m.me/PirellibyAsiatires

บทความจาก Pirelli

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า