รถยางแตกเกิดจากอะไร ข้อควรรู้ป้องกันเหตุการณ์ไม่คาดคิด
อาการรถยางแตกสามารถเกิดขึ้นได้จากหลากหลายปัจจัยที่แตกต่างกันไป โดยอาจมาจากเรื่องของตัวยางเอง หรืออาจมาจากพฤติกรรมการขับขี่ของผู้ใช้งานก็ได้เช่นกัน ดังนั้นมาดูกันว่าสาหตุใดบ้างที่ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดยางแตกได้บ้าง

1. การเติมลมยางไม่เหมาะสม
การเติมลมยางให้เหมาะสมเป็นสิ่งที่ต้องพึงกระทำกันเป็นประจำอยู่แล้ว สำหรับบางคนอาจมองดูเป็นเรื่องเล็กจนอาจปล่อยปะละเลยและขาดความใส่ใจ กระนั้นทราบหรือไม่ว่าการเติมลมยางที่ไม่เหมาะสมอาจเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ยางเกิดอาการสึกจนเกิดเหตุยางแตกได้
- เติมลมยางมากเกินไป : ทำให้ยางตึงและแข็ง การยึดเกาะถนนทำได้น้อยลง ส่วนดอกยางที่สัมผัสกับถนนจะสึกเร็วกว่าจุดอื่น
- เติมลมยางน้อยเกินไป : จะทำให้เกิดอาการลมยางอ่อน มีโอกาสทำให้เครื่องยนต์ต้องทำงานหนักกว่าปกติ สิ้นเปลืองพลังงานมากกว่า ทั้งยังสะสมความร้อนภายในยางจนเสี่ยงต่ออาการยางระเบิด
2. ยางสึก
ยางสึกสามารถเกิดได้หลายจุดของยางรถยนต์ ส่วนใหญ่แล้วมาจากพฤติกรรมการขับขี่ที่แตกต่างกันไป โดยหากพบว่ายางมีสภาพผิวหน้ายางมีรอยร้าวรอยแตก ดอกยางสึกจนต่ำกว่า 1.6 มิลลิเมตร ควรหลีกเลี่ยงการใช้งาน
3. ยางเสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน
ยางรถยนต์ถือเป็นหนึ่งในสินค้าที่มีวันหมดอายุจากการใช้งานจนเป็นยางเสื่อมสภาพเช่นเดียวกัน โดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 3-5ปี หรือระยะทางประมาณ 50,000-80,000 กิโลเมตร ซึ่งขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานมากน้อยเพียงใดด้วย
4. การบรรทุกน้ำหนักมากเกินไป
การบรรทุกของที่มีน้ำหนักมากเกินไปจะทำให้ยางรถยนต์ต้องรับภาระหนัก ส่งผลให้เสี่ยงต่อการเกิดอาการยางแตกหรือยางระเบิดได้ นอกจากนี้ยังทำให้เกิดปัญหายางเสื่อมลงอย่างรวดเร็วด้วย โดยเบื้องต้นจะสามารถดูน้ำหนักที่ยางสามารถรับได้ที่แก้มยางเพื่อเทียบกับดัชนีการรับน้ำหนัก
5. ยางไม่ได้มาตรฐาน
การเลือกซื้อยางคุณภาพต่ำ ไม่ได้มาตรฐาน มักเกิดจากการซื้อยางย้อมแมวหรือยางเปอร์เซ็นต์ที่ถูกแกะดอกยาง รวมไปถึงการปลอมแปลงตัวเลขที่แก้มยาง ดังนั้นการเลือกซื้อยางมือสองควรต้องดูให้เป็นและมีการตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุยางแตก โดยจุดที่มักถูกปลอมแปลงมากที่สุดคือตัวเลขสัปดาห์และปีที่ผลิตให้ดูเหมือนเป็นยางใหม่นั่นเอง
6. วิ่งบนเส้นทางที่ย่ำแย่
การขับรถยนต์บนเส้นทางปกติทั่วไปอาจไม่ได้สร้างปัญหามากนัก แต่เมื่อต้องขับรถยนต์บนเส้นทางที่ขรุขระ เป็นหลุมเป็นบ่ออาจจะสร้างปัญหาให้กับยางรถยนต์ได้ ไม่ว่าจะเป็นอาการยางบาดหรือยางบวม ซึ่งล้วนอาจลุกลามจนเกิดเหตุยางแตกตามมาได้ ควรหลีกเลี่ยงใช้เส้นทางลักษณะนี้หากไม่มีความจำเป็น
รวมสาเหตุและแนวทางแก้ไขเมื่อรถยางรั่วบ่อย ๆ
ความปลอดภัยบนท้องถนนมาจากหลายปัจจัย หนึ่งในนั้นคือความพร้อมของรถยนต์ในการใช้งาน และยางรถยนต์ก็เป็นส่วนหนึ่งของรถยนต์ที่มีความสำคัญในการขับเคลื่อน หากยางมีปัญหาระหว่างทาง อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ ปัญหายางที่พบบ่อย ได้แก่ รถยางรั่วกลางทาง หรือรถยางรั่วขณะขับ รวมถึงแม็กรถเก๋งรั่วตรงขอบแม็ก ผู้ขับขี่จึงควรรู้สาเหตุที่ทำให้ยางรั่ว รวมถึงการรับมือเมื่อยางรั่วระหว่างทางเพื่อเสริมความปลอดภัยในการขับขี่ให้มากขึ้น
รถยางรั่วขับต่อได้ไหม? ปัญหาหนักใจที่คนมีรถต้องเผชิญ
โดยปกติแล้วลมยางรถยนต์จะอ่อนลงประมาณ 1 – 3 ปอนด์ต่อเดือน ซึ่งสัญญาณที่บ่งบอกว่ารถยางรั่วคือเมื่อคุณนำรถไปเติมลมยางได้ไม่นาน แต่ยางรถเส้นนั้นกลับมีปัญหาลมอ่อนหรือแบนเร็วกว่าล้ออื่น หากเป็นเช่นนั้นแนะนำให้นำรถไปเช็กสภาพยางและทำการแก้ไขตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยป้องกันความเสี่ยงจากอุบัติเหตุได้มากกว่า แต่หากพบว่าปัญหายางรั่วเกิดขึ้นขณะขับขี่ วิธีที่ช่วยลดความเสียหายของยางรถยนต์และล้อรถยนต์ที่ดีที่สุด คือการนำรถจอดบริเวณไหล่ทางเพื่อทำการแก้ไขเบื้องต้น ไม่ควรขับรถไปต่อ เพราะแน่นอนว่าเมื่อยางรถยนต์อยู่ในสภาพที่ไม่สมบูรณ์ การฝืนขับต่อไปอาจก่อให้เกิดอันตรายและอุบัติเหตุได้ทุกเมื่อ

ยางรั่ว ยางแบน แบบไหนที่ซ่อมได้และแบบไหนที่ควรเปลี่ยนยางใหม่
หลายคนอาจสงสัยว่ารถยางรั่วปะได้ไหม? จริง ๆ แล้วยางรถยนต์สามารถปะได้เหมือนรถมอเตอร์ไซค์ แต่มีข้อจำกัดที่ว่าต้องเป็นรูรั่วที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 1/4 นิ้วตรงบริเวณดอกยางเท่านั้น จึงจะสามารถแก้ไขได้ด้วยการปะยาง แต่หากรอยรั่วมีขนาดใหญ่หรือเกิดตรงบริเวณแก้มยาง ไหล่ยาง กรณีนี้แนะนำให้เปลี่ยนยางเส้นใหม่เพื่อความปลอดภัย ทั้งนี้หากยางรถไม่มีบาดแผลใด ๆ แต่กลับมีลมรั่วออกมา การเลือกปรึกษาช่างผู้เชี่ยวชาญที่ศูนย์บริการรถยนต์เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
รถยางรั่วขณะขับกลางทาง ทำยังไงให้ปลอดภัยทั้งต่อตนเองและผู้อื่น
หลังจากขับขี่รถบนท้องถนน หากยางรั่วกะทันหันจะมีสัญญาณเตือนการขับขี่ที่ไม่สมดุล การควบคุมทิศทางทำได้ยากขึ้น เพื่อให้คนขับรับรู้ได้ว่ารถมีปัญหา มีแนวทางในการรับมือรถยางรั่ว ดังนี้
1.) ค่อย ๆ นำรถไปจอดบริเวณข้างทาง ไม่ควรฝืนขับต่อเมื่อรถยางแตก เพราะหากยางรั่วแล้วขับบดยางจะทำให้ยางยิ่งเสียหาย
2.) เปิดไฟฉุกเฉินให้สัญญาณรถคันด้านหลังระวัง
3.) สำรวจจุดที่ยางรั่ว แนวทางเบื้องต้นจะเป็นการใช้มือจับให้ทั่วยาง จุดที่รั่วจะมีความร้อนและมีลมออกมา
4.) แก้ไขปัญหาด้วยตนเอง เพื่อให้รถวิ่งต่อไปได้
- หากรอยรั่วไม่ลึกและมีความรู้ในด้านการปะยาง สามารถใช้ชุดปะยางฉุกเฉินซ่อมแซมเบื้องต้นได้
- หากรอยรั่วค่อนข้างลึกและใหญ่ให้เปลี่ยนยางเส้นใหม่ สามารถเปลี่ยนเองได้ด้วยชุดเปลี่ยนยางฉุกเฉิน และยางอะไหล่ติดรถ
5.) โทรเรียกช่าง หรือรถยก หากไม่สามารถปะยางรถยางแตกหรือเปลี่ยนยางเองได้
ปัญหายางรั่ว ปะยางสามารถช่วยให้รถวิ่งต่อไปได้ แต่บางครั้งอาจต้องมีการเปลี่ยนยางเส้นใหม่ เมื่อเกิดปัญหากับยางจึงควรปรึกษาช่างผู้เชี่ยวชาญทุกครั้ง
รถยางแตกมีอาการอย่างไร ควรรับมือด้วยวิธีไหน
อาการยางแตกเป็นอาการที่เกิดได้แบบทันทีทันใด มักจะพบอาการสั่นสะเทือนและควบคุมรถยนต์ได้อย่างยากลำบาก โดยหากประสบปัญหาอาการยางแตกขณะขับรถยนต์สามารถรับมือเบื้องต้นได้ด้วยวิธีดังนี้
- ประคองสติ เพราะหากลนลานทำอะไรไม่ถูกโอกาสเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อนจากรถยางแตกย่อมมีสูงขึ้น
- ห้ามเหยียบเบรกกะทันหัน ห้ามดึงเบรกมือ ห้ามเหยียบคลัตช์ เพราะมีโอกาสทำให้รถเกิดการพลิกคว่ำได้
- พยายามควบคุมรถยนต์ด้วยพวงมาลัยให้รถยังอยู่บนเส้นทาง
- ปล่อยคันเร่ง เปลี่ยนไปใช้เกียร์ต่ำ แต่หากเป็นรถเกียร์อัตโนมัติห้ามเปลี่ยนไปใช้เกียร์ P เด็ดขาด เลี้ยงเบรกเบา ๆ ตามความเหมาะสม
- นำรถยนต์เข้าข้างทางให้สำเร็จ เมื่อเรียบร้อยแล้วควรติดต่อเบอร์โทรฉุกเฉิน อู่ซ่อมรถยนต์ หรือบริษัทประกันภัยยางรถยนต์เพื่อขอความช่วยเหลือต่อไป
หมดปัญหารถยางแตก ยางรั่ว ด้วยเทคโนโลยี Seal Inside จาก Pirelli
รถยางรั่วเป็นปัญหาที่เกิดระหว่างขับขี่ได้บ่อย เพราะบนถนนอาจมีสิ่งแปลกปลอมที่ส่งผลต่อยางได้ ขอแนะนำเทคโนโลยีใหม่จาก Pirelli ที่คิดค้นมาเพื่อการใช้งานยางบนถนน เป็นยางที่มีความพิเศษที่สามารถปะยางตัวเองได้
Seal Inside เป็นชื่อเรียกเทคโนโลยียางที่ออกแบบมาให้ปะยางเองได้ โดยภายในยางจะมีเจลซิลิโคนอยู่ เมื่อมีรอยรั่วไม่เกิน 6 มิลลิเมตรกับยางรถยนต์ เจลซิลิโคนจะออกมาอุดรูรั่วนั้นไว้ แบ่งออกเป็น 2 กรณี คือ
1.) สิ่งแปลกปลอมยังคงอยู่เนื้อยาง กรณีนี้เจลซิลิโคนจะออกมาเคลือยรอยรั่วและเชื่อมสิ่งแปลกปลอมเข้ากับเนื้อยางเลย เพื่อไม่ให้เนื้อยางมีรูรั่ว
2) สิ่งแปลกปลอมหลุดออกจากเนื้อยางแล้ว เหลือแต่รูรั่ว เจลซิโคนจะเข้ามาอุดรูรั่วทันที ทำให้สามารถใช้งานยางต่อไปได้โดยไม่สูญเสียลมยาง
เทคโนโลยี Seal Inside มีประโยชน์มากในการใช้งานยางในชีวิตประจำวัน หรือใช้งานเมื่อเดินทางไกล ช่วยให้การเดินทางไม่สะดุดเนื่องจากยางรั่ว ซึ่งปัจจุบัน Pirelli by ATV ได้นำเข้ายางรถยนต์แบรนด์ Pirelli ที่มีเทคโนโลยี Seal Inside เข้ามา โดยจะมีทั้งหมด 4 รุ่น ได้แก่
- Pirelli Scorpion : ยางรถออฟโรดคุณภาพสูง มอบสมรรถนะการยึดเกาะที่มั่นคงในทุกเส้นทางที่ท้าทาย เหมาะสำหรับการขับขี่บนถนนและนอกถนนที่หลากหลาย ตอบโจทย์นักเดินทางที่ต้องการความมั่นใจในทุกการเดินทาง
- Pirelli Scorpion Verde All Season : ยางประหยัดน้ำมันสำหรับรถ SUV และรถ Cross Over นวัตกรรมการออกแบบดอกยางเพื่อลดแรงเสียดทาน เพิ่มอายุการใช้งาน พร้อมการยึดเกาะถนนที่เหนือชั้นในทุกสภาพอากาศ
- Pirelli P Zero PZ4 : ยางเจเนอเรชันใหม่ของ P Zero ถ่ายทอดเทคโนโลยีจากรถแข่ง F1 มอบประสิทธิภาพสูงทั้งความเร็ว การควบคุม และการเบรกที่แม่นยำ สำหรับรถสปอร์ตและรถหรูสมรรถนะสูง
- Pirelli Cinturato P7 : ยางรักษ์โลกที่ผลิตจากวัสดุเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ประหยัดน้ำมัน มอบความนุ่มนวลเงียบขณะขับขี่ พร้อมสมรรถนะการยึดเกาะถนนที่ดีเยี่ยมในทุกสภาพการขับขี่ เพื่อความปลอดภัยและความสบายสูงสุด
การเปลี่ยนยางรถยนต์ควรคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก เลือกยางแบรนด์ที่เชื่อถือได้ ขนาดเหมาะกับรถ และมีเทคโนโลยียางเหมือนยาง Pirelli นอกจากนั้นการเปลี่ยนยางรถยนต์ 4 ล้อ ราคายังคุ้มค่ากว่าการเปลี่ยนทีละล้ออีกด้วย เป็นอีกทางเลือกของคนที่ยังมองหาว่าเปลี่ยนยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี ให้ Pirelli เป็นอีกทางเลือกที่เพิ่มความปลอดภัยให้กับรถคันโปรด สั่งซื้อง่ายทางออนไลน์ทั้ง Shopee และ Lazada รวมถึงร้านค้าจำหน่ายทั่วประเทศ เช่น B-Quik หรือ MMS พร้อมการรับประกันคุณภาพในกรณี บาด บวม แตก เคลมฟรี 1 ปี หรือ 25,000 กม. (เมื่อซื้อยางครบ 4 เส้น ทุกรุ่น ทุกขนาด และลงทะเบียนภายใน 14 วัน)
บทความจาก Pirelli

เวลาเลี้ยวรถแล้วมีเสียงยางดังเอี๊ยด เกิดจากอะไร พร้อมวิธีตรวจสอบและแก้ไข
หลายคนคงเคยประสบปัญหาเวลาเลี้ย …