Pirelli Thailand by ATV เช็คราคายานยนต์ ออนไลน์

เส้นจุดตัดทางรถไฟ อันตรายที่คาดไม่ถึง

สำหรับผู้ใช้รถใช้ถนนส่วนใหญ่แล้วย่อมต้องเคยผ่านทางจุดตัดทางรถไฟสักครั้งหนึ่งในชีวิต เพราะเป็นจุดร่วมของถนนที่มีพื้นที่พบปะกับเส้นทางรถไฟภายในประเทศ โดยส่วนใหญ่แล้วหากทำตามสัญญาณไฟจราจร หยุดรถรอให้รถไฟเคลื่อนที่ผ่านไปก่อนย่อมไม่น่าเกิดอุบัติเหตุใด ๆ นับเป็นการขับขี่อย่างปลอดภัย แต่ในทางกลับกันปัจจุบันมักพบเห็นผู้ขับขี่รถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์ขับฝ่าแผงกั้นอยู่บ่อยครั้ง จนทำให้เกิดเหตุอันน่าสลดขึ้น ดังนั้นมาดูกันว่ากลเม็ดเคล็ดลับในการขับรถผ่านจุดตัดทางรถไฟให้ปลอดภัย ควรทำอย่างไรกันบ้าง


รอบรู้เรื่องจุดตัดทางรถไฟ ใช้ชีวิตได้ไม่พลาด


หากใครชอบขับรถทางไกลย่อมสสังเกตเห็น จุดตัดทางรถไฟ ซึ่งในภาษาอังกฤษเรียกว่า Railroad crossing เป็นเส้นทางรถไฟที่มีการตัดผ่านท้องถนน โดยในอดีตมักมีการขนส่งผ่านทางรถไฟเกิดขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ที่ทำหน้าที่เป็นพาหนะได้รับอันตรายจากการถูกรถไฟชน ทำให้มีการก่อสร้างประตูกั้นถนนขึ้นมา ป้องกันคนหรือสัตว์เข้ามาในเขตจนเกิดอุบัติเหตุ โดยช่วงแรกใช้พนักงานคอยเปิดปิดประตู กระทั่งมีการพัฒนามากขึ้นจนเป็นมอเตอร์ที่ใช้ควบคุมเครื่องกั้นนั่นเอง

จุดตัดทางรถไฟ
จุดตัดทางรถไฟแบบทางผ่านเสมอระดับ

จุดตัดทางรถไฟ แบ่งได้กี่แบบ?


ในประเทศไทยมีโครงข่ายทางรถไฟมากถึง 76 จังหวัด ด้วยระยะทางถึง 4,043 กิโลเมตร โดยจุดตัดทางรถไฟที่ถูกกฎหมายแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่

  • ทางผ่านเสมอระดับ

เป็นจุดตัดที่เห็นกันได้บ่อย ๆ สามารถพบได้มากถึงราว 1,600 จุดในประเทศไทย เป็นเส้นทางรถไฟที่มีการตัดกับถนนโดยตรง และมีเครื่องกั้นคอยป้องกันกันผู้สัญจรด้วยยานพานะอื่น ๆ ให้มีความปลอดภัยมากขึ้นเวลารถไฟวิ่งผ่านเส้นทางดังกล่าว

  • ถนนรอดทางรถไฟ

จุดตัดนี้เป็นรูปแบบที่สะดวกต่อทั้งรถไฟ และผู้ขับขี่บนท้องถนน เนื่องจากรถสามารถขับผ่านถนนได้ตามปกติ ขณะที่รถไฟจะแล่นตัดผ่านเส้นทางที่อยู่เหนือขึ้นไป

  • ถนนเหนือทางรถไฟ

เป็นจุดตัดที่สลับกับรูปแบบที่แล้ว โดยทางรถไฟจะอยู่ต่ำกว่าถนน ทำให้รถสามารถข้ามผ่านทางได้สะดวก ไม่ต้องรีรอสัญญาณไฟเช่นกัน อาทิ สะพานข้ามทางรถไฟ เป็นต้น


ทางตัดผ่านไม่ได้รับอนุญาต อันตราย ต้องระวัง


สำหรับทางตัดผ่านไม่ได้รับอนุญาต เป็นรูปแบบเส้นทางที่ผิดกฎหมาย ข้ามทางรถไฟมีความเสี่ยง เรียกได้ง่าย ๆ ว่า ทางลักผ่าน มีมากถึงราว 600 จุด ส่งผลกระทบต่อการเดินรถไฟอย่างชัดเจน เนื่องจากทำให้รถไฟเดินทางได้ช้าลง หากเกิดอุบัติเหตุจะทำให้ยิ่งเสียเวลามากขึ้น ทั้งอาจร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้

แม้มีกฎหมายทางรถไฟเกิดขึ้นมาอย่างยาวนาน แต่มีผู้ขับขี่จำนวนไม่น้อยที่อาศัยจังหวะที่รถไฟยังไม่มาขับรถฝ่าเครื่องกั้นออกไปจนนำไปสู่อุบัติเหตุร้ายแรงขึ้น ดังที่เห็นข่าวรถติดรางรถไฟจากการพยายามขับรถผ่านเส้นทางลักผ่าน จนเป็นเหตุให้ถูกรถไฟชนเสียชีวิต

สัญญาณทางรถไฟ
ควรสังเกตสัญญาณทางรถไฟเสมอ

รวม 6 เคล็ดลับข้ามทางรถไฟให้ปลอดภัย


  1. หมั่นสังเกตอยู่เสมอ

การหมั่นสังเกตถนนหนทางเป็นสิ่งที่ผู้ขับขี่พึงกระทำอยู่แล้ว เช่นเดียวกับการขับจุดตัดรถไฟ สิ่งสำคัญคือการมองดูป้ายสัญลักษณ์รูปรถไฟ ป้ายเตือน เครื่องกั้น หรือสัญญาณไฟ เพื่อให้ทราบว่าทางรถไฟอยู่ตรงจุดไหน สามารถขับรถผ่านจุดตัดทางรถไฟได้หรือไม่

ขณะเดียวกันต้องเข้าใจด้วยว่าที่ข้ามทางรถไฟแบบมีเครื่องกั้น จะมีป้ายเตือนสีเหลืองรูปรางรถไฟ ขณะที่ข้ามทางรถไฟแบบไม่มีเครื่องกั้น จะเป็นลักษณะป้ายสีเหลืองรูปรถไฟ ดังนั้นควรสังเกตและมองซ้ายแลขวาเป็นพิเศษเสมอ

  1. ลดความเร็ว

หากพบป้ายหรือเครื่องหมายว่าอยู่ในจุดตัดทางรถไฟ ถ้ามีสัญญาณเตือนรถไฟมา ควรชะลอความเร็ว และหยุดรถเมื่อเครื่องกั้นกำลังปิดถนน ไม่ควรเร่งความเร็วเพื่อผ่านไปก่อนเครื่องกั้นปิดตัวลง ซึ่งระยะห่างจากรางรถไฟกับเครื่องกั้น สามารถมั่นใจเรื่องความปลอดภัยได้แน่นอน แต่ในทางกลับกันหากข้ามจุดที่ไม่มีเครื่องกั้น ควรหยุดห่างทางรถไฟอย่างน้อย 5 เมตร

  1. ห้ามฝืนข้ามเมื่อรถไฟผ่านมาเด็ดขาด

การฝ่าแผงกั้นฝืนข้ามทางก่อนรถไฟแล่นผ่านมา อาจนำไปสู่อุบัติเหตุร้ายแรงที่ขั้นเสียชีวิตได้ ดังนั้นถ้าไม้กั้นทางรถไฟถูกลดลงมา มีสัญญาณเตือนว่ารถไฟกำลังแล่นผ่าน ควรจอดรถหยุดรอจนกว่ารถไฟจะผ่านและเครื่องกั้นเปิดให้รถสัญจรไปมาถึงค่อยเริ่มต้นเดินทางต่อ

  1. ห้ามหยุดรถคร่อมทางรถไฟ

หากเป็นกรณีการจราจรติดขัด ไม่ควรจอดคร่อมบนรางรถไฟ เนื่องจากมีโอกาสรถไฟแล่นผ่านขณะที่รถยนต์ของเราติดกลางรางรถไฟได้ นอกจากนี้ในเส้นทางลักผ่านที่ทำขึ้นบางจุดอาจไม่มีมาตรฐาน จึงเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้รถยนต์ติดอยู่จนคร่อมทางรถไฟได้เช่นกัน ต้องใช้ความระมัดระวังมากเป็นพิเศษ

  1. ห้ามขับแซงในระยะ 30 เมตร

ห้ามขับรถแซงขึ้นหน้ารถคันอื่นในระยะ 30 เมตร ก่อนถึงทางรถไฟ เนื่องจากอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุบริเวณรางรถไฟได้

  1. ห้ามขับขี่ระหว่างมึนเมา

ข้อสุดท้ายไม่ใช่เพียงเรื่องการข้ามจุดตัดทางรถไฟเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการขับรถทั่วไปด้วย ตามกฎหมายห้ามผู้ขับขี่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกินกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ขับขี่บนท้องถนน กระนั้นยังมีผู้ฝ่าฝืนกฎหมายข้อนี้อยู่ อีกทั้งการดื่มแอลกอฮอล์มาขับขี่จะทำให้การตัดสินใจ การรับรู้ช้าลง ส่งผลให้การข้ามจุดตัดทางรถไฟมีโอกาสเกิดอันตรายได้สูงมาก

การข้ามทางรถไฟต้องใช้ความระมัดระวังเสมอ แต่หากใครอยากเสริมความปลอดภัยให้กับตัวเอง อย่าลืมใช้บริการยาง Pirelli by ATV มีตัวเลือกคุณภาพมากมายให้กับรถของคุณ พร้อมบริการติดตั้ง ตั้งศูนย์ล้อแบบครบครัน มีเทคโนโลยียางที่ช่วยเสริมความปลอดภัยได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งยังมีประกัน “บาด-บวม-แตก” สามารถเคลมฟรี 1 ปี หรือระยะทาง 25,000 กิโลเมตรโดยอยู่ภายใต้เงื่อนไขของบริษัท

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า