การต่อภาษีรถยนต์ประจำปีเป็นสิ่งที่เจ้าของรถทุกคนควรจะต้องทำ เพราะการยื่นภาษี เพื่อต่อภาษีรถยนต์เป็นการยืนยันว่าผู้ใช้รถยนต์คันนั้น ๆ ได้ทำการชำระภาษีอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ดังนั้น ในบทความนี้ Pirelli จะพาคุณมาทำความรู้จักกับการต่อภาษีรถยนต์ประจำปี พร้อมเช็กราคาภาษีรถยนต์ รถของคุณอยู่ในประเภทไหน และต้องเสียอัตราภาษีเท่าไหร่บ้าง? พร้อมขั้นตอนการต่อและเช็กภาษีรถยนต์ผ่านช่องทางออนไลน์ง่าย ๆ
ทำไมต้องต่อภาษีรถยนต์ประจำปี ?
การต่อภาษีรถยนต์เป็นหน้าที่ที่คนมีรถทุกคนต้องให้ความสำคัญ โดยการต่อภาษีรถยนต์ หรือ พ.ร.บ. รถยนต์ เป็นการจ่ายเงินเพื่อพัฒนาถนนหนทาง สิ่งอำนวยความสะดวก และเพิ่มความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน เพราะเมื่อถนนถูกใช้งานย่อมทำให้ทรุดโทรมลง เงินภาษีรถจึงถูกนำไปพัฒนาถนนและสิ่งที่เกี่ยวข้องกับการขับขี่ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ปัจจุบันมีช่องทางตรวจสอบภาษีรถยนต์และเสียภาษีรถยนต์ที่สะดวกหลายช่องทาง คนมีรถจึงไม่ควรเลี่ยงภาษีรถเด็ดขาด เพื่อไม่ให้รถโดนระงับทะเบียนหรือเสียค่าปรับจากการไม่ต่อภาษี
เช็กราคาภาษีรถยนต์ รถประเภทนี้ต้องเสียเท่าไหร่
การเรียกเก็บภาษีรถยนต์ประจำปีโดยกรมขนส่งทางบก จะจำแนกประเภทและมีอัตราค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้
1. เช็กราคาภาษีรถยนต์ตามความจุกระบอกสูบ
กรณีที่รถยนต์ของคุณเป็นรถยนต์ส่วนบุคคล ไม่เกิน 7 ที่นั่ง สามารถเช็กราคาภาษีรถยนต์ได้ตามความจุกระบอกสูบ หน่วยซีซี ได้แก่
- รถยนต์ส่วนบุคคล ไม่เกิน 7 ที่นั่ง
ความจุกระบอกสูบ (ซีซี) | บาท/ซีซี |
600 ซีซี |
0.50 บาท/ซีซี |
601 – 1,800 ซีซี | 1.50 บาท/ซีซี |
1,800 ซีซี ขึ้นไป | 4.00 บาท/ซีซี |
2. เช็กราคาภาษีรถยนต์รายคัน
- รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล คันละ 100 บาท
- รถจักรยานยนต์สาธารณะ คันละ 100 บาท
- รถพ่วงข้างจักรยานยนต์ส่วนบุคคล คันละ 50 บาท
- รถพ่วงชนิดอื่น คันละ 100 บาท
- รถบดถนน คันละ 200 บาท
- รถแทรกเตอร์ที่ใช้ในการเกษตร คันละ 50 บาท
3. เช็กราคาภาษีรถยนต์ตามน้ำหนัก
การจัดเก็บภาษีรถยนต์ตามน้ำหนัก สามารถแบ่งได้ตามประเภทของรถ ดังนี้
- รถยนต์ส่วนบุคคลที่นั่งเกิน 7 คน
น้ำหนักรถ (กิโลกรัม) | บาท/คัน |
ไม่เกิน 500 กิโลกรัม | 150 บาท/คัน |
501 – 750 กิโลกรัม | 300 บาท/คัน |
751 – 1,000 กิโลกรัม | 450 บาท/คัน |
1,001 – 1,250 กิโลกรัม | 800 บาท/คัน |
1,251 – 1,500 กิโลกรัม | 1,000 บาท/คัน |
- รถยนต์รับจ้างระหว่างจังหวัดและรถยนต์บริการ
น้ำหนักรถ (กิโลกรัม) |
บาท/คัน |
ไม่เกิน 500 กิโลกรัม |
450 บาท/คัน |
501 – 750 กิโลกรัม |
750 บาท/คัน |
751 – 1,000 กิโลกรัม |
1,050 บาท/คัน |
1,001 – 1,250 กิโลกรัม |
1,350 บาท/คัน |
1,251 – 1,500 กิโลกรัม |
1,650 บาท/คัน |
- รถยนต์รับจ้าง
น้ำหนักรถ (กิโลกรัม) |
บาท/คัน |
ไม่เกิน 500 กิโลกรัม |
185 บาท/คัน |
501 – 750 กิโลกรัม |
340 บาท/คัน |
751 – 1,000 กิโลกรัม |
450 บาท/คัน |
1,001 – 1,250 กิโลกรัม |
560 บาท/คัน |
1,251 – 1,500 กิโลกรัม |
685 บาท/คัน |
- รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล รถยนต์ลากจูง และรถแทรกเตอร์ที่ใช้ในการเกษตร
น้ำหนักรถ (กิโลกรัม) |
บาท/คัน |
ไม่เกิน 500 กิโลกรัม |
300 บาท/คัน |
501 – 750 กิโลกรัม |
450 บาท/คัน |
751 – 1,000 กิโลกรัม |
600 บาท/คัน |
1,001 – 1,250 กิโลกรัม |
750 บาท/คัน |
1,251 – 1,500 กิโลกรัม |
900 บาท/คัน |
4. รถยนต์พลังงานไฟฟ้าเช็กราคาภาษีรถยนต์อย่างไร
เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้าเป็นรถที่กำลังมาแรงในท้องตลาดช่วงนี้เป็นอย่างมาก คงมีหลายท่านที่สงสัยว่าแล้วค่าต่อภาษีรถยนต์มีราคาเท่าไหร่บ้าง? ในกรณีที่รถของคุณเป็นรถยนต์ส่วนบุคคลที่นั่งไม่เกิน 7 คน สามารถเช็กราคาภาษีรถยนต์ในอัตรารถยนต์ส่วนบุคคลที่นั่งเกิน 7 คนได้เลย และยังมีในกรณีอื่น ๆ ดังนี้
- รถยนต์ไฟฟ้า EV ประเภทรถยนต์ส่วนบุคคล ไม่เกิน 7 ที่นั่ง (สำหรับรถยนต์ที่จดทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2565 – 30 ก.ย. 2568)
น้ำหนักรถ (กิโลกรัม) |
บาท/คัน |
ไม่เกิน 500 กิโลกรัม |
30 บาท/คัน |
501 – 750 กิโลกรัม |
60 บาท/คัน |
751 – 1,000 กิโลกรัม |
90 บาท/คัน |
1,001 – 1,250 กิโลกรัม |
160 บาท/คัน |
1,251 – 1,500 กิโลกรัม |
200 บาท/คัน |
- รถยนต์ไฟฟ้า EV ประเภทรถยนต์ส่วนบุคคลเกิน 7 ที่นั่ง (สำหรับรถยนต์ที่จดทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2565 – 30 ก.ย. 2568)
น้ำหนักรถ (กิโลกรัม) |
บาท/คัน |
ไม่เกิน 500 กิโลกรัม |
15 บาท/คัน |
501 – 750 กิโลกรัม |
30 บาท/คัน |
751 – 1,000 กิโลกรัม |
45 บาท/คัน |
1,001 – 1,250 กิโลกรัม |
80 บาท/คัน |
1,251 – 1,500 กิโลกรัม |
100 บาท/คัน |
ช่องทางการต่อและเช็กภาษีรถยนต์
การเช็กภาษีรถยนต์ว่าหมดอายุวันไหน ถึงเวลาต่อภาษีหรือยัง สามารถเช็กภาษีรถออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์ของกรมขนส่งทางบกโดยตรง เพราะกรมขนส่งทางบกดูแลเรื่องทะเบียนรถและการต่อภาษีประจำปี ผู้ที่มีรถยนต์ควรตรวจสอบวันต่ออายุภาษีรถยนต์ และดำเนินการก่อนหมดอายุ ซึ่งกรมการขนส่งบกเปิดให้รถยนต์ต่ออายุได้ก่อน พ.ร.บ. รถยนต์ หมดอายุ 90 วัน ทางช่องทางต่าง ๆ ดังนี้
เว็บไซต์ของกรมการขนส่งทางบก
การยื่นต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ในปัจจุบันอนุญาตให้รถยนต์ที่อายุเกิน 7 ปีสามารถยื่นได้ แต่ต้องผ่านการตรวจสภาพรถจากสถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) ก่อน โดยมีวิธีการต่อภาษีรถยนต์ผ่านทางเว็บไซต์ ดังนี้
- เข้าสู่เว็บไซต์ https://eservice.dlt.go.th และลงทะเบียนหรือเข้าสู่ระบบ
- เลือก “ยื่นชำระภาษีรถยนต์ประจำปี”
- กรอกรายละเอียดเกี่ยวกับรถ และยื่นชำระภาษี
- กรอกรายละเอียดหลักฐานการเอาประกันภัยตาม พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 หรือเลือกซื้อ พ.ร.บ.จากในระบบ
- เลือกช่องทางการชำระเงิน และชำระเงินให้เรียบร้อย
หลังจากชำระภาษีรถยนต์ประจำปีผ่านเว็บไซต์แล้ว กรมการขนส่งทางบกจะส่งใบเสร็จรับเงิน และสมุดกรมธรรม์ พ.ร.บ. ให้ทางไปรษณีย์ตามที่อยู่ที่ระบุเอาไว้ เจ้าของรถสามารถนำหลักฐานไปปรับบันทึกรายการชำระเงินได้ที่สำนักงานขนส่งจังหวัดทั่วประเทศ
ปัจจุบันเว็บไซต์กรมการขนส่งทางบกมีการเชื่อมต่อกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้ที่ต้องการต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ต้องชำระทั้งค่าภาษี และค่าปรับใบสั่งจราจรที่ค้างชำระทั้งหมด จึงจะได้ป้ายภาษีตัวจริง หากไม่จ่ายค่าปรับจราจร ต่อภาษีรถยนต์ประจำปีจะได้ใบแทนภาษีชั่วคราว ใช้ได้ 30 วัน
ทางเคาน์เตอร์ที่ให้บริการ
การต่อภาษีหน้าเคาน์เตอร์มีหลากหลายช่องทางให้เลือกตามความสะดวก ได้แก่ เคาน์เตอร์กรมการขนส่งทางบก เคาน์เตอร์เซอร์วิส เคาน์เตอร์ธนาคารการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เคาน์เตอร์ไปรษณีย์ไทย ห้างสรรพสินค้าที่ร่วมรายการ มีวิธีการต่อทะเบียนรถและชำระค่าภาษี ดังนี้
- เตรียมเอกสารให้พร้อม มีเอกสารที่ต้องเตรียม ได้แก่ สมุดจดทะเบียนรถ เอกสาร พ.ร.บ.รถยนต์ที่ยังไม่หมดอายุ ใบรับรองการตรวจสภาพรถ (ในกรณีที่รถยนต์อายุเกิน 7 ปีขึ้นไป)
- ยื่นเอกสารทั้งหมดที่เคาน์เตอร์ให้บริการ
- ชำระค่าธรรมเนียม และรับป้าย พ.ร.บ. สำหรับติดหน้ารถ
ทำไมต้องตรวจสภาพรถยนต์ก่อนต่อภาษี
การตรวจสภาพรถยนต์นี้จะใช้เฉพาะกับรถยนต์ที่มีอายุเกิน 7 ปี และต้องตรวจสภาพรถกับสถานตรวจสภาพรถเอกชน หรือ ตรอ. เท่านั้น จุดประสงค์หลักก็เพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่ารถยังคงมีสภาพดี พร้อมใช้งานบนท้องถนน และมีความปลอดภัยต่อตนเองและผู้ร่วมถนนเป็นอย่างดี โดยตรอ. จะมีการตรวจสอบสภาพรถในประเด็นต่าง ๆ ต่อไปนี้
- ตรวจสอบข้อมูลทั่วไปของรถให้ถูกต้องชัดเจน เช่น ป้ายทะเบียนรถ ประเภทรถ หมายเลขตัวรถ เลขเครื่องยนต์
- เช็กสภาพโดยรอบของรถให้มีความสมบูรณ์ เช่น ตัวถัง สีรถ อุปกรณ์ไฟฟ้า พวงมาลัย ที่ปัดน้ำฝน
- ทดสอบระบบการใช้งานภายในรถให้มีประสิทธิภาพ ใช้งานได้ดี เช่น การหักเลี้ยวรถ ระบบเชื้อเพลิง
- ทดสอบประสิทธิภาพการเบรกโดยเฉพาะ เพื่อดูประสิทธิภาพการยึดเกาะ การเบรกกะทันหัน การตอบสนองขณะเบรกของรถ
- ดูทิศทางการเบี่ยงเบนของแสง และความเข้มของแสง เพื่อดูประสิทธิภาพของไฟหน้ารถ
- วัดก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ (CO) และก๊าซไฮโดรคาร์บอน (HC) ของรถยนต์ส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง
- ตรวจควันดำของรถยนต์ที่ใช้น้ำมันดีเซลให้มีประสิทธิภาพตามที่กำหนด
- วัดระดับเสียงรถ เมื่อตรวจวัดแล้วต้องไม่เกิน 100 เดซิเบล
หากรถผ่านคุณสมบัติครบทุกข้อ ตรอ. จะออกใบรับรองสำหรับใช้ในการต่อภาษีรถยนต์ให้ โดยใบรับรองนี้จะมีอายุเพียง 3 เดือนเท่านั้น ส่วนผู้ที่สภาพรถไม่ผ่านเกณฑ์ทาง ตรอ. จะแจ้งข้อบกพร่อง และให้แก้ไขภายใน 15 วัน ก่อนจะนำมาตรวจสภาพรถใหม่อีกครั้ง
ไม่ต่อภาษีรถยนต์ได้ไหม
กรณีที่ไม่ต่อภาษีรถยนต์ หรือทะเบียนรถยนต์หมดอายุมามากกว่า 2 ปีขึ้นไปแล้ว ไม่ต่อได้ไหม คำตอบ คือ ไม่ได้เด็ดขาด!! เนื่องจากกฎหมายได้ระบุไว้แล้วว่าจำเป็นที่จะต้องต่อภาษีรถยนต์ เพื่อให้รถสามารถวิ่งบนท้องถนนได้อย่างถูกกฎหมาย ถ้าตรวจพบว่าไม่มีป้ายวงกลม หรือไม่ได้ต่อภาษีจะมีโทษ เสียค่าปรับร้อยละ 1 ต่อเดือน
และในกรณีที่ไม่ขาดต่อทะเบียนติดต่อกันเกิน 3 ปี จะถูกยกเลิกเลขทะเบียนรถเดิม และจำเป็นต้องนำป้ายทะเบียนส่งคืนภายใน 30 วัน พร้อมทั้งต้องนำรถไปจดทะเบียนใหม่ แน่นอนว่าก็ต้องมาพร้อมค่าต่อภาษีรถยนต์ที่มากขึ้นกว่าเดิม
สรุป
การมีรถยนต์สภาพดีมีความสำคัญในการขับขี่ เพราะช่วยให้การใช้งานรถปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ซึ่งอะไหล่รถมีหลายส่วนที่ต้องให้ความสำคัญ หนึ่งในนั้นคือยางรถยนต์ เพราะทำหน้าที่รับน้ำหนักรถ เสียดสีกับพื้นถนนขณะรถวิ่ง ยึดเกาะถนนและรีดน้ำบนถนนเปียก ช่วยให้รถขับเคลื่อนได้อย่างปลอดภัย ผู้ขับขี่จึงควรเลือกยางรถยนต์ที่มีประสิทธิภาพดี แนะนำยางรถยนต์ Pirelli ที่ตอบโจทย์ทั้งรถยนต์ขนาดเล็ก ขนาดกลาง รถสปอร์ต รถหรู รถ SUV และรถกระบะ คุณภาพระดับโลก มาพร้อมโปรโมชั่นพิเศษเมื่อซื้อยางรถยนต์ Pirelli by ATV รับการประกันยางรถยนต์ฟรี 1 ปี หรือ 25,000 กิโลเมตร กรณียางบาด บวม แตก จากการใช้งาน สอบถามเพิ่มเติมทางเว็บไซต์ หรือเฟซบุ๊ก m.me/PirellibyAsiatires