ในการขับขี่รถยนต์ให้ปลอดภัย นอกจากการใช้เบรกปกติแล้ว ยังมีเทคนิคการชะลอความเร็วที่เรียกว่า “Engine Brake” อยู่ด้วย ซึ่งผู้ใช้รถบางคนอาจยังไม่คุ้นเคยสักเท่าไรนัก แต่รู้หรือไม่ว่า การใช้ Engine Brake อย่างถูกวิธีจะสามารถช่วยเพิ่มความปลอดภัย และประสิทธิภาพในการขับขี่ขึ้นได้อย่างมาก เดี๋ยว พิเรลลี่ เราจะพามาทำความรู้จักกับ Engine Brake ให้มากขึ้นกันเอง
Engine brake คืออะไร
Engine Brake คือ การใช้แรงต้านของเครื่องยนต์เพื่อชะลอความเร็วของรถ โดยไม่ต้องเหยียบเบรก เทคนิคนี้จะทำให้รถช้าลงโดยอาศัยแรงอัดของเครื่องยนต์ เมื่อผู้ขับปล่อยคันเร่ง หรือลดเกียร์ลง Engine Brake จะทำงานโดยอัตโนมัติ และช่วยลดความเร็วของรถได้อย่างนุ่มนวลและปลอดภัย
หลักการทำงานของ Engine Brake
Engine Brake จะทำงานเมื่อปล่อยคันเร่ง โดยเครื่องยนต์จะหยุดส่งกำลังไปยังล้อ แต่ล้อยังคงหมุนต่อไปด้วยแรงเฉื่อย จึงทำให้เกิดแรงต้านจากการหมุนของเครื่องยนต์ ซึ่งแรงต้านนี้จะช่วยชะลอความเร็วของรถลง โดยเฉพาะเมื่อใช้ร่วมกับการลดเกียร์ จะยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้น
ประโยชน์ของการใช้ Engine Brake
การใช้ Engine Brake ให้เป็นนั้นมีประโยชน์อย่างมาก เพราะนอกจากจะช่วยเพิ่มความปลอดภัย และประสิทธิภาพในการขับขี่แล้ว ยังมีข้อดีอีกมากมายที่ผู้ใช้รถหลายคนอาจไม่รู้ ซึ่งหลัก ๆ จะมีดังนี้
- ช่วยประหยัดเบรก : การใช้ Engine Brake ช่วยลดการใช้งานของระบบเบรกปกติลง ซึ่งจะทำให้ผ้าเบรก และจานเบรกมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น
- เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ : โดยเฉพาะเมื่อขับลงเขา หรือทางลาดชัน Engine Brake ช่วยควบคุมความเร็วได้ดีกว่าการใช้เบรกเพียงอย่างเดียว อีกทั้งยังช่วยให้ผ้าเบรกไม่ไหม้จากการเหยียบเบรกบ่อยเกินไปด้วย
- ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง : เพราะการใช้ Engine Brake ก็คือการปล่อยให้แรงฉุดทำงาน ซึ่งหากใช้รถจนคุ้นเคย ก็จะทำให้การกะระยะแม่นยำขึ้น จึงเป็นการลดการแตะเบรกโดยไม่จำเป็นออกไป และประหยัดน้ำมันมากขึ้นไปในตัว
- ควบคุมรถได้ดีขึ้น : การใช้ Engine Brake ช่วยให้ควบคุมรถได้นิ่มนวล และแม่นยำมากขึ้น โดยเฉพาะในสภาพถนนที่ลื่นเปียก
- ลดความร้อนของระบบเบรก : ในการขับรถลงเขาเป็นระยะทางไกล Engine Brake ช่วยลดการใช้งานเบรกปกติ ทำให้ระบบเบรกไม่ร้อนจัดเกินไป
Engine Brake ควรใช้ตอนไหน
เมื่อรู้กันไปแล้วว่า Engine Brake นั้นช่วยในเรื่องอะไร แต่ผู้ใช้รถหลายคนอาจยังสงสัยต่อว่า แล้วสถานการณ์แบบไหนที่ควรใช้ เรามาดูตัวอย่างกัน
- เมื่อขับลงเขาหรือทางลาดชัน : การใช้ Engine Brake ร่วมกับการลดเกียร์ จะช่วยควบคุมความเร็วได้ดีกว่าการใช้เบรกเพียงอย่างเดียว
- ก่อนถึงทางโค้งหรือสี่แยก : การใช้ Engine Brake เพื่อลดความเร็วก่อนเข้าโค้งหรือถึงสี่แยก จะช่วยให้ควบคุมรถได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น
- เมื่อขับบนถนนลื่น : การใช้ Engine Brake ช่วยลดความเร็วโดยไม่ต้องเบรกแบบกะทันหัน จะช่วยลดโอกาสที่ล้อจะลื่นไถลได้
- ในการจราจรติดขัด : การใช้ Engine Brake เพื่อรักษาระยะห่างจากรถคันหน้า โดยไม่ต้องเบรกบ่อยเกินไป จะช่วยทำให้ไม่เปลืองผ้าเบรก และลดอาการเมื่อยล้าของผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วยประหยัดน้ำมันอีกด้วย
วิธีใช้ Engine Brake ในรถเกียร์ออโต้
แม้ว่ารถเกียร์ออโต้จะไม่มีคลัตช์ให้ควบคุมเหมือนรถเกียร์ธรรมดา แต่ก็สามารถใช้ Engine Brake ได้เช่นกัน เพราะเพียงแค่ปล่อยคันเร่ง และปล่อยให้แรงฉุดของเครื่องยนต์ทำงาน นี่ก็คือ Engine Brake แล้วนั่นเอง ส่วนวิธีใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็จะอยู่ที่การฝึกควบคุมรถให้ชินเท่านั้น โดยหลัก ๆ จะมีวิธีใช้ดังนี้
- ปล่อยคันเร่งเพื่อให้ Engine Brake ทำงาน
- ใช้ปุ่ม Paddle Shift หรือคันเกียร์เพื่อลดเกียร์ลง เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ Engine Brake
- ในรถบางรุ่นอาจมีโหมด “B” หรือ “S” ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยในทางลาดชัน และยังเพิ่มประสิทธิภาพของ Engine Brake ด้วยเช่นกัน
- ระวังไม่ให้รอบเครื่องสูงเกินไปเมื่อลดเกียร์ เพื่อป้องกันความเสียหายต่อเครื่องยนต์
- ฝึกฝนการใช้ Engine Brake ในสถานการณ์ปกติ เพื่อให้เกิดความคุ้นเคยก่อนใช้ในสถานการณ์ที่ต้องการจริง
สรุปบทความ
ผู้ใช้รถน่าจะเห็นกันแล้วว่า Engine Brake คืออะไร และมีประโยชน์ในการใช้งานแค่ไหน โดยเฉพาะในเรื่องของความปลอดภัยบนทางลาดชัน ที่เป็นเส้นทางยอดนิยมของคนรักการท่องเที่ยว จึงสำคัญอย่างมากที่จะต้องฝึกใช้งานให้เป็น และสำหรับคนที่อยากได้ความปลอดภัยในการใช้รถอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นด้านยึดเกาะถนน หรือระบะเบรกที่สั้นลง การเลือกใช้ยางรถยนต์ Pirelli เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ห้ามพลาด ด้วยเทคโนโลยีพิเศษในการออกแบบลายดอกยาง ทำให้ยางนุ่มเงียบ ยางสปอร์ต ยางออฟโรด หรือยาง SUV จากทางเรา จะช่วยให้คุณขับขี่ได้อย่างมั่นใจขึ้นแน่นอน
PIRELLI ยางรถยนต์คุณภาพมาตรฐานระดับโลกที่อยู่คู่ท้องถนนมานานกว่า 152 ปี มาพร้อมกับการรับประกัน บาด บวม แตก เคลมฟรี 1 ปี หรือ 25,000 กม. (เมื่อซื้อยางครบ 4 เส้น ทุกรุ่น ทุกขนาด และลงทะเบียนภายใน 14 วัน)
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/pirellibyatv/