ผู้ใช้รถหลายคนน่าเคยได้ยินคำว่า รีแมพรถยนต์ หนึ่งในทางออกของรถเร่งไม่ขึ้น ต้นอืด ขับไม่สนุก แต่เชื่อว่าหลายคนอาจรู้สึกไม่มั่นใจ และไม่รู้ว่าการนำรถไปรีแมพดีไหม มีความเสี่ยงอะไรตามมาหรือเปล่า วันนี้ พิเรลลี่ จะมาอธิบายแบบเจาะลึกถึงหลักการทำงาน ข้อดี-ข้อเสีย และความเสี่ยงต่าง ๆ ในการทำ Remap ให้เอง
รีแมพรถยนต์ (Remap) คืออะไร
รีแมพรถยนต์ หรือ Remapping คือ การปรับแต่งโปรแกรมควบคุมเครื่องยนต์ในกล่อง ECU (Electronic Control Unit) เพื่อเพิ่มสมรรถนะการทำงานของเครื่องยนต์ให้สูงขึ้นกว่าค่ามาตรฐานที่ถูกตั้งมาจากโรงงาน ทำให้รถมีกำลังเครื่องยนต์ แรงบิด และการตอบสนองที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่คนใช้รถส่วนใหญ่สงสัยว่ารีแมพแล้วดีไหม
หลักการทำงานของการ Remap
การรีแมพรถยนต์เป็นการปรับแต่งการทำงานของกล่อง ECU ซึ่งเปรียบเสมือนสมองกลของรถยนต์ที่ควบคุมระบบการทำงานต่าง ๆ ผ่านการปรับแต่งพารามิเตอร์ต่าง ๆ ที่สำคัญ ดังนี้
- การปรับแต่งจังหวะการฉีดน้ำมันเชื้อเพลิง ให้เหมาะสมกับการใช้งานมากขึ้น
- การปรับค่าแรงดันเทอร์โบ (สำหรับรถเครื่องยนต์เทอร์โบ) เพื่อเพิ่มกำลังอัด
- การปรับแต่งองศาการจุดระเบิด ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น
- การปรับการทำงานของระบบเกียร์ ให้ตอบสนองไวขึ้น
- การปรับแต่งระบบควบคุมความเร็วรอบเครื่องยนต์
รีแมพดีไหม ทำไมถึงได้รับความนิยม
หลายคนสงสัยว่าการทำรีแมพดีไหม จะส่งผลเสียต่อเครื่องยนต์หรือเปล่า ทำไมใคร ๆ ถึงนิยมทำกัน ก็ต้องบอกว่าขึ้นอยู่กับการปรับจูน เพราะการรีแมพรถยนต์นั้นมีตั้งแต่จูนให้ประหยัดน้ำมัน ไปจนถึงการจูนให้อัตราเร่งดีขึ้น และปลายไหลในย่านความเร็วสูง โดยไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวกับชิ้นส่วนอื่น ๆ กับตัวรถเลย จึงเป็นทางเลือกที่ประหยัดงบสำหรับใครหลายคนมากกว่า แต่หากจูนไม่ดีก็อาจส่งผลเสียต่อเครื่องยนต์ และการขับขี่ได้เช่นกัน
รู้จักข้อดี-ข้อเสียของการรีแมพรถยนต์
หลายคนที่ยังไม่แน่ใจว่ารีแมพดีไหม ลองมาไล่ดูข้อดีกับข้อเสียไปพร้อม ๆ กันดีกว่า ก่อนตัดสินใจว่าจะทำดีไหม
ข้อดีของการรีแมพรถยนต์
- เพิ่มแรงม้าและแรงบิดได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนชิ้นส่วนใหญ่
- การตอบสนองคันเร่งดีขึ้น ทำให้ขับขี่สนุกมากขึ้น
- ประหยัดน้ำมันมากขึ้นได้ หากใช้งานอย่างเหมาะสม
- แก้ปัญหาอาการเกียร์หน่วง หรือตอบสนองช้าได้
- ราคาไม่แพงมากเมื่อเทียบกับการแต่งรถวิธีอื่น
- สามารถจูนกลับไปใช้ค่ามาตรฐานได้หากไม่พอใจ
ข้อเสียของการรีแมพรถยนต์
- อาจทำให้ประกันศูนย์หมดทันทีหากตรวจพบ
- เครื่องยนต์อาจสึกหรอเร็วขึ้นหากปรับแต่งไม่เหมาะสม
- ต้องใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่มีค่าออกเทนสูงขึ้น
- หากทำกับช่างที่ไม่มีความชำนาญ อาจทำให้เครื่องยนต์เสียหายได้
- อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการบำรุงรักษา
- ต้องระมัดระวังในการเลือกช่างผู้ให้บริการ Remap
รถประเภทไหนที่เหมาะนำไปรีแมพ
รถที่นำไปรีแมพส่วนใหญ่จะเป็นรถที่อัตราเร่งไม่ดี ออกตัวได้อืด เร่งแซงไม่ทันใจ ขับทางไกลแล้วอันตราย การรีแมพรถยนต์จึงช่วยแก้ไขปัญหาตรงนี้ไปได้ และอีกประเภทหนึ่งก็จะเป็นรถแต่งซิ่ง ที่คนชื่นชอบความเร็วมักนำไปปรับจูน เพราะอยากให้รถขับสนุกขึ้นในย่านความเร็วสูง
รีแมพรถยนต์ ทำให้ประหยัดน้ำมันขึ้นจริงไหม
การรีแมพรถยนต์สามารถช่วยประหยัดน้ำมันได้จริง หากปรับแต่งให้เหมาะสมกับการใช้งาน เพราะการ Remap ที่ถูกต้องจะช่วยปรับการฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการขับขี่ของผู้ใช้รถด้วย
รีแมพรถยนต์ ราคาแพงไหม
ราคารีแมพรถยนต์จะอยู่ที่ประมาณ 2,800-8,000 บาท ขึ้นอยู่กับรุ่นรถ และระดับการปรับแต่งที่ต้องการ รวมไปถึงความมีชื่อเสียงของอู่แต่ละแห่ง และค่าอุปกรณ์ที่อาจต้องจ่ายเพิ่ม เพื่อเปลี่ยนกล่องให้เป็นของแบรนด์ดัง ๆ ที่นิยมกัน
รีแมพรถยนต์ ใช้เวลานานไหม
การ Remap โดยทั่วไปใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของรถแต่ละรุ่น และระดับการปรับแต่งที่ต้องการ นอกจากการรีแมพรถยนต์แล้ว อาจต้องใช้เวลาเพิ่มในการทดสอบ และปรับแต่งค่าต่าง ๆ ให้เหมาะสมอีกด้วย
รถที่ผ่านการรีแมพมา ประกันขาดจริงไหม
การ Remap อาจส่งผลให้การรับประกันจากศูนย์สิ้นสุดลงจริง เพราะเป็นการดัดแปลงระบบควบคุมเครื่องยนต์โดยตรง หากศูนย์ตรวจพบค่าตัวเลขที่ผิดเพี้ยนไป ถือเป็นเรื่องที่ส่งผลต่อความปลอดภัยในการใช้รถโดยตรง
สรุปบทความ
การรีแมพเครื่องยนต์นั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสีย จะดีกว่าไหมหากเลือกขับรถที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน เลือกเช่ารถกับ Drive Car Rental ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ พร้อมรถคุณภาพดีให้เลือกหลากหลาย ซึ่งทุกคันผ่านการตรวจสอบจากทีมช่างผู้เชี่ยวชาญ ให้คุณมั่นใจเรื่องสมรรถนะและความปลอดภัยตลอดเส้นทาง
แม้ว่าการรีแมพรถยนต์ จะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มสมรรถนะรถยนต์ โดยไม่ต้องลงทุนสูงมาก แต่การ Remap ที่ดีก็ควรทำกับช่างที่มีความเชี่ยวชาญ และต้องพิจารณาให้ดีว่ารีแมพดีไหมสำหรับรถของคุณในระยะยาว และสำหรับคนที่ชื่นชอบการขับรถ นอกจากการรีแมพที่ช่วยเพิ่มสมรรถนะแล้ว การเลือกใช้ยางรันแฟลต ที่ช่วยให้รถสามารถขับต่อไปได้ในความเร็วไม่เกิน 80 กม./ชม. ในระยะทางไม่เกิน 80 กม. เมื่อขับเหยียบตะปู อีกทั้งยังมีขนาดให้เลือกใช้งานหลากหลาย ตั้งแต่ยางขอบ 17 ไปจนถึงขอบ 22 สำหรับรถสมรรถนะสูง
PIRELLI ยางรถยนต์คุณภาพมาตรฐานระดับโลกที่อยู่คู่ท้องถนนมานานกว่า 152 ปี มาพร้อมกับการรับประกัน บาด บวม แตก เคลมฟรี 1 ปี หรือ 25,000 กม. (เมื่อซื้อยางครบ 4 เส้น ทุกรุ่น ทุกขนาด และลงทะเบียนภายใน 14 วัน)