รอบเดินเบาไม่นิ่งจนทำให้รถกระตุก หรือมีอาการสะอึก คือหนึ่งในปัญหาที่มักเกิดขึ้นกับรถยนต์ที่มีอายุ 5 – 6 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นช่วงที่ต้องเปลี่ยนอะไหล่ในการใช้งาน แต่ผู้ใช้รถหลายคนอาจสงสัยว่าปัญหานี้เกิดจากอะไร และมีวิธีแก้ไขอย่างไรบ้าง จำเป็นต้องเพิ่งช่างผู้เชี่ยวชาญอย่างเดียวไหม เดี๋ยววันนี้ พิเรลลี่ จะมาอธิบายให้ได้เข้าใจกัน
รอบเดินเบาไม่นิ่ง คืออะไร และทำไมถึงสำคัญ
ผู้ใช้รถหลายคนที่เคยเจอปัญหานี้ อาจสงสัยว่ารอบเดินเบาไม่นิ่งมันอันตรายแค่ไหน และทำไมถึงเป็นปัญหาที่ต้องรีบแก้ไขโดยด่วน เรามาดูความสำคัญของรอบเดินเบาของเครื่องยนต์กันดีกว่า
ความสำคัญต่อการทำงานของเครื่องยนต์
รอบเดินเบาที่นิ่งและเหมาะสม ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประหยัดน้ำมัน และยืดอายุการใช้งานของชิ้นส่วนต่าง ๆ นอกจากนี้ยังช่วยลดมลพิษจากไอเสีย และเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่
รอบเดินเบาที่เหมาะสมในรถยนต์ทั่วไป
รถยนต์ส่วนใหญ่จะมีรอบเดินเบาที่เหมาะสมอยู่ที่ 800 – 900 รอบต่อนาที แต่อาจแตกต่างกันไปตามรุ่นและยี่ห้อของรถ ถ้ารอบเดินเบาสูงหรือต่ำกว่านี้มาก อาจบ่งชี้ถึงปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไข เพราะอาจส่งอันตรายในการใช้งานรถได้
สาเหตุหลักของรอบเดินเบาไม่นิ่ง
ปัญหารอบเดินเบาไม่นิ่งสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงและอากาศ หรืออาจจะเป็นที่ชิ้นส่วนจุดระเบิด แต่ก็ยังมีหลากหลายปัญหาที่เกี่ยวข้อง เรามาดูกันว่าสาเหตุหลัก ๆ มีอะไรบ้าง
หัวเทียนบอด
หัวเทียนเป็นอุปกรณ์สำคัญในการจุดระเบิดเชื้อเพลิงภายในห้องเผาไหม้ เมื่อหัวเทียนเสื่อมสภาพหรือบอด จะส่งผลให้การจุดระเบิดไม่สมบูรณ์ ทำให้เครื่องยนต์ทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ ส่งผลให้รอบเดินเบาไม่นิ่ง เครื่องสั่น และอาจมีอาการเครื่องสะดุดหรือกระตุกขณะขับขี่ นอกจากนี้ยังอาจทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้นอีกด้วย
มอเตอร์รอบเดินเบาสกปรกหรือเสียหาย
มอเตอร์รอบเดินเบา มีหน้าที่ควบคุมปริมาณอากาศที่เข้าสู่เครื่องยนต์ในช่วงรอบเดินเบา เมื่อสกปรกหรือเสียหาย จะทำให้รอบเครื่องไม่นิ่ง สั่น หรือดับได้ง่ายเมื่อจอดรถ
ลิ้นปีกผีเสื้อมีปัญหา
ลิ้นปีกผีเสื้อ มีหน้าที่ควบคุมปริมาณอากาศที่เข้าสู่เครื่องยนต์ หากมีคราบสกปรกเกาะหรือติดขัด จะทำให้รอบเดินเบาไม่นิ่ง เร่งไม่ขึ้น และอาจทำให้รถกินน้ำมันมากขึ้น
เซนเซอร์ลิ้นปีกผีเสื้อทำงานผิดปกติ
เซนเซอร์ลิ้นปีกผีเสื้อ จะทำหน้าที่วัดปริมาณอากาศที่เข้าสู่เครื่องยนต์ เมื่อทำงานผิดปกติ จะส่งผลให้การผสมน้ำมันเชื้อเพลิงกับอากาศไม่เหมาะสม ทำให้รอบเดินเบาไม่นิ่งและเครื่องยนต์อาจดับได้
ท่อแวคคั่มรั่ว
ท่อแวคคั่มที่รั่ว จะทำให้อากาศเข้าสู่ระบบมากเกินไป ส่งผลให้อัตราส่วนผสมระหว่างน้ำมันเชื้อเพลิงและอากาศผิดพลาด ทำให้รอบเดินเบาไม่นิ่ง และอาจทำให้เครื่องยนต์ดับเมื่อจอดรถนาน ๆ
วิธีแก้ไขปัญหารอบเดินเบาไม่นิ่ง
เมื่อพบปัญหารอบเดินเบาไม่นิ่ง สามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีต่อไปนี้ แต่หากไม่มีความชำนาญเรื่องเครื่องยนต์ ควรนำรถเข้าตรวจเช็กที่อู่ซ่อมรถ หรือศูนย์บริการจะดีที่สุด
- ทำความสะอาดมอเตอร์รอบเดินเบาและลิ้นปีกผีเสื้อ : ถอดออกมาทำความสะอาดด้วยน้ำยาทำความสะอาดคาร์บูเรเตอร์ ใช้แปรงขัดเบา ๆ และเช็ดให้แห้ง
- ตรวจสอบและซ่อมแซมท่อแวคคั่ม : มองหารอยรั่วหรือแตก หากพบให้เปลี่ยนท่อใหม่ทั้งเส้น
- ตรวจเช็กและเปลี่ยนหัวเทียน : ถอดออกมาดูสภาพ หากเสื่อมให้เปลี่ยนใหม่ พร้อมตั้งระยะห่างให้ถูกต้อง
- ทำการบำรุงรักษาตามระยะ : ปฏิบัติตามตารางในคู่มือรถ เช่น เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ไส้กรองอากาศ ตามกำหนด
- ตรวจสอบระบบน้ำมันเชื้อเพลิง : เปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิง และตรวจสอบการทำงานของปั๊มน้ำมัน
- ตรวจเช็กระบบไอดี : ดูว่ามีรอยรั่วหรือไม่ และทำความสะอาดเซนเซอร์วัดปริมาณอากาศ
สรุปบทความ
จะเห็นได้ว่า ปัญหารอบเดินเบาไม่นิ่งเป็นสิ่งที่ผู้ใช้รถเลี่ยงไม่ให้เกิดได้ เพียงนำรถเข้าบำรุงรักษาตามระยะทาง อย่างเช่น การเปลี่ยนอะไหล่เมื่อครบกำหนดตามคู่มือการใช้รถ ไม่ต่างจากการเปลี่ยนยางรถยนต์ ที่ผู้ใช้รถหลายคนให้ความสำคัญ การเลือกยางคุณภาพดีอย่างยางรถยนต์ Pirelli ก็เป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์อย่างมาก เพราะมีขนาดให้เลือกใช้งานหลากหลาย ตั้งแต่ยางรถยนต์ขอบ 15 สำหรับรถเก๋งขนาดเล็กและรถกระบะ ไปจนถึงยาง SUV ขนาดใหญ่ที่มีเลือกใช้งานมากมาย ตอบโจทย์ได้ทุกความต้องการของผู้ใช้รถ
PIRELLI ยางรถยนต์คุณภาพมาตรฐานระดับโลกที่อยู่คู่ท้องถนนมานานกว่า 152 ปี มาพร้อมการรับประกัน บาด บวม แตก เคลมฟรี 1 ปี หรือ 25,000 กม. (เมื่อซื้อยางครบ 4 เส้น ทุกรุ่น ทุกขนาด และลงทะเบียนภายใน 14 วัน)
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/pirellibyatv/