การเปลี่ยนยางรถยนต์เป็นทักษะจำเป็นสำหรับผู้ขับขี่ทุกคน เพราะยางแบนหรือเสียหายอาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ โดยเฉพาะในเส้นทางที่ห่างไกลจากศูนย์บริการ การรู้วิธีใช้แม่แรงยกรถอย่างถูกต้องจะช่วยให้ผู้ใช้รถเปลี่ยนยางได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ วันนี้ พิเรลลี่ มีเกร็ดความรู้ดี ๆ เกี่ยวกับวิธีใช้แม่แรงยกรถอย่างละเอียดมาฝากกัน
แม่แรงยกรถ ทำหน้าที่อะไร
แม่แรงยกรถเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยยกรถให้พ้นพื้น ทำให้สามารถเปลี่ยนยาง ซ่อมแซมชิ้นส่วนใต้ท้องรถ หรือตรวจสอบระบบช่วงล่างได้ จากหลักการทำงานที่แม่แรงยกรถจะช่วยทุ่นแรงแทน ทำให้สามารถยกรถขึ้นได้โดยง่าย แต่ก็ต้องเลือกขนาดของอุปกรณ์อย่างเหมาะสมเช่นกัน
ประเภทของแม่แรงยกรถที่นิยมใช้งาน
แม่แรงยกรถมีหลายรูปแบบ แต่ละแบบเหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกัน การเลือกใช้แม่แรงให้เหมาะสมกับรถยนต์และสถานการณ์จะช่วยให้งานมีประสิทธิภาพและปลอดภัยยิ่งขึ้น เจ้าของรถจึงควรเรียนรู้วิธีใช้แม่แรงยกรถให้ถูกต้องก่อนลงมือทำงาน ดังนี้
แม่แรงตะเข้ (Scissor Jack)
แม่แรงตะเข้เป็นแม่แรงยกรถพื้นฐานที่มักติดมากับรถยนต์ใหม่ มีลักษณะเป็นโครงโลหะรูปทรงตัว X ที่ยืดหรือหดตัวได้เมื่อหมุนเกลียว ข้อดีคือมีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา พกพาสะดวก และเก็บในรถได้ง่าย อย่างไรก็ตาม แม่แรงตะเข้ต้องใช้แรงมากในการหมุน และมีความมั่นคงน้อยกว่าแบบอื่น จึงเหมาะสำหรับการใช้งานฉุกเฉินระยะสั้น เช่น การเปลี่ยนยางข้างทาง วิธีใช้แม่แรงยกรถประเภทนี้ต้องระมัดระวังเรื่องความมั่นคงเป็นพิเศษ
แม่แรงไฮดรอลิก (Hydraulic Jack)
แม่แรงไฮดรอลิกมีสองรูปแบบหลักคือแบบกระปุก (Bottle Jack) และแบบตั้งพื้น (Floor Jack) โดยแม่แรงไฮดรอลิกสามารถยกน้ำหนักได้มากกว่าแม่แรงตะเข้หลายเท่า ใช้แรงน้อยกว่าในการทำงาน และมีความมั่นคงสูงกว่า ด้วยการโยกคันโยกเพียงไม่กี่ครั้ง สามารถยกรถได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เหมาะกับการใช้งานในอู่ซ่อมรถหรือที่บ้านสำหรับงานซ่อมบำรุงที่ต้องใช้เวลานาน ซึ่งวิธีใช้แม่แรงยกรถแบบไฮดรอลิกมักจะง่ายกว่าแบบตะเข้
5 วิธีใช้แม่แรงยกรถอย่างถูกต้องและปลอดภัย
การใช้แม่แรงยกรถมีขั้นตอนสำคัญที่ต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันอุบัติเหตุและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ความไม่ระมัดระวังอาจนำไปสู่การบาดเจ็บร้ายแรง และความเสียหายต่อรถยนต์ได้ วิธีใช้แม่แรงยกรถที่ถูกต้องจึงมีความสำคัญอย่างมาก เรามาดูกันทีละขั้นตอนดีกว่า
1. จอดรถบนพื้นที่เรียบ พร้อมดึงเบรกมือและเข้าเกียร์
ขั้นตอนแรกและสำคัญที่สุดของวิธีใช้แม่แรงยกรถคือการจอดรถบนพื้นที่เรียบและแข็งแรง หากรถจอดบนพื้นที่ลาดเอียงหรือไม่มั่นคง อาจทำให้รถเลื่อนหรือแม่แรงล้มได้ จากนั้นดึงเบรกมือให้สุด และเข้าเกียร์ P (สำหรับเกียร์อัตโนมัติ) หรือเกียร์ 1 หรือเกียร์ถอยหลัง (สำหรับเกียร์ธรรมดา) เพื่อป้องกันไม่ให้รถเคลื่อนที่ระหว่างการยก แม่แรงยกรถจะทำงานได้อย่างปลอดภัยเมื่อรถอยู่นิ่งสนิท
2. หนุนล้อฝั่งตรงข้ามเพื่อป้องกันรถเลื่อน
เพื่อความปลอดภัยเพิ่มเติมในการใช้แม่แรงยกรถ ควรหนุนล้อที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับล้อที่ต้องการยกด้วยวัสดุแข็งแรง เช่น บล็อกไม้ อิฐ หรือที่หนุนล้อโดยเฉพาะ โดยวางไว้ทั้งด้านหน้าและด้านหลังของล้อ การทำเช่นนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้รถเคลื่อนที่ไปมาในระหว่างที่ถูกยกขึ้น เพื่อทำให้วิธีใช้แม่แรงยกรถมีความปลอดภัยมากขึ้น
3. วางแม่แรงให้ตรงกับจุดยกที่ถูกต้องตามคู่มือรถ
รถยนต์แต่ละรุ่นมีจุดยกที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ ซึ่งสามารถรองรับน้ำหนักของรถได้อย่างปลอดภัย การใช้แม่แรงยกรถในตำแหน่งที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อโครงรถ ระบบท่อไอเสีย หรือชิ้นส่วนอื่น ๆ ได้ ผู้ใช้รถสามารถตรวจสอบตำแหน่งจุดยกที่ถูกต้องได้จากคู่มือการใช้งานรถยนต์ หรือสังเกตสัญลักษณ์สามเหลี่ยมหรือรอยบุ๋มที่ใต้ท้องรถ
4. ยกรถขึ้นอย่างช้า ๆ จนล้อลอยจากพื้นและใช้ขาตั้งนิรภัยรองรับ
เมื่อวางแม่แรงตรงจุดยกแล้ว ให้ยกรถขึ้นอย่างช้า ๆ และสม่ำเสมอ จนล้อยางลอยพ้นจากพื้นเล็กน้อย สังเกตว่าแม่แรงและรถมีความมั่นคง ไม่ส่ายหรือเอียงผิดปกติ หลังจากยกรถขึ้นแล้ว ควรใช้ขาตั้งนิรภัย (Jack Stand) รองรับน้ำหนักรถแทนแม่แรงยกรถ โดยวางขาตั้งใต้โครงรถในจุดที่แข็งแรง จากนั้นค่อย ๆ ลดระดับแม่แรงจนรถทิ้งน้ำหนักลงบนขาตั้งนิรภัย
5. ลดระดับรถลงอย่างช้า ๆ และเก็บอุปกรณ์เมื่อเสร็จงาน
เมื่อเสร็จงานแล้ว ให้วางแม่แรงยกรถกลับเข้าตำแหน่งจุดยกและยกรถขึ้นเล็กน้อย เพื่อให้สามารถนำขาตั้งนิรภัยออกได้ จากนั้นค่อย ๆ ลดระดับแม่แรงลงอย่างช้า ๆ จนรถกลับมาวางบนพื้นอย่างสมบูรณ์ ตรวจสอบว่าล้อแตะพื้นอย่างถูกต้องก่อนนำแม่แรงออก สุดท้ายเก็บอุปกรณ์ทั้งหมดเข้าที่ให้เรียบร้อย พร้อมตรวจสอบความเรียบร้อยของงานที่ได้ทำ
ข้อควรระวังในการใช้แม่แรงยกรถ
นอกจากการปฏิบัติตามวิธีใช้แม่แรงยกรถข้างต้นแล้ว ยังมีข้อควรระวังเพิ่มเติมที่จะช่วยให้การทำงานปลอดภัยยิ่งขึ้น โดยสิ่งที่ต้องระวังหลัก ๆ มีดังนี้
- ห้ามคลานเข้าไปใต้รถขณะที่ใช้แม่แรงยกรถเพียงอย่างเดียว ต้องใช้ขาตั้งนิรภัยเสมอ
- อย่ายกรถในสภาพพื้นที่ไม่มั่นคง เช่น พื้นโคลน พื้นทราย หรือพื้นลาดเอียง เพราะจะทำให้แม่แรงไม่มั่นคง
- ตรวจสอบน้ำหนักสูงสุดที่แม่แรงรับได้ และไม่ยกรถที่มีน้ำหนักเกินกว่าที่แม่แรงยกรถรองรับได้
- ไม่ควรติดเครื่องยนต์หรือเขย่ารถขณะที่รถถูกยกอยู่บนแม่แรงหรือขาตั้ง
- ห้ามยกรถที่มีคนนั่งอยู่ภายใน เพราะเป็นอันตรายต่อทั้งคนในรถและตัวแม่แรง
- อย่าใช้แม่แรงยกรถที่มีร่องรอยชำรุด มีน้ำมันไฮดรอลิกรั่ว หรือมีสภาพไม่พร้อมใช้งาน
สรุปบทความ วิธีใช้แม่แรงยกรถอย่างปลอดภัย
การใช้แม่แรงยกรถอย่างถูกต้องและปลอดภัยเป็นทักษะสำคัญที่ผู้ขับขี่ทุกคนควรเรียนรู้และฝึกฝน การรู้จักเลือกใช้แม่แรงที่เหมาะสม และปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างเคร่งครัด ก็จะช่วยป้องกันอุบัติเหตุและความเสียหายลงได้ แต่หนึ่งในสาเหตุของปัญหาที่ทำให้ยางเกิดความเสียหาย ก็คือการเลือกใช้ขนาดยางรถยนต์ที่ไม่เหมาะสม หรือเติมลมยางรถยนต์ไม่ตรงตามที่คู่มือแนะนำ จึงจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับเรื่องเหล่านี้ด้วยเช่นกัน ไม่ต่างกับการเลือกใช้ยางรถยนต์คุณภาพดีอย่าง PIRELLI ที่มีเทคโนโลยีความปลอดภัยเต็มเปี่ยม แถมยังมีการรับประกันถึง 1 ปีเต็ม จึงเป็นอีกทางเลือกที่ดีของคนใช้รถอย่างอุ่นใจ
PIRELLI ยางรถยนต์คุณภาพมาตรฐานระดับโลกที่อยู่คู่ท้องถนนมานานกว่า 153 ปี มาพร้อมกับการรับประกัน บาด บวม แตก เคลมฟรี 1 ปี หรือ 25,000 กม. (เมื่อซื้อยางครบ 4 เส้น ทุกรุ่น ทุกขนาด และลงทะเบียนภายใน 14 วัน) สนใจสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ Shopee และ Lazada
บทความจาก Pirelli

สีรถถูกโฉลกตามวันเกิด 2568 เลือกสีรถยนต์อย่างไรให้เสริมดวง รุ่งเรือง
การเลือกสีรถตามวันเกิดเป็นสิ่ง …