รถน้ำเข้า ปัญหาที่เกิดขึ้นได้ในฤดูฝน
พอเข้าสู่ฤดูฝนสิ่งที่ผู้ใช้รถใช้ถนนหลายคนกังวลไม่ใช่แค่เพียงฝนตก การจราจรติดขัด ยังมีปัญหาน้ำท่วมขังที่รบกวนการใช้ชีวิตประจำวันไม่น้อย เพราะผู้ขับขี่ต้องหาพื้นที่จอดหนีน้ำ หรือหาหนทางหลีกเลี่ยงเส้นทางที่มีน้ำท่วมขัง อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้น้ำเข้ารถจนมีปัญหาตามมาอีกมาก แต่ทราบหรือไม่ว่ายังมีปัจจัยอื่นที่ทำให้รถน้ำเข้าได้เช่นกัน แล้วมีวิธีใดรับมือการขับรถในหน้าฝนอย่างไร ตามมาหาคำตอบกัน
น้ำเข้ารถมีผลเสียอย่างไร
อาการน้ำซึมเข้ารถสามารถสร้างปัญหาให้กับรถยนต์ได้ตั้งแต่ระดับเล็กน้อยถึงหนัก ขึ้นอยู่กับมีปริมาณน้ำเข้ามามากเพียงใดหรือมีน้ำท่วมขังอยู่จุดไหน และสิ่งที่ตามมาหลังน้ำเข้ารถก็คือกลิ่นเหม็นอับไม่พึงประสงค์ ส่งผลให้ผู้ขับขี่ไม่มีความสุขและอาจเจอเชื้อโรคจากความอับชื้น
สาเหตุน้ำเข้ารถยนต์ เกิดจากอะไรได้บ้าง
ปัญหาน้ำเข้ารถยนต์เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ สามารถสังเกตเบื้องต้นได้ว่าน้ำเข้ามาจากส่วนใด มีน้ำซึมเข้ามาอยู่ตรงตำแหน่งไหนของด้านในรถ โดยวิธีง่าย ๆ คือใช้สายฉีดน้ำฉีดให้ทั่วและต่อเนื่อง ช่วยให้มองหาจุดเกิดเหตุและแก้ไขได้ง่ายมากขึ้น
- ท่อน้ำทิ้งแอร์รั่ว
รถบางคันอาจเจอปัญหาน้ำเข้ารถ พรมเปียก ส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกมา หนึ่งในความเป็นไปได้คืออาการท่อน้ำทิ้งแอร์รั่ว โดยมักมีรอบน้ำซึมตรงพื้นของฝั่งที่นั่งด้านหน้า ถ้าตรวจพบว่าเกิดจากท่อหลุดสามารถแก้ไขด้วยตัวเองด้วยการเสียบท่อกลับเข้าไป แต่หากเกิดจากท่อเสื่อมให้ใช้เทปกาวติดชั่วคราวไว้ก่อน จากนั้นให้นำรถเข้าไปตรวจเช็กอย่างละเอียดที่ศูนย์บริการหรืออู่ซ่อมใกล้บ้าน
- ขับรถฝ่าน้ำท่วม
โดยทั่วไปมีคำแนะนำไม่ให้ขับรถลุยน้ำท่วมสูง เพราะน้ำอาจเข้าห้องโดยสารจนทำให้ระบบไฟช็อตและเครื่องอาจดับได้ แต่ถ้าจำเป็นต้องขับรถลุยน้ำแนะนำให้ชะลอความเร็ว และเบี่ยงรถเข้าหาเลนที่มีน้ำระดับต่ำ ช่วยลดความเสี่ยงน้ำเข้ารถได้มากกว่า
- ยางขอบประตูเสื่อม
ซีลยางขอบประตูเสื่อมสภาพเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้น้ำเข้ารถได้ โดยผู้ขับขี่อาจสังเกตความผิดปกติได้เวลาล้างรถ หากพบว่ามีน้ำรั่วซึมเข้ามาในห้องโดยสาร หรือขณะใช้ความเร็วแล้วได้ยินเสียงลมมากกว่าปกติ ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าซีลยางขอบประตูเสื่อมคุณภาพ ทั้งนี้ถ้าต้องเปลี่ยนใหม่แนะนำเลือกใช้ซีลยางที่มีคุณภาพ รวมถึงตรวจสอบซีลยางรถเป็นประจำทุก 4 เดือน เพื่อป้องกันปัญหาน้ำเข้ารถ เบาะหลัง หรือเบาะหน้า จนเป็นเหตุให้เกิดกลิ่นเหม็นอับในรถ
- จุกยางพื้นรถยนต์หลุดหาย
จุดยางอุดพื้นรถยนต์เป็นตัวช่วยให้รถไม่ลอยน้ำเมื่อต้องขับรถลุยน้ำท่วม หากจุกยางหลุดหายย่อมเพิ่มโอกาสให้น้ำไหลซึมเข้ามาได้ง่ายขึ้น
- น้ำเข้าท้ายรถ
ปัญหาน้ำเข้าท้ายรถ หากไม่สังเกตให้ดีอาจทำให้มีน้ำขังคาอยู่ในช่องยางอะไหล่ ทั้งนี้ถ้าตรวจพบความผิดปกติให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่ายางรองฝาท้ายมีปัญหา
- พลาสติกหุ้มล้อแตกรั่ว
หากพลาสติกส่วนซุ้มล้อแตกรั่ว มีโอกาสสูงเมื่อขับรถผ่านจุดน้ำท่วมขังแล้วเกิดปัญหาน้ำไหลเข้ามาในส่วนที่วางเท้าได้
วิธีป้องกันน้ำเข้ารถเบื้องต้น ลดเสี่ยงรถเสียหาย
- หลีกเลี่ยงเส้นทางน้ำท่วมสูง
การขับฝ่าน้ำท่วมไม่ใช่เรื่องที่ควรทำ เพราะมีโอกาสทำให้รถเสียหรือเกิดอันตรายต่อการควบคุมรถได้ แต่หากจำเป็นจริง ๆ สิ่งที่ควรทำคือการดูจากระดับน้ำว่าสามารถขับรถลุยน้ำได้จริงไหม โดยสามารถแบ่งระดับได้ดังนี้
- น้ำท่วมระดับ 5-10 เซนติเมตร : ไม่อันตราย ขับรถผ่านไปได้
- น้ำท่วมระดับ 10-20 เซนติเมตร : ยังปลอดภัย ผ่านได้ตามปกติ แต่อาจได้ยินเสียงน้ำใต้ท้องรถ
- น้ำท่วมระดับ 20-40 เซนติเมตร : รถอีโคคาร์เริ่มมีความเสี่ยง รถกระบะยังสามารถผ่านไปได้
- น้ำท่วมระดับ 40-60 เซนติเมตร : ปิดแอร์ขณะขับรถ โดยรถเก๋งควรเลี่ยง ส่วนกระบะเริ่มมีความเสี่ยง
- น้ำท่วมระดับ 60-80 เซนติเมตร : อันตรายต่อรถทุกคัน ไม่ชำนาญห้ามขับฝ่า
- เกิน 80 เซนติเมตร : ควรหลีกเลี่ยงใช้เส้นทางอื่น
- พยายามจอดรถในที่สูงและที่ร่ม
หากเป็นฤดูฝนที่มีพายุฝนเทมาอย่างหนัก แนะนำให้จอดรถในที่สูงกว่าระดับถนน รวมถึงนำรถเข้าไปจอดในที่ร่ม เพราะถ้าฝนตกหนักจนน้ำท่วม รถอาจเจอปัญหาจอดแช่น้ำเป็นระยะเวลานาน และนำไปสู่ปัญหาน้ำท่วมจนทำให้รถสตาร์ทไม่ติด
- หมั่นตรวจสอบสภาพรถ
ปัญหาเหล่านี้หากมีการตรวจสอบสภาพรถเป็นประจำสม่ำเสมอ สามารถทำให้พบเจอกับจุดบกพร่องได้ก่อนที่จะมีปัญหา นี่ถือเป็นวิธีป้องกันปัญหาน้ำเข้ารถและปัญหาอื่น ๆ ที่เกิดจากการเสื่อมสภาพตามอายุการใช้งานได้ดีที่สุด
- ดูดกลิ่นออกจากรถยนต์
ปัญหาน้ำเข้ารถยนต์จนส่งกลิ่นเหม็นอับภายในห้องโดยสาร การเข้ารับบริการจากคาร์แคร์ถือเป็นทางเลือกที่ดีไม่น้อย เพราะมีอุปกรณ์หรือเครื่องมือที่ช่วยจัดการกับกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ทั้งนี้ผู้ขับขี่สามารถแก้ไขปัญหาได้เบื้องต้น ด้วยการใช้ถ่านไม้ดูดซับกลิ่นในรถ
ขับรถหน้าฝน ควรเลือกยางแบบไหน
นอกเหนือจากการป้องกันน้ำท่วมด้านในตัวรถ ด้านปัจจัยภายนอกต่อการขับรถหน้าฝนคือสิ่งที่ต้องให้ความใส่ใจเช่นกัน โดยเฉพาะยางรถยนต์ที่เป็นสิ่งสำคัญต่อความปลอดภัยบนท้องถนน ไม่ว่าจะเป็นการเบรก การขับยึดติดถนน หากใช้ยางที่ไม่ได้คุณภาพอาจทำให้รถเหินน้ำได้ง่ายจนเกิดอุบัติเหตุตามมา ดังนั้นควรมองหายี่ห้อยางที่วางใจได้อย่าง Pirelli ที่มียางรถยนต์หลายรุ่นที่เหมาะใช้งานช่วงหน้าฝน เพราะดอกยางถูกออกแบบมาให้รับมือการขับบนพื้นผิวเปียก มีการรีดน้ำอย่างยอดเยี่ยม อาทิ Cinturato Rosso, P Zero หรือ Scorpion All Terrain เป็นต้น
การขับรถช่วงหน้าฝนเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญและความระมัดระวังสูง เพราะมีโอกาสเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุสูง แต่ถ้าเลือกใช้ยางรถยนต์คุณภาพดีช่วยให้ผู้ขับขี่เดินทางได้แบบไม่ต้องกังวล สำหรับผู้ที่สนใจผลิตภัณฑ์แบรนด์ Pirelli สามารถติดต่อได้ที่ Pirelli by ATV มีตัวเลือกยางหลายรุ่นหลายขนาด ตอบสนองทุกความต้องการ มาพร้อมกับการประกันยางบาด-บวม-แตก ที่สามารถเคลมฟรี 1 ปี หรือระยะทาง 25,000 กิโลเมตรโดยอยู่ภายใต้เงื่อนไขของบริษัท สนใจติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่อินบอกซ์เฟซบุ๊ก m.me/PirellibyAsiatires