รถไฟฟ้า MG ขับเคลื่อนการเดินทางสู่ยุคสมัยใหม่
กระแสรถยนต์ไฟฟ้ายังคงได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามีรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเข้ามาตีตลาดในประเทศไทยจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์จากฟากฝั่งยุโรป ญี่ปุ่น หรือ จีน ก็ตาม ซึ่ง MG ถือเป็นหนึ่งในยี่ห้อที่พร้อมเข้ามาทำการตลาดในประเทศไทยอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะ 5 รุ่น MG EV FAMILY ทั้ง NEW MG ZS EV, NEW MG EP PLUS, NEW MG4 ELECTRIC, NEW MG ES และ NEW MG MAXUS 9 ที่มีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป พร้อมเข้าถึงการใช้งานจากทุกครัวเรือน
รถไฟฟ้าเอ็มจี แบรนด์ที่มีประวัติจากแดนผู้ดี
หากพูดถึง MG แล้วหลายคนคงนึกถึงรถจากทางฝั่งแดนมังกรกันเป็นหลัก แต่ทราบหรือไม่ในความเป็นจริงแล้วการก่อกำเนิดของยี่ห้อนี้ถือกำเนิดขึ้นที่ประเทศอังกฤษ โดย William R Morris เมื่อปี ค.ศ. 1924 ก่อนจะมีการเปลี่ยนมืออยู่บ่อยครั้งและเมื่อปี ค.ศ. 2005 ถึงคราวของ Nanjing Automobile Group ที่เข้าซื้อแบรนด์มาครองได้สำเร็จและเพียง 3 ปีต่อมาก็ได้เข้าร่วมกับ SAIC นั่นเอง
โดย MG ถือเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงในวงการมอเตอร์สปอร์ต เพราะเก็บชัยชนะมาได้บ่อยครั้งและยังเป็นส่วนหนึ่งของผู้ริเริ่มการแข่งขันรายการใหม่ ๆ มากมาย รถยนต์มีความโด่งดังอย่างมากในเรื่องการทำลายสถิติ ไม่ว่าจะเป็นรถ EX120 ที่ฝากผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในการแข่งขันที่บรู๊คแลนด์ส หรือ EX135 ที่ทำลายสถิติ 203.5 ไมล์ต่อชั่วโมง บนทางตรงถนนซูเปอร์ไฮเวย์ที่เป็นทางพิเศษเมืองเดส์โซ
ปัจจุบันประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในเป้าหมายการตีตลาดของ MG ด้วยการส่งรถยนต์หลายรุ่นให้ได้เลือกใช้งานตามความพอใจ โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้าที่มุ่งเน้นด้านการขับขี่สะดวกสบาย ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
MG EV FAMILY เปิดความโดดเด่นทั้ง 5 รุ่นสวย
NEW MG ZS EV
เริ่มต้นกันที่รถไฟฟ้า MG ZS EV สมรรถนะมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor แบตเตอรี่ Lithium – Ion Battery ให้กำลังสูงสุด 177 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร ความจุแบตเตอรี่ 50.3 กิโลวัตต์อาวร์ ระยะทางวิ่งสูงสุด 403 กิโลเมตร สามารถชาร์จปกติจาก 0-100 เปอร์เซ็นต์ด้วยเวลาประมาณ 7 ชั่วโมง 15 นาทีเท่านั้น
กระจังหน้าและกันชนหน้าแบบ Grille-Less ดีไซน์สวย ล้ออัลลอยด์ขนาด 17 นิ้ว พร้อม Aero Wheel Cover มาพร้อมกับระบบรักษาความปลอดภัยถึง 20 ฟังก์ชัน ทำให้มั่นใจได้ถึงการขับขี่อย่างปลอดภัย ถือเป็นรถอเนกประสงค์ที่ตอบโจทย์ครอบครัวทั่วไปได้ไม่ยากด้วยราคาเพียง 1,023,000 บาท
NEW MG EP PLUS
MG รถไฟฟ้า 100 เปอร์เซ็นต์ รุ่น NEW MG EP PLUS ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า POWERFUL ELECTRIC MOTOR พร้อมแบตเตอรี่ LITHIUM-ION BATTERY กำลังสูงสุด 163 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 260 นิวตันเมตร ความจุแบตเตอรี่ 50.3 กิโลวัตต์อาวร์ ระยะทางวิ่งสูงสุด 380 กิโลเมตร ถูกออกแบบภายใต้แนวคิด BRIT DYNAMIC ที่ออกแบบให้ทั้งสมรรถนะ การควบคุม การออกแบบ และความปลอดภัย
โดยตัวรถมุ่งเน้นไปที่ความประหยัดยิ่งขึ้น มีต้นทุนบำรุงรักษาต่ำ เหมาะสำหรับผู้ใช้งานขับขี่ทุกวัน เริ่มต้นด้วยราคาเพียง 998,000 บาท
NEW MG4 ELECTRIC
มาถึงรุ่น NEW MG4 ELECTRIC กับรถยนต์ไฟฟ้าที่ให้ความรู้สึกสปอร์ตและคล่องตัว มีการตอบสนองได้รวดเร็วทันใจ วิ่งได้ถึง 425 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง แบตเตอรี่ติดตั้งเป็นชิ้นเดียวกับโครงสร้างตัวรถ ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็กที่ให้สมรรถนะสูง กำลังสูงสุดที่ 170 แรงม้า เวลาชาร์จ 10-80 เปอร์เซ็นต์อยู่ที่ 35 นาที ทำให้ตอบโจทย์ต่อการใช้งานฉับไว
โดยเจ้า NEW MG4 ELECTRIC ถูกจับมาขาย 2 รุ่นทั้ง X และ D ราคาเริ่มต้นที่ 869,000 บาท ถือเป็นอีกทางเลือกสำหรับผู้ที่ชื่นชอบรถสไตล์สปอร์ต
NEW MG ES
สำหรับ NEW MG ES เป็นรถ Station Wagon ที่มีการผสานฟังก์ชันครบครัน เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มีความกว้างเหมาะสมสำหรับครอบครัว สามารถปรับพับได้ตามความพอใจ มาพร้อมกับ Roof Rack ที่ช่วยให้การขนย้ายของระหว่างขับรถทางไกลเป็นเรื่องง่ายขึ้น มีระบบเทคโนโลยีรักษาความปลอดภัยครบครัน ทำให้การเดินทางกับลูกน้อยเป็นไปอย่างไร้ความกังวล
ขุมกำลังแรงสูงสุด 177 แรงม้า ทำความเร็วได้สูงสุด 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงด้วยเวลา 8.3 วินาที ระยะทางต่อการ์ชาร์จ 1 ครั้ง 412 กิโลเมตร สามารถชาร์จจาก 0-100% ด้วยเวลาเพียง 7 ชั่วโมง 15 นาทีเท่านั้น หากอยากเป็นเจ้าของราคาอยู่ที่ 959,000 บาท
NEW MG MAXUS 9
ปิดท้ายด้วยรถที่มีความโดดเด่นสูงกับ NEW MG MAXUS 9 รถตู้ไฟฟ้าที่เน้นความหรูหราด้วยบทบาทรถยนต์อเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง ให้ความรู้สึกพรีเมียมเหนือระดับ ด้านในกว้างขวางเหมาะกับครอบครัวใหญ่ ที่นั่งแบบ CAPTAIN SEATS ปรับด้วยระบบไฟฟ้า 12 ทิศทาง ควบคุมระบบต่าง ๆ ผ่านหน้าจอทัชสกรีน ระบบความปลอดภัยมากถึง 25 ระบบ เทคโนโลยีกล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3D
สำหรับเรื่องสมรรถนะ ขุมกำลังสูงสุด 245 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ความจุแบตเตอรี่ 90 กิโลวัตต์อาวร์ ระยะทางวิ่งสูงสุด 540 กิโลเมตรต่อการชาร์จ ส่งมาให้ได้ใช้งาน 2 รุ่น ทั้ง Model X และ V ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 2,499,000 บาท
ยางตอบโจทย์รถไฟฟ้า เลือกใช้ Pirelli ผู้นำแห่งแวดวงยางยนต์
การเลือกใช้ยางรถยนต์ต้องเลือกอย่างมีคุณภาพจากแบรนด์ที่วางใจได้อย่าง Pirelli ที่มีประวัติการทำงานแวดวงยางมาแล้วกว่า 151 ปี ซึ่งนอกจากจะผลิตยางรถยนต์ทั่วไปรุ่นใหม่ ๆ อย่าง Cinturato™ Rosso หรือ Scorpion All-Terrain Plus แล้ว ยังมีบทบาทในการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ช่วยส่งเสริมความปลอดภัยสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าด้วย อาทิรุ่นของ CINTURATO P7 หรือ P ZERO(PZ4) นั่นเอง
โดยพิเรลลี่ได้คิดค้นเทคโนโลยี ELECT™ ที่มีจุดเด่นช่วยให้เดินทางได้ไกลมากขึ้นด้วยการลดการสูญเสียพลังงาน เพิ่มระยะทางในการใช้งานแบตเตอรี่ได้มากถึง 10% นอกจากนี้ยังถูกออกแบบมาให้รับมือแรงบิดมหาศาลของเครื่องยนต์ไฟฟ้า ทั้งยังพัฒนาเรื่องของประสิทธิภาพการเร่งและการเบรก ทำให้ขับขี่ได้สนุกและปลอดภัยยิ่งขึ้น พร้อมมอบความเงียบที่เหนือชั้นกว่า ถูกออกแบบมาให้ลดเสียงรบกวนภายในห้องโดยสารได้มากที่สุดถึง 20% มีอายุการใช้งานยาวนาน รองรับทุกการเดินทางเพื่อครอบครัวของคุณ
หากสนใจยางรถยนต์ไฟฟ้าจาก Pirelli สามารถติดต่อได้เลยผ่านทาง ตัวแทนจำหน่ายยาง Pirelli ใกล้ฉัน หรือ Pirelli ATV สามารถขอรับคำปรึกษาสอบถามเรื่องการซื้อหรือผ่อนยางได้อย่างรวดเร็ว บริการหลังการขายยอดเยี่ยม มียางหลายขนาดที่ครอบคลุมรถหลากประเภท มั่นใจได้ด้วยประกันยาง “บาด-บวม-แตก” ที่สามารถเคลมฟรี 1 ปี หรือระยะทาง 25,000 สนใจติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่อินบอกซ์เฟซบุ๊ก m.me/PirellibyAsiatires