วันหมดอายุยางรถยนต์สำคัญอย่างไร
เมื่อรถยนต์กลายเป็นยานพาหนะหลักที่หลายคนใช้เดินทางในชีวิตประจำวัน ทำให้การดูแลตรวจเช็กความพร้อมของรถเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน โดยเฉพาะยางรถยนต์ส่วนประกอบสำคัญของรถที่ต้องสัมผัสกับพื้นผิวถนนตลอดเวลา ดังนั้นเพื่อยืดอายุการใช้งานได้นาน ๆ นอกจากการเอาใส่ใจดูแลรักษายางรถยนต์ให้พร้อมใช้อยู่เสมอ การรู้อายุยางรถยนต์ก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน จะได้รู้ว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยนยางใหม่เมื่อไหร่
อายุยางรถยนต์ มีความสำคัญอย่างไร
การทราบอายุยางรถยนต์เส้นที่สนใจหรือกำลังใช้งานอยู่ ทำให้ทราบว่ายางเส้นดังกล่าวถูกผลิตขึ้นมากี่ปี และรู้ระยะเวลาที่เหมาะสมในการใช้ยางเส้นนั้น ๆ ก่อนเปลี่ยนยาง ที่สำคัญช่วยให้ผู้ขับขี่มั่นใจได้ว่ายางเส้นดังกล่าวเป็นยางใหม่ ไม่ใช่ยางเก่าที่ผู้ให้บริการนำมาย้อมแมวเพื่อหลอกขาย
นอกจากอายุยางรถยนต์ที่ผู้ขับขี่ต้องให้ความสำคัญ ปัจจัยภายนอกที่ส่งผลกระทบต่อเนื้อยาง เช่น วางยางตากแดด หรือเก็บไว้ในสถานที่ที่โดนฝนเป็นประจำ อาจทำให้ยางเส้นดังกล่าวเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ เรื่องเหล่านี้ล้วนเป็นอีกสิ่งที่ผู้ขับขี่ต้องนำมาพิจารณาควบคู่กันก่อนตัดสินใจซื้อยางรถยนต์ เพื่อให้มั่นใจว่าได้ยางคุณภาพดีได้มาตรฐานมาใช้งาน
วิธีดูวันเดือนปีที่ผลิตยางรถยนต์
สำหรับผู้ขับขี่ที่สงสัยว่า ดูปียางรถยนต์ ตรงไหน ? คำตอบคือ ดูตัวเลขที่บริเวณแก้มยาง โดยมีชุดตัวเลข 4 ตัวบนแก้มยาง ระบุช่วงเวลาที่มีการผลิตยางไว้ดังนี้
- ตัวเลข 2 หลักแรก บอกถึงสัปดาห์ที่ผลิตยาง (หนึ่งปีจะมี 52 สัปดาห์)
- ตัวเลข 2 หลักสุดท้าย คือ ปีคริสตศักราช (ค.ศ.) ที่ผลิตยาง
ตัวอย่าง
บนแก้มยางระบุตัวเลข 0821 หมายความว่ายางรถยนต์เส้นนี้ถูกผลิตขึ้นในสัปดาห์ที่ 8 ปี 2021 เมื่อตรวจดูตามปฏิทินจะทราบได้ว่า ยางถูกผลิตในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2022
ยางรถยนต์ใช้ได้กี่ปี ก่อนถึงเวลาเปลี่ยน
สำหรับวิธีดูยางรถยนต์หมดอายุ หากยางรถยนต์เส้นนั้นถูกเก็บรักษาอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม อายุการเก็บรักษาในที่เก็บนานถึง 10 ปี แต่หลังเริ่มขับขี่อายุการใช้งานยางโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 5 ปี ก่อนเริ่มสภาพตามการใช้งาน หรืออธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ ยางรถที่ถูกใช้งานในชีวิตประจำวันโดยเฉลี่ยอายุยางอยู่ที่ประมาณ 2-3 ปี หรือประมาณ 30,000 กิโลเมตร ก่อนต้องเปลี่ยนยางรถยนต์เส้นใหม่
นอกจากเรื่องอายุของยางที่เป็นปัจจัยในการเปลี่ยนยางแล้ว สภาพยางรถยนต์ที่ควรเปลี่ยนเป็นอีกประเด็นที่ต้องนำมาพิจารณาประกอบกัน
- ดอกยางจางลง ร่องลึกของดอกยางตื้นขึ้น มีรอยถลอกบริเวณผิวยาง
- แก้มยางมีรอยแตกที่เห็นได้อย่างชัดเจน
- ยางบวม ถึงจะบวมไม่มากก็ควรเปลี่ยนยางเส้นใหม่
- ยางรถยนต์รั่วหรือมีรอยฉีกขาดบริเวณหน้ายางและแก้มยาง
วิธีดูแลยางเพื่อยืดอายุการใช้งาน
ยางรถยนต์เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้รถเคลื่อนที่ได้อย่างเสถียรและปลอดภัยตลอดการเดินทาง ดังนั้นเพื่อยืดอายุการใช้งานยางรถยนต์ให้ใช้ได้อย่างยาวนาน และช่วยให้การขับขี่ทำได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ตามมาดูวิธีดูแลยางรถยนต์กัน
(1) เช็กลมยางสม่ำเสมอ
หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ยางเสื่อมสภาพเกิดจากการไม่เติมลมยางให้อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด เพราะลมยางทำหน้าที่รับน้ำหนัก ช่วยการทรงตัว และคงรูปร่างของยางให้อยู่ในสภาพที่ดีขณะใช้งานในชีวิตประจำวัน ดังนั้นหากลมยางอ่อนเกินไป อาจส่งผลให้เครื่องยนต์ทำงานหนักขึ้นเวลาเร่งเครื่อง หรือเติมลมยางมากเกินไป ทำให้ตัวยางแข็งเกินไปและขณะขับรู้สึกโคลงเคลง เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ยางเสื่อมสภาพเร็วกว่าที่ควร แนะนำให้ตรวจเช็กแรงดันลมยางอย่างน้อยเดือนละครั้ง
(2) ตรวจเช็กสภาพดอกยาง
ตามที่ทราบกันว่า ดอกยางรถยนต์ทำหน้าที่ในการยึดเกาะถนนและกระจายน้ำหนักของตัวรถให้เท่ากันบนยางแต่ละเส้น ขณะที่ร่องยางช่วยรีดน้ำออกจากหน้ายางขณะขับรถบนถนนที่เปียกหรือมีน้ำขัง เพื่อป้องกันการลื่นไถลหรือรถเหินน้ำ โดยปกติดอกยางใหม่มีความลึกประมาณ 8-9 มิลลิเมตร หากความสูงของดอกยางต่ำกว่า 3 มิลลิเมตร ควรรีบเปลี่ยนยางรถยนต์ทันที
(3) ใช้ยางให้ถูกประเภท
ก่อนเปลี่ยนยางเส้นใหม่ควรพิจารณาสภาพถนนที่ใช้งานเป็นประจำควบคู่กัน เช่น ขับรถบนถนนในเมืองหรือเส้นทางหลวงที่มีพื้นผิวถนนเรียบ อาจเลือกยางนุ่มเงียบที่ผิวสัมผัสหน้ายางมีการกระจายแรงกดแบบสม่ำเสมอ ช่วยลดแรงกระแทกได้ดี ทำให้รู้สึกถึงความนุ่มนวลในการขับขี่ หรือยางประหยัดน้ำมันที่มีส่วนผสมของซิลิก้าในเนื้อยางที่ช่วยลดความร้อนซึ่งเกิดจากแรงเสียดทานของล้อยางกับพื้นถนน ส่งผลให้เครื่องยนต์ออกแรงน้อยลงในการหมุนล้อและใช้น้ำมันน้อยลง แต่ถ้าขับรถในเส้นทางสมบุกสมบันเป็นประจำ แนะนำให้เลือกยางออฟโรดที่หลายรุ่นถูกออกแบบให้ใช้ขับขี่ได้ทั้งบนท้องถนนทางเรียบและทางขรุขระ
(4) ไม่จอดรถทิ้งไว้นาน
รถจอดทิ้งไว้นานอาจทำให้ยางเสื่อมสภาพเร็วกว่ากำหนด เพราะน้ำหนักของรถตกไปอยู่ที่จุด ๆ เดียวของยางแต่ละเส้นอาจทำให้ยางเสียรูปได้ ดังนั้นควรหาเวลาสตาร์ทรถและขับเคลื่อนบ้างอย่างน้อยทุก 2-3 วัน หรือทุก ๆ 2 สัปดาห์ เพื่อเปลี่ยนจุดสัมผัสระหว่างยางกับพื้นถนน และให้เครื่องยนต์ภายในได้ทำงาน
(5) ไม่บรรทุกน้ำหนักเกินอัตรา
หลายคนอาจไม่รู้ว่าน้ำหนักบรรทุกมีผลต่ออายุการใช้งานของยางเช่นเดียวกัน หากฝืนบรรทุกน้ำหนักเกินค่าดัชนีการรับน้ำหนักของยางรถยนต์ที่ผู้ผลิตยางระบุไว้ อาจส่งผลให้อายุการใช้งานของยางรถยนต์ลดลงอย่างรวดเร็ว
เพียงปฏิบัติตามคำแนะนำข้างต้นก็สามารถยืดอายุการใช้งานของยางรถยนต์ออกไปได้อีกนาน เพราะการเปลี่ยนยางรถยนต์มีค่าใช้จ่ายจำนวนไม่น้อย มาถึงตรงนี้ใครที่กำลังมองหายางรถยนต์คุณภาพดี มาพร้อมเทคโนโลยี Seal Inside ที่ช่วยให้คุณสามารถขับรถต่อไปได้อย่างปลอดภัยโดยไม่เกิดการศูนย์เสียลมยาง แม้ยางรถยนต์โดนเจาะด้วยตะปูหรือวัตถุอื่น ๆ ขอแนะนำยางรถยนต์ Pirelli นอกจากมีความโดดเด่นด้านเทคโนโลยี ยังมีบริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม เพราะมีประกันยางบาด บวม แตก ที่สามารถเคลมฟรี 1 ปี หรือระยะทาง 25,000 กิโลเมตรโดยอยู่ภายใต้เงื่อนไขของบริษัท สนใจติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่อินบอกซ์เฟซบุ๊ก m.me/PirellibyAsiatires