ก่อนต่อภาษีต้องรู้ ทำไมต้องนำรถตรวจสภาพ
ทุกวันนี้รถยนต์เป็นยานพาหนะที่หลายคนมีไว้ครอบครองเพื่อความสะดวกสบายและความเป็นส่วนตัวเวลาเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ และเพื่อให้การขับขี่เต็มไปด้วยความปลอดภัยทั้งของตนเองและเพื่อนร่วมทาง ผู้ใช้รถต้องนำรถเข้าศูนย์บริการหรืออู่ใกล้บ้านเพื่อตรวจสภาพรถให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานอยู่เสมอในทุก ๆ 6 เดือนหรือตามระยะทางที่กำหนด เมื่อเอ่ยถึงการตรวจสภาพรถเชื่อว่ามีผู้ใช้รถจำนวนไม่น้อยนึกถึงการตรวจสภาพรถก่อนเสียภาษีประจำปี ว่าหากไม่ใช่รถใหม่ป้ายแดงที่เพิ่งจะใช้งานไม่นาน รถกี่ปีต้องตรวจสภาพก่อนต่อภาษี ต้องนำรถไปตรวจสภาพที่ไหน เสียค่าใช้จ่ายเท่าไร วันนี้ Pirelli ได้รวบรวมข้อมูลทั้งหมดมาไว้ให้แล้ว
ตรวจสภาพรถคืออะไร มีความสำคัญอย่างไร
เป็นการตรวจสอบว่าตัวรถมีสภาพมั่นคงแข็งแรง ลักษณะภายนอกรถ และอุปกรณ์ส่วนควบของรถถูกต้องตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง เพื่อความปลอดภัยผู้ใช้รถใช้ถนน รวมถึงช่วยลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน นอกจากนี้การตรวจสภาพรถประจำปียังมีความสำคัญที่ผู้ใช้รถควรรู้ นั่นคือการนำใบรับรองการตรวจสภาพรถไปยื่นทำเรื่องต่อภาษีรถยนต์ประจำปีที่สำนักงานขนส่งใกล้บ้าน การต่อประกันภัยรถยนต์ ไปจนถึงใช้เป็นหลักฐานเวลายื่นขอสินเชื่อจำนำทะเบียนรถหรือขายรถให้แก่ผู้อื่น
รถกี่ปีต้องตรวจสภาพ ก่อนต่อภาษีรถยนต์
หากเป็นรถยนต์ที่มีอายุไม่เกิน 7 ปี สามารถนำสำเนาทะเบียนรถหรือเล่มรถฉบับจริงพร้อมสำเนาบัตรประชาชนไปซื้อ พ.ร.บ. รถยนต์ ได้ที่บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด ทั่วประเทศ ตัวแทนประกันภัย เคาน์เตอร์เซอร์วิส 7-11 หรือธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ทุกสาขา เพื่อไปยื่นประกอบการต่อภาษีรถประจำปี
แต่ถ้ารถมีอายุการใช้งานเกิน 7 ปีขึ้นไป ต้องนำรถเข้ารับการตรวจสภาพที่กรมการขนส่งทางบกหรือสำนักงานขนส่งใกล้บ้าน และสถานตรวจสภาพรถเอกชน หรือ ตรอ. ที่ได้การรับรองจากกรมการขนส่งทางบก โดยประเภทของรถที่อยู่ในข่ายต้องตรวจสภาพก่อนเสียภาษีประจำปี ได้แก่
- รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน ที่มีอายุใช้งานครบ 7 ปีขึ้นไป
- รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน ที่มีอายุใช้งานครบ 7 ปีขึ้นไป
- รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ที่มีอายุใช้งานครบ 7 ปีขึ้นไป
- รถมอเตอร์ไซค์ ที่มีอายุใช้งานครบ 5 ปีขึ้นไป
- รถที่ภาษีขาดเกิน 1 ปี
- รถยนต์ที่ติดตั้งก๊าซ NGV และแก๊ส LPG ต้องนำรถเข้ามาตรวจสภาพถังก๊าซและอุปกรณ์ ก่อนต่อภาษีรถทุกปี
ตรวจสภาพรถยนต์ 7 ปี นับอายุการใช้งานอย่างไร
การนับอายุการใช้งานของรถยนต์ให้เริ่มนับตั้งแต่วันที่ทำการจดทะเบียนในครั้งแรก ถึงวันสิ้นสุดอายุภาษีประจำปี (วันครบกำหนดเสียภาษีประจำปี) เช่น รถยนต์ของนาย A จดทะเบียนในครั้งแรกเมื่อปี 2560 เท่ากับว่าในปี 2567 รถยนต์คันนี้จะมีอายุการใช้งานครบ 7 ปี และต้องเข้ารับการตรวจสภาพในปี 2567 เพื่อนำใบรับรองการตรวจสภาพรถไปยื่นประกอบการเสียภาษีประจำปี ทั้งนี้ผู้ใช้รถสามารถนำรถเข้าตรวจสภาพล่วงหน้าได้ 3 เดือน ก่อนถึงวันสิ้นอายุภาษีประจำปี

ไขข้อสงสัย รถอายุเกิน 7 ปี ต้องตรวจสภาพทุกปีไหม
สำหรับผู้ที่ใช้งานรถมอเตอร์ไซค์ รถยนต์อายุ 5 หรือ 7 ปี ที่สงสัยว่าต้องตรวจสภาพทุกปีไหม ? ถึงต่อภาษีรถยนต์ประจำปีได้ คำตอบคือ รถมอเตอร์ไซค์ที่ใช้งานครบ 5 ปี และรถยนต์ที่มีอายุใช้งานครบ 7 ปี ต้องนำรถไปตรวจสภาพตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 ก่อนทุกครั้ง ถึงยื่นเรื่องเสียภาษีประจำปีได้
ตรวจสภาพรถ ใช้เอกสารอะไรบ้าง มีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่
เอกสารที่ต้องใช้ในการตรวจสภาพรถยนต์และรถมอเตอร์ไซค์ ประกอบด้วยใบคู่มือจดทะเบียนรถ หรือเล่มทะเบียนรถ (รถยนต์ : เล่มสีฟ้า / รถมอเตอร์ไซค์ : เล่มสีเขียว) สามารถใช้ได้ทั้งฉบับจริงหรือสำเนา พร้อมรถที่ต้องเข้ารับการตรวจสภาพ
ส่วนค่าใช้จ่ายในการตรวจสภาพรถ มีรายละเอียดดังนี้
- รถมอเตอร์ไซค์ คันละ 60 บาท
- รถยนต์ที่มีน้ำหนักรถเปล่าไม่เกิน 1,600 กิโลกรัม คันละ 150 บาท
- รถยนต์ที่มีน้ำหนักรถเปล่าเกิน 1,600 กิโลกรัม คันละ 250 บาท
- รถยนต์ที่ติดตั้งก๊าซ NGV หรือแก๊ส LPG ต้องจ่ายค่าตรวจเพิ่มเติม 535 บาท
ทั้งนี้หากตรวจสภาพรถแล้วไม่ผ่านเกณฑ์ สามารถนำรถกลับไปแก้ไขให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ก่อนนำรถกลับมาตรวจสอบที่เดิมภายใน 15 วัน โดยครั้งนี้จะเสียค่าใช้จ่ายเพียงครึ่งเดียวของอัตราที่กำหนดเอาไว้ เว้นแต่เปลี่ยนสถานที่ตรวจสภาพรถใหม่หรือนำรถกลับมาตรวจเกินเวลาที่กำหนดจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเต็มจำนวน
นอกเหนือจากการตรวจสภาพรถเพื่อนำใบรับรองไปยื่นประกอบการชำระภาษีรถยนต์ประจำปี ช่วยให้ผู้ใช้รถรู้ว่ารถยนต์ที่ใช้งานอยู่อะไรเสื่อมสภาพบ้าง เพื่อจะได้ซ่อมแซมและบำรุงรักษารถให้มีอายุที่ยาวนานขึ้น ทั้งนี้หากพบว่ายางรถยนต์ที่ใช้งานอยู่ดอกยางเหลือน้อย แก้มยางแตก หรือยางบวม ควรรีบเปลี่ยนยางเส้นใหม่ทันทีเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ แต่ถ้าไม่รู้เปลี่ยนยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี ? ยึดเกาะถนนได้ดี มีการรับประกันยางจากผู้ผลิต ขอแนะนำยางรถยนต์ Pirelli แบรนด์ที่มีประสบการณ์การผลิตยางคุณภาพมากว่า 151 ปี ทำให้มียางรถยนต์ที่ตอบโจทย์การใช้งานได้ครอบคลุม ที่สำคัญเพียงเปลี่ยนยางรถยนต์กับ Pirelli by ATV รับประกันยาง 1 ปี หรือ 25,000 กิโลเมตร หากเกิดปัญหายางบาด บวม และแตกจากอุบัติเหตุต่าง ๆ แจ้งเคลมไว รับยางเส้นใหม่ไปใช้งานทันที ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่อินบอกซ์เฟซบุ๊ก m.me/PirellibyAsiatires