ขับขี่ปลอดภัยในยามฝนตก ทำได้อย่างไรบ้าง?
การขับรถยามฝนตกมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุสูงมาก เพราะถนนลื่นและทัศนวิสัยในการขับขี่ไม่ดีเท่าการขับขี่ในวันที่ท้องฟ้าปลอดโปร่ง ผู้ที่มีความจำเป็นต้องขับรถทางไกลในวันที่ฝนตกหนักจึงควรเพิ่มความระมัดระวัง มือใหม่ควรเลี่ยงการขับรถตอนฝนตก รวมถึงไม่ควรขับรถตอนฝนตกในช่วงกลางคืน เพราะฝนและความมืดจะทำให้รถลื่นไถลลงข้างทางได้ง่าย ควรรอให้ฝนหยุดตกหรือเริ่มซาก่อนถึงเดินทางต่อ แต่ถ้ามีความจำเป็นต้องขับรถฝ่าฝน ควรขับขี่ด้วยความระมัดระวัง
ข้อควรระวังเวลาขับรถตอนฝนตก
เวลาฝนตกต้องเพิ่มความระวังมากเป็นพิเศษ เพราะอาจมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้ โดยสิ่งที่ควรระวังเมื่อฝนตก มีดังนี้
- กระจกเป็นฝ้า
ในช่วงที่ขับรถตอนฝนตก กระจกอาจเป็นฝ้าได้ เนื่องจากอุณหภูมิภายในและภายนอกตัวรถไม่เท่ากัน วิธีแก้คือการปรับกระจกลงให้สุด เพื่อให้มีการหมุนเวียนของอากาศทั้งภายในและภายนอกตัวรถ ฝ้าจะค่อย ๆ หายไป แต่หากฝ้าเกิดบริเวณกระจกหน้าให้เปิดที่ปัดน้ำฝนไล่ฝ้าออกไป อย่ารอให้ฝ้าหายไปเอง เพราะจะเป็นอันตรายในการขับขี่
- มีสิ่งกีดขวางทางสัญจร
เวลาฝนตกมีทั้งกิ่งไม้หักขวางทาง ควรเลี่ยงใช้ทางอื่น เพราะการลงไปยกกิ่งไม้ด้วยตนเองลำพัง มีความเสี่ยงที่จะโดนกิ่งไม้อื่นล้มทับได้ รวมถึงกิ่งไม้อาจจะมีน้ำหนักมากจนบาดเจ็บขณะยก นอกจากนั้นช่วงฝนตกยังอาจพบอุบัติเหตุกีดขวางทางจราจร หากสถานการณ์คลี่คลายดีแล้ว คนเจ็บได้รับการส่งตัวไปโรงพยาบาล ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุแล้ว ให้เลี่ยงไปใช้เลนด้านข้างแทน หากเป็นผู้ประสบอุบัติเหตุเอง ให้เปิดไฟฉุกเฉิน เตรียมเบอร์โทรฉุกเฉินเผื่อใช้งาน หากสามารถเคลื่อนย้ายรถได้ ให้ประคองรถไปจอดข้างทาง
- ดินถล่มหรือน้ำป่าไหลหลาก
ในกรณีที่พื้นที่นั้นได้รับการประกาศว่าจะมีน้ำป่า หรือมีดินถล่มลงมาขวางทาง ให้เปลี่ยนเส้นทางการเดินรถทันที เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับภัยพิบัติที่จะสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน
- สัตว์ร้ายเข้ารถ
กรณีนี้มักจะเจอเมื่อจอดรถทิ้งไว้นาน ๆ แต่บางครั้งก็มีสัตว์ร้ายที่ลอยมากับน้ำแล้วเกาะมากับรถได้เช่นกัน ไม่ควรเอามือไปสัมผัสกับสัตว์มีพิษโดยตรง ควรใช้ไม้กวาดหรือไม้ค่อย ๆ เขี่ยสัตว์มีพิษออกจากบริเวณ แต่หากเป็นสัตว์ใหญ่ เช่น งู ควรเรียกกู้ภัยมาจับออกจากตัวรถ
สิ่งที่มากับฝนส่งผลให้การขับขี่ยากมากขึ้นกว่าเดิม ผู้ขับขี่ต้องใช้ความระวังมากขึ้นเป็นพิเศษ หากไม่ชำนาญทาง หรือเพิ่งหัดขับควรจอดรถเข้าข้างทาง แล้วรอจนฝนซาถึงค่อยเดินทางต่อ
การขับรถลุยฝนให้ปลอดภัย
เวลาขับรถลุยฝน สิ่งที่มักเป็นปัญหาต่อการขับขี่มากที่สุดคือสภาพแวดล้อมภายนอก ทั้งลมฝนที่ทำให้มองทางไม่ชัดเจน เศษใบไม้หรือวัตถุอื่น ๆ ที่อาจลอยมากระทบรถ รวมถึงปริมาณน้ำที่อาจท่วมขังในบางพื้นที่จนเสี่ยงต่อการประสบปัญหารถดับ มีวิธีการขับรถลุยฝนให้ปลอดภัย ดังนี้
- ขับรถด้วยความเร็วต่ำ เพื่อให้เบรกได้ทันเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น รถข้างหน้าเบรกกะทันหัน ถนนขาด หรือถนนลื่นจนรถเสียหลัก
- เว้นระยะห่างจากรถคันข้างหน้ามากกว่าเดิมเล็กน้อย หรือเว้นระยะห่างประมาณ 30 เมตร ป้องกันการเบรกระยะประชิด
- เปิดที่ปัดน้ำฝนเอาไว้ตลอดเวลา เพื่อไม่ให้น้ำฝนมาบดบังการมองเห็น
- หลีกเลี่ยงการขับลุยน้ำพื้นที่น้ำท่วมสูงประมาณของประตูรถ หากต้องลุยน้ำท่วมให้เลือกบริเวณที่น้ำท่วมไม่เกินครึ่งล้อ แล้วปิดแอร์ เพื่อลดโอกาสที่น้ำจะเข้ามาในห้องเครื่องยนต์
- เปิดไฟสูงเมื่อไม่มีรถสัญจรผ่านไปมา และควรปรับเป็นไฟต่ำทันทีเมื่อมีรถสวนเลนมา
การขับรถช่วงฝนตกหนักเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ควรมีสติและตรวจสภาพรถก่อนออกเดินทางช่วยเพิ่มความอุ่นใจได้ ผู้ใช้รถทุกคนไม่ควรละเลยเรื่องยางรถยนต์ เพราะเวลาฝนตกถนนลื่น ยางรถยนต์ที่มีประสิทธิภาพการเกาะถนนและรีดน้ำได้ดีจะเป็นประโยชน์อย่างมาก แนะนำยางรถยนต์ Pirelli ที่มียางรถยนต์หลายขนาด ตอบโจทย์รถหลายประเภท พร้อมเทคโนโลยีการผลิตที่ยออดเยี่ยมจนคนให้ความไว้ใจตลอดระยะเวลา 151 ปี มองหายางคุณภาพดี เลือกยาง Pirelli ได้อย่างไม่ลังเล ซื้อยางวันนี้มาพร้อมโปรโมชั่นจาก Pirelli by ATV ที่รับประกันยางบาด บวม แตก จากการใช้งานภายใน 1 ปี หรือ 25,000 กิโลเมตร สอบถามเพิ่มเติมทางเว็บไซต์ หรือเฟซบุ๊ก m.me/PirellibyAsiatires