ความปลอดภัยที่ไม่ควรมองข้ามของไฟฉุกเฉิน
รถยนต์มีอุปกรณ์ความปลอดภัยที่ติดตั้งมาในตัวรถ เช่น ถุงลมนิรภัย เข็มขัดนิรภัย และไฟฉุกเฉิน โดยไฟฉุกเฉิน คือ สัญญาณไฟที่ใช้เมื่อรถยนต์มีปัญหาและต้องการส่งสัญญาณถึงรถคันอื่น ๆ ซึ่งการเปิดไฟฉุกเฉินนี้ต้องเปิดในสถานการณ์ที่จำเป็นเท่านั้น ไม่ควรเปิดบ่อย ๆ หรือเปิดทิ้งไว้ เพราะทำให้รถที่ตามหลังมาสับสนและเกิดอุบัติเหตุได้
จุดประสงค์ของการใช้ไฟฉุกเฉิน

ไฟฉุกเฉินจะเปิดในสถานการณ์ฉุกเฉินบนท้องถนน เพื่อเป็นสัญญาณให้รถคันข้างหลังได้ระวังขณะขับตามหลัง ไฟฉุกเฉินเปิดตอนไหนได้บ้างจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ส่วนมากจะเปิดในกรณีดังต่อไปนี้
1.) รถเกิดปัญหา
หากรถเกิดปัญหาที่อาจส่งผลต่อผู้ใช้รถคนอื่น เช่น ล้อรถมีปัญหาจนการควบคุมรถลำบาก รถเสียกลางทาง ควรเปิดไฟฉุกเฉินเอาไว้ ผู้ร่วมถนนคนอื่นจะได้ขับขี่ด้วยความไม่ประมาท
2.) สิ่งกีดขวางด้านหน้า
เมื่อขับรถแล้วเจอสถานการณ์ที่ทำให้รถต้องหยุดกะทันหัน เช่น มีต้นไม้หักขวางทาง มีอุบัติเหตุกลางถนน หรือมีสัตว์ใหญ่ข้ามถนน ผู้ขับขี่ควรเปิดไฟฉุกเฉินเอาไว้เสมอ รถที่ขับตามมาทีหลังจะได้ชะลอความเร็วและหยุดได้ทัน
3.) การแห่ขบวนต่าง ๆ
ในบางประเพณีจะมีการเปิดไฟฉุกเฉินเมื่อมีขบวนแห่ที่กีดขวางเส้นทางบนถนน เช่น งานศพ งานบวช งานทอดกฐิน การเปิดไฟฉุกเฉินในกรณีนี้จะเป็นการบอกให้รถคันข้างหลังขับแซงได้เลย เพราะรถขบวนแห่จะขับค่อนข้างช้า หากขับตามหลังจะทำให้รถติดได้
การเปิดไฟฉุกเฉินนี้อาจมีสถานการณ์อื่น ๆ ที่นอกเหนือจากที่กล่าวมา โดยจะมีสาเหตุมาจากการที่รถเกิดปัญหาแล้วคนขับต้องการส่งสัญญาณให้คันข้างหลังรับรู้ หรือขอความช่วยเหลือหากมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นในรถ ถึงแม้ไฟฉุกเฉินจะไม่ได้เปิดบ่อย ๆ แต่ก็ควรตรวจเช็กไฟฉุกเฉินเป็นระยะ เพื่อป้องกันปัญหาไฟฉุกเฉินรถยนต์ไม่ติด ไฟฉุกเฉินค้าง หรือไฟฉุกเฉินกระพริบเองที่จะส่งผลเมื่อต้องการใช้ไฟฉุกเฉินในสถานการณ์จริง
ข้อควรรู้เกี่ยวกับการเปิดไฟฉุกเฉิน

การเปิดไฟฉุกเฉินบนท้องถนนต้องมีสถานการณ์ที่จำเป็นต้องส่งสัญญาณให้กับคนร่วมถนนคนอื่น ๆ ไม่ควรเปิดค้างไว้ตลอดเวลา ข้อควรรู้ในการเปิดไฟฉุกเฉินบนท้องถนน มีดังนี้
1.) เปิดไฟฉุกเฉิน
- รถเสียกลางทาง หากเคลื่อนย้ายรถไปริมทางได้ให้เปิดไฟฉุกเฉินแล้วค่อย ๆ ชะลอรถจอดข้างทาง แต่หากรถเสียจนไม่สามารถบังคับรถไปข้างทางได้ ให้จอดรถแล้วเปิดไฟฉุกเฉิน แล้วโทรตามช่างมาลากรถไปซ่อม ไม่ควรจอดรถทิ้งไว้กลางถนนเป็นเวลานาน เพราะจะทำให้การจราจรติดขัด
- พบเจออุบัติเหตุด้านหน้า ให้เปิดไฟฉุกเฉินเป็นสัญญาณให้รถคันด้านหลัง เมื่อเลี่ยงออกมาพ้นจากจุดเกิดอุบัติเหตุแล้วให้ปิดไฟฉุกเฉิน
2.) ไม่ควรเปิดไฟฉุกเฉิน
- ขณะที่รถเคลื่อนที่ไม่ควรเปิดไฟฉุกเฉิน เพราะจะทำให้รถด้านซ้ายและขวาสับสนคิดว่าเป็นไฟเลี้ยว
- ช่วงที่ขับรถผ่านทางสี่แยกไม่ต้องเปิดไฟฉุกเฉิน เพราะจะสร้างความสับสนให้กับรถคันข้างหลัง
- ขณะที่ขับรถฝนตกหนักควรเลี่ยงการเปิดไฟฉุกเฉิน เพราะทัศนวิสัยยากต่อการมองเห็น รถคันข้างหลังอาจจะไม่เห็นหรือเข้าใจว่าเป็นไฟรถปกติ ให้หาทางจอดรถเข้าข้างทางจะปลอดภัยกว่า
ไฟฉุกเฉินเป็นตัวช่วยเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนน ช่วยในการส่งสัญญาณเมื่อรถมีปัญหาให้รถที่ขับตามมาได้ระวังมากขึ้น นอกจากเรื่องของไฟฉุกเฉินที่ช่วยเรื่องความปลอดภัยแล้ว อย่ามองข้ามเรื่องของยางรถยนต์ที่ต้องใช้ในการขับเคลื่อนรถไปจอดในมุมปลอดภัยเมื่อรถเกิดปัญหา ควรเลือกยางคุณภาพดี เช่น ยางรถยนต์ Pirelli แบรนด์ยางรถยนต์ระดับโลก มีเทคโนโลยี Run Flat ที่ช่วยให้รถขับต่อไปได้แม้ลมยางจะหมด เทคโนโลยี Seal Inside ที่ช่วยปะยางที่แผลตื้นโดยไม่ต้องเข้าร้านปะยางใกล้ฉัน หรือเทคโนโลยี PNCS ที่ให้ความนุ่มเงียบพิเศษ เลือกยาง Pirelli รุ่นที่ใช่ได้ที่ร้านยาชั้นนำทั่วประเทศ นอกจากนั้นหากเลือกซื้อยาง Pirelli by ATV ยังมีสิทธิ์รับการประกันยางรถยนต์ 1 ปี หรือ 25,000 กิโลเมตร กรณีบาด บวม แตก สอบถามเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ หรือเฟซบุ๊ก m.me/PirellibyAsiatires