รถบ้านเคลื่อนที่ วิถีแห่งการเดินทางซึ่งต่างจากที่เคย
รถบ้านสำหรับคนทั่วไปอาจนับเป็นเรื่องแปลกตา เพราะเป็นรถที่มีขนาดใหญ่และด้านในมีข้าวของเครื่องใช้ค่อนข้างครบครัน เหมาะสมต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เปรียบเสมือนกับบ้านหลังหนึ่งที่สามารถเคลื่อนที่ไปยังสถานที่ต่าง ๆ ได้ ปัจจุบันมีการพัฒนารถบ้านมากขึ้น ทำให้มีผู้คนเริ่มให้ความสนใจรถบ้านในรูปแบบต่าง ๆ โดยเฉพาะผู้ที่มีเป้าหมายใช้ในการท่องเที่ยวธรรมชาติ เนื่องจากสามารถนอนพักผ่อนภายในรถได้เลย ไม่จำเป็นต้องลำบากกางเต็นท์เหมือนอย่างเคย
รถบ้านคืออะไร สืบสานประวัติที่มาอันน่าสนใจ
รถบ้าน (Recreation Vehicle หรือ Motorhome) เป็นชื่อที่ได้รับความนิยามว่า เป็นรถที่สามารถใช้อยู่อาศัยได้ชั่วคราว สามารถขับไปเที่ยวได้โดยไม่จำเป็นต้องหาที่พักแรมหรือกางเต็นท์ โดยส่วนมากเลือกใช้รถตู้ รถบัส หรือรถกระบะในการดัดแปลง มีจุดประสงค์ตั้งแต่ใช้ในการท่องเที่ยวพักผ่อนระยะสั้น ไปจนถึงการอยู่อาศัยระยะยาวหรือถาวร นอกจากนี้ยังถูกนำมาใช้รองรับทั้งเรื่องการเป็นสำนักงานเคลื่อนที่ หรือ โรงแรมขนาดเล็กที่สำหรับผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยว เป็นต้น
ต้นกำเนิดของรถบ้านต้องย้อนกลับไปในปี 1910 เมื่อบริษัทยานยนต์ Pierce-Arrow ได้เปิดตัวรถรุ่น Touring Landau ในงานแสดงรถยนต์ที่ Madison Square Garden โดยเป็นรถที่เหมาะสำหรับการตั้งแคมป์โดยเฉพาะ เนื่องจากภายในมีที่เก็บสัมภาระและห้องน้ำในตัว ต่อมาในช่วงปี 1920s ผู้ผลิตแต่ละรายเริ่มมีการดัดแปลงรถบรรทุกและรถบัสเพื่อมาใช้สำหรับการแคมป์ปิ้ง กระทั่งหยุดไปในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 จนกลับมาผลิตอีกครั้งกันในปี 1950s
Raymond Frank ได้ตั้งชื่อรถลักษณะนี้ว่า รถบ้าน (Motorhome) โดยเขาได้ออกแบบและสร้างรถบ้านให้ครอบครัวได้เที่ยวพักผ่อนที่ฟลอริดาและตะวันตกตอนกลาง มีความยาว 27 ฟุต (8.2 เมตร) ซึ่งต่อมามีนักตั้งแคมป์คนอื่น ๆ ขอให้เขาช่วยสร้างให้เช่นกัน กระทั่งปี 1960 ได้ขายรถบ้านไป 7 คัน ก่อนจะเปิดบริษัท Frank Motor Homes, Inc ในปีถัดมา ด้วยโครงสร้างไฟเบอร์กลาสและสีสันร่วมสมัย ทำให้รถของเขากลายมาเป็นที่นิยมนั่นเอง
รถบ้านมีหลายประเภท ชอบแบบไหนจัดแบบนั้น
แม้ขึ้นชื่อว่ารถบ้าน แต่สามารถแบ่งแยกย่อยได้หลายรูปแบบ โดยในแต่ละอย่างมีความแตกต่างกันไปทั้งเรื่องความหรูหราและราคา รวมไปถึงรถที่นำมาดัดแปลง ดังนี้
Class A (Integrated)
สำหรับ Class A มีความหรูหราและเป็นรถบ้านราคาแพงที่สุด มีตัวถังแข็งแรง พร้อมพื้นที่ขับขี่ที่รวมกับส่วนอยู่อาศัย มีหน้าต่างด้านหน้าขนาดใหญ่ให้การมองเห็นที่ดี ตัวรถด้านข้างสามารถยื่นออกไปได้มากกว่าความกว้างถนน เริ่มปรากฏขึ้นในปี 1989
Class B (Semi-Integrated)
รถบ้าน Class B หรือเรียกอีกอย่างว่า รถบ้านทรงเตี้ย ถูกสร้างคล้ายกับรูปแบบของ Class C ไม่ได้เน้นความหรูหราเหมือนกับประเภทแรก โดยปกติมักจะมีเตียงคู่อยู่ด้านหลังของรถ
Class C (Alcove)
รถบ้านที่สร้างขึ้นจากโครงรถบรรทุก เชื่อมโดยตรงเข้ากับโซนที่อยู่อาศัย ในสหราชอาณาจักรบางครั้งเรียกกันว่า รถบ้านเล็ก คล้ายกับรถบ้าน Class B รถบ้านประเภทนี้จะมีเพดานเหนือผู้ขับต่ำ หรือยกสูงขึ้นไปเป็นที่เก็บของและใช้เป็นที่นอน เรียกว่า โหนกรถ
Truck Camper
เป็นรถบ้านที่แยกเป็นอิสระจากตัวรถ โดยจะใช้การยกซ้อนขึ้นบนท้ายรถกระบะเมื่อต้องการเคลื่อนย้าย ปัจจุบันในไทยมีผู้รับดัดแปลงขายรถบ้านประเภทนี้ สามารถขยายพื้นที่ออกด้านข้างได้ มีห้องน้ำในตัว ราคามาตรฐานอยู่ที่เกือบ ๆ 600,000 บาท
Popup Camper
รถพ่วงแบบเบาที่สามารถกางออกมาเป็นที่นอนและเต็นท์ เมื่อขับขี่ลงถนนสามารถพับลงได้
Travel Trailer
รถบ้านประเภทที่แยกเป็นอิสระจากตัวรถ เคลื่อนย้ายด้วยการใช้รถยนต์ลากจูง ถูกเรียกอีกอย่างในต่างแดนว่า รถคาราวาน
Teardrop Trailer
รถบ้านที่มีลักษณะเป็นรถพ่วงขนาดเล็กคล้ายหยดน้ำตา บางครั้งถูกออกแบบมาเล็กจนสามารถเคลื่อนย้ายได้ด้วยรถจักรยานยนต์
Hybrid Trailer
เป็นรถบ้านที่มีลักษณะการผสมผสานระหว่างรถบ้านแบบพ่วงและแบบพับ
Fifth-wheel Trailer
รถบ้านแยกที่แยกอิสระจากตัวรถ การเคลื่อนย้ายจะทำโดยการลากจูงจากรถกระบะหรือรถบรรทุก ซึ่งจะใช้อุปกรณ์ Fifth Wheel Coupling โดยตัวรถบ้านจะยื่นออกมาเหนือบริเวณคนขับ สามารถยาวได้ถึง 12 เมตรและหนักถึง 8,200 กิโลกรัม
Park Model
รถบ้านที่มีพ่วงขนาดใหญ่ มักจะยาวได้มาก 35 ถึง 45 ฟุต ซึ่งรถบ้านประเภทนี้จะต้องจอดตามจุดแคมป์ปิ้งเท่านั้น แม้ว่ารถบ้านประเภทนี้จะถูกออกแบบมาเพื่อจอดอยู่กับที่ แต่ไม่ถือว่าเป็นบ้านเคลื่อนที่ เพราะจะถูกเคลื่อนย้ายบ้างในบางครั้ง
วิธีเลือกยางให้เหมาะสมกับรถบ้าน
ด้วยเสน่ห์ของรถบ้าน ทำให้มีผู้ให้ความสนใจครอบครองมากมาย แต่ควรเรียนรู้เรื่องความสำคัญของยางที่มีผลต่อรถด้วย เนื่องจากการดัดแปลงเป็นรถบ้านย่อมมากับการแบกภาระน้ำหนักที่สูง จึงควรสังเกตที่แก้มยางรถยนต์เพื่อดูสัญลักษณ์ว่ารับน้ำหนักได้มากแค่ไหน สามารถเปรียบเทียบกับตารางเพื่อหาการรองรับน้ำหนักโดยรวมได้ อาทิ เลขดัชนีการบรรทุก 90 สามารถรับน้ำหนักได้ 600 กิโลกรัม เมื่อรวม 4 ล้อจะอยู่ที่ 2,400 กิโลกรัม เป็นต้น
นอกจากนี้คุณภาพเรื่องการลุยสภาพพื้นผิวในพื้นที่ต่าง ๆ เพราะการออกแคมป์ปิ้งจำเป็นต้องลุยจุดที่ออกห่างจากถนนใหญ่เช่นกัน ทั้งยังควรเลือกยางแบรนด์ชั้นนำที่ได้รับความไว้วางใจสูงอย่าง Pirelli เนื่องจากประสบการณ์ด้านยางยนต์มากกว่า 151 ปี หากสนใจยางชั้นดีที่มีตัวเลือกรองรับมากมาย สามารถเลือกกันได้ที่ Pirelli by ATV เพราะนอกจากตัวเลือกที่ครบครัน ยังสามารถปรึกษาหรือพูดคุยสอบถามเพื่อรับทราบคำตอบของยางแต่ละรุ่นอย่างชัดเจน ทั้งยังมีประกันยาง “บาด-บวม-แตก” ที่สามารถเคลมฟรี 1 ปี หรือระยะทาง 25,000 กิโลเมตร โดยอยู่ภายใต้เงื่อนไขของบริษัท สามารถติดตั้งได้ที่ B-Quik ทุกสาขา สนใจติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่อินบอกซ์เฟซบุ๊ก m.me/PirellibyAsiatires