รับรถป้ายแดงต้องเตรียมอะไรบ้าง ที่นี่มีคำตอบ
ทุกวันนี้รถยนต์กลายเป็นยานพาหนะที่ผู้คนเลือกใช้งานเพื่อเดินทางในชีวิตประจำวันมากขึ้น ประกอบรถยนต์มีให้เลือกมากมายหลายรุ่น หลายสไตล์ รวมถึงราคาที่มีหลายระดับ แต่การซื้อรถมาใช้งานสักคันไม่ใช่ว่าแค่ไปที่ศูนย์บริการจ่ายเงินแล้วจบ ยังมีขั้นตอนที่คนออกรถใหม่ควร วันนี้จะพาไปดูกันว่าก่อนเซ็นรับรถใหม่ เตรียมอะไรบ้าง เพื่อให้การออกรถป้ายแดงเป็นไปอย่างราบรื่น
รถป้ายแดง คืออะไร มีข้อห้ามในการใช้รถหรือไม่
รถป้ายแดง เป็นชื่อเรียกรถออกใหม่ที่ได้รับทะเบียนป้ายแดง หรือป้ายทะเบียนชั่วคราวที่ทางกรมการขนส่งออกให้กับบริษัทตัวแทนจำหน่ายรถสำหรับใช้ติดรถเพื่อนำส่งให้ลูกค้าหรือนำรถไปซ่อมแซม โดยมีกฎเกี่ยวกับการใช้งานรถป้ายแดง ดังนี้
- ทะเบียนป้ายแดง จะใช้ได้ไม่เกิน 30 วันนับจากวันรับรถ และต้องใช้ควบคู่กับสมุดคู่มือประจำรถ โดยระหว่างนั้นเจ้าของรถต้องดำเนินการจดทะเบียนรถให้เรียบร้อย หากฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท
- รถป้ายแดงใช้ขับได้ตั้งแต่เวลา 06.00 – 18.00 น. หรืออนุโลมให้ได้ถึง 20.00 น. หากฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท และถ้ามีการตรวจสอบสามารถยื่นสมุดบันทึกข้อมูลการใช้รถยนต์ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพิจารณาตามเหตุผลการใช้รถได้
- รถป้ายแดงห้ามขับรถข้ามจังหวัด โดยจะขับได้เฉพาะจังหวัดที่ระบุเอาไว้บนป้ายทะเบียนเท่านั้น หากฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท
ออกรถป้ายแดง ต้องเตรียมอะไรบ้าง มีขั้นตอนอย่างไร
(1) เตรียมเงินให้พร้อม
วันรับรถใหม่ เป็นอีกหนึ่งวันที่ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย ฉะนั้นเจ้าของรถต้องเตรียมเงินให้พร้อมสำหรับรายจ่ายต่าง ๆ เช่น
- เงินดาวน์และเงินค่าผ่อนงวดแรก ควรเตรียมเงินเอาไว้ให้ครบถ้วนทั้งค่าผ่อนงวดแรกและค่าเงินดาวน์ตามที่ตกลงเอาไว้ หรือบางคนอาจมีค่าอุปกรณ์เสริมเพิ่มเติมอีก
- ค่ามัดจำทะเบียนป้ายแดง ตามที่ทราบกันดีว่าระหว่างรอจดทะเบียนรถ จะได้ทะเบียนป้ายแดงมาใช้งานชั่วคราว ซึ่งเจ้าของรถต้องจ่ายค่ามัดจำประกันความเสียหายกับศูนย์บริการ และมารับคืนเมื่อได้รับป้ายทะเบียนจริง
- ค่าใช้จ่ายในการจดทะเบียนรถ กรณีที่ให้ศูนย์บริการเป็นคนดำเนินการจดทะเบียนรถให้ ก็อย่าลืมเตรียมค่าใช้จ่ายตรงส่วนนี้ไปด้วย
- ค่าเบี้ยประกันภัย ปกติแล้วทางศูนย์บริการที่จัดจำหน่ายรถมักจะแถมประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1 ให้ในปีแรก แต่กรณีที่ไม่แถมประกันมาให้ ก็อย่าลืมตรวจสอบว่าต้องเตรียมเงินไปจ่ายค่าเบี้ยประกันเท่าไหร่
- ค่าน้ำมัน เนื่องจากศูนย์บริการจะเติมไว้ให้แค่เล็กน้อยเท่านั้น เว้นแต่ได้รับคูปองเติมน้ำมันฟรีเป็นของแถม
(2) ตรวจเช็กสภาพรถยนต์
สำหรับใครที่ซื้อรถใหม่ป้ายแดงหรือซื้อรถคันแรก คงคิดว่ารถที่ไม่เคยผ่านการใช้งานมาก่อนคงไม่มีจุดบกพร่อง แต่ความเป็นจริงไม่ว่าจะเป็นรถมือหนึ่งหรือรถมือสอง ก่อนเซ็นรับรถควรตรวจเช็กสภาพรถยนต์ทั้งภายนอกและภายในอย่างละเอียด ว่ามีตำหนิ จุดบกพร่อง หรือมีการชำรุดเกิดขึ้นตรงส่วนไหนของรถหรือไม่ จะได้แจ้งศูนย์รถยนต์ให้แก้ไขต่อไป โดยจุดที่ควรสังเกตในเบื้องต้นก่อนรับรถใหม่ ได้แก่
ภายนอกตัวรถ
- ตรวจสอบสภาพของสีรถยนต์ว่ามีความเงางามสม่ำเสมอ ไม่มีรอยขีดข่วนหรือหลุดล่อนของสี
- ตรวจสอบโคมไฟหน้าต้องใสไม่เหลือง ไฟท้าย ไฟเลี้ยว ไม่มีริ้วรอย
- ตรวจสอบฝากระโปรงว่ามีระยะห่างที่เรียบเสมอกับส่วนอื่น ๆ ของตัวรถ
- ลองเปิด-ปิดประตูรถทุกบานว่า มีอาการฝืดหรือติดขัดหรือไม่ พร้อมกับเช็กขอบยางต่าง ๆ ว่าอยู่ในสภาพที่ใหม่ ไม่ชำรุด
- ตรวจเช็กอุปกรณ์ช่วยเหลือฉุกเฉินต่าง ๆ เช่น สายพ่วงแบตเตอรี่ เครื่องมือต่าง ๆ ว่าครบตามรายการที่เซลล์แจ้งไว้หรือไม่
- ตรวจเช็กล้อและยางต้องเป็นยางใหม่ ไม่มีรอยแตกลายงา แต่กรณีที่เลือกซื้อรถยนต์รุ่นที่ใช้ยาง OEM เป็นอุปกรณ์พื้นฐานจากโรงงาน ก็อย่าลืมเช็กว่ายางรถยนต์ที่เห็นเป็นยาง OEM จริงหรือไม่
ภายในตัวรถ
- ตรวจเช็กระบบไฟส่องสว่างในรถยนต์ เช่น ไฟหน้า ไฟหรี่ ไฟสูง ไฟเดย์ไลท์ ไฟเลี้ยว ไฟเบรก ไฟถอย ไฟฉุกเฉิน รวมถึงไฟในห้องโดยสาร ว่าติดครบทุกจุดหรือไม่
- ตรวจสอบเบาะที่นั่งต้องไม่มีรอยเปรอะเปื้อนหรือมีร่องรอยการฉีกขาด ถูกหุ้มด้วยพลาสติกอย่างดีสำหรับรถใหม่ กรณีเบาะไฟฟ้าแนะนำให้ทดลองการปรับระดับด้วย
- พื้นห้องโดยสาร เมื่อออกรถใหม่มักจะมีการปูพื้นยางเป็นพื้นของห้องโดยสารให้ ฉะนั้นอย่าลืมตรวจเช็กยางปูพื้นและพรมปูพื้นว่ามีมาให้ครบหรือไม่
- สตาร์ตเครื่องยนต์เพื่อลองฟังเสียงของเครื่องยนต์ว่าปกติหรือไม่ ทดสอบเปิดเครื่องปรับอากาศ ลองปรับให้ครบทุกโหมด ทดสอบการทำงานของหน้าจอเครื่องเสียงและลำโพง
- เครื่องเสียง ระบบเครื่องเสียงต่าง ๆ ในรถใหม่มักเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้ ฉะนั้นควรตรวจสอบตั้งแต่แรกว่าสามารถเชื่อมต่อได้จริงไหม ลำโพงดังครบทุกตัวหรือเปล่า
- ลองล็อกและปลดล็อกประตู เพื่อดูว่าสามารถล็อกได้ทุกบานเป็นปกติหรือไม่
- เช็กระบบเบรกมือว่ามีไฟขึ้นที่หน้าปัดหรือไม่เวลาดึงขึ้น
- ลองพับกระจกมองข้าง และเปิดที่ปัดน้ำฝนดูว่าใช้งานได้หรือไม่ รวมถึงระบบฉีดน้ำว่าออกมาปกติและสม่ำเสมอหรือเปล่า
ตรวจสอบห้องเครื่อง
โดยภายในห้องเครื่องของรถใหม่ ควรอยู่ในสภาพที่ใหม่จริง ๆ ไม่มีน้ำมันซึมหรือรั่ว แบตเตอรี่ก็ต้องเป็นของใหม่ และสายไฟต้องอยู่ในสภาพเรียบร้อย
ตรวจของแถมหรืออุปกรณ์แต่งเสริม
ต้องตรวจสอบให้ดีว่าของแถมที่เคยสัญญากันไว้มีครบถ้วนไหม อยู่ในสภาพเรียบร้อยหรือเปล่า เช่น ฟิล์มรถยนต์ที่ติดรอบคันว่าติดตั้งเรียบร้อยดีไหม กรณีที่ซื้อชุดแต่งเพิ่มก็ต้องดูว่าสีของชุดแต่งตรงกับสีรถเราไหม มีร่องรอยความไม่เรียบร้อยตรงไหนหรือไม่
(3) ตรวจสอบเอกสารสำคัญต่าง ๆ ของรถ
- เล่มสมุดทะเบียนรถ เปรียบเสมือนสมุดแสดงตัวตนของรถ เนื่องจากภายในมีระบุเลขตัวถังของรถ ประวัติการเสียภาษี ประวัติการครอบครองรถ ฯลฯ ฉะนั้นควรตรวจเช็กอย่างละเอียดว่าข้อมูลตรงกันจริง
- ใบเสร็จต่าง ๆ เช่น ใบเสร็จค่าเงินดาวน์ และใบเสร็จค่ามัดจำป้ายแดง เพื่อเก็บไว้นำมารับเงินมัดจำคืนเมื่อได้ป้ายขาวในภายหลัง
- ตรวจเช็กสมุดคู่มือสำหรับรถป้ายแดง
- เอกสารการเช่าซื้อรถยนต์จากทางไฟแนนซ์
- เอกสารการโอนรถยนต์ พ.ร.บ.รถยนต์ เอกสารประกันภัยรถยนต์
- เอกสารรับประกันกับทางศูนย์รถยนต์ เช่น เอกสารเช็กระยะ เอกสารรับประกันอุปกรณ์ตกแต่งเพิ่มเติม
ออกรถใหม่ใช้อะไรบ้าง
เมื่อทราบกันแล้วว่า ออกรถใหม่ ควรทำอะไร หรือเตรียมอะไรบ้าง คราวนี้มาดูกันว่านอกจากสิ่งที่ต้องเตรียมหรือสิ่งที่ต้องเช็กในวันรับรถใหม่แล้ว ยังมีสิ่งของหรือเอกสารต่าง ๆ ที่ต้องเตรียมให้พร้อมก่อนเดินทางไปยังศูนย์บริการที่จองรถป้ายแดงไว้อีก คำตอบคือ เอกสารสำคัญต่างๆ ของเจ้าของรถ เช่น สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ใบอนุญาตขับขี่ (ตัวจริง) และสำเนาใบเสร็จที่วางมัดจำการซื้อรถป้ายแดง เป็นต้น
นอกจากนี้หากคุณเป็นสายมูที่เชื่อว่า ออกรถใหม่ในวันและเวลาที่เป็นมงคลช่วยเสริมความสิริมงคลให้กับรถยนต์และผู้ขับขี่ ทำให้เดินทางปลอดภัย มีแต่เรื่องดี ๆ เข้ามาในชีวิต ต้องการไหว้แม่ย่านางรถก่อนขับรถออกจากศูนย์บริการ หรือเจิมรถเพื่อความเป็นสิริมงคลให้รถยนต์ อย่าลืมตระเตรียมสิ่งของที่ต้องใช้ประกอบพิธีกรรมดังกล่าวไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นพวงมาลัย หรือแผ่นทองคำเปลวที่ใช้ในการเจิมรถ เป็นต้น
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ เป็นการตรวจเช็กสภาพรถก่อนรับรถใหม่ที่เจ้าของรถสามารถทำได้ด้วยตนเอง แต่ถ้าอยากเพิ่มความอุ่นใจแนะนำให้ชวนเพื่อนหรือคนรู้จักที่มีความชำนาญในการตรวจเช็กไปในวันรับรถด้วย อย่างไรก็ดีการขับขี่กันอย่างปลอดภัย ไม่ประมาท ไม่ขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด ช่วยลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้มากทีเดียว ส่วนเจ้าของรถคนไหนที่ใช้งานรถใหม่มาสักระยะแล้วอยากเปลี่ยนยางเส้นใหม่ ที่มีคุณสมบัติตอบโจทย์การใช้งานมากกว่า ขอแนะนำยางรถยนต์ Pirelli ผู้ผลิตยางรถยนต์สัญชาติอิตาลีที่ได้รับการยอมรับจากผู้คนทั่วโลก อีกทั้งยางพิเรลลี่มีตัวเลือกยางรถยนต์ให้เลือกมากมาย ไม่ว่ายางประหยัดน้ำมัน ยางออฟโรด ยางรถสปอร์ต หรือยางนุ่มเงียบ ที่สำคัญเลือกซื้อยาง Pirelli by ATV ผู้นำเข้ายาง Pirelli ยังรับประกันเปลี่ยนฟรี 1 ปี หรือ 25,000 กิโลเมตร เมื่อเปลี่ยนยางใหม่ 4 เส้น (ต่อรถ 1 คัน ใน 1 ใบเสร็จ) อีกด้วย หากอยากเสริมประสิทธิภาพการขับขี่ที่ดีกว่าเดิม พร้อมรับความคุ้มค่าจากการรับประกันยาง สามารถสั่งซื้อยางรถยนต์ Pirelli ทั้งทางออนไลน์และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ