น้ำมันหมด ดูยังไง มีสัญญาณเตือนไหม
เชื่อว่าหนึ่งในเหตุการณ์ที่คนใช้รถไม่อยากเจอก็คือขับรถอยู่ดี ๆ แล้วน้ำมันหมดกลางทาง ความผิดนี้สามารถเกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุทั้งลืมดูเกจ์วัดน้ำมัน หรือคิดว่าน้ำมันรถที่มีอยู่ในถังเชื้อเพลิงพอให้วิ่งไปถึงปั๊มน้ำมัน มารู้ตัวอีกทีน้ำมันหมดก่อนไปถึงที่หมาย แต่อย่าเพิ่งตกใจไปทุกปัญหามีทางออกเสมอ วันนี้พิเรลลี่มีทางออกที่ช่วยให้คุณรับมือปัญหาน้ำมันหมดได้อย่างมืออาชีพมาแนะนำ รวมถึงบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน น้ำมันหมดที่ควรรู้
ไขข้อสงสัย เติมน้ำมันแบบเต็มถัง หรือแบบครึ่งถังดี
หลายคนอาจไม่รู้ว่าการปล่อยให้น้ำมันรถใกล้หมดหรือรอให้ไฟแจ้งเตือนน้ำมันโชว์ถึงค่อยเติม เป็นการกระทำที่ผิดและส่งผลเสียต่อรถยนต์คันโปรดมากทีเดียว เพราะอาจทำให้ปั๊มติ๊กหรือตัววัดระดับน้ำมันเกิดความเสียหายจากการที่น้ำมันมาช่วยหล่อลื่นหรือระบายความร้อนไม่เพียงพอ ฉะนั้นถ้าพบว่ามีน้ำมันเหลือติดถังมากกว่า 1 ใน 4 ส่วน ควรรีบเติมน้ำมันทันที
แต่ถ้าถามว่าเวลาเติมน้ำมัน ควรเติมเต็มถังไปเลยหรือแค่ครึ่งถังก็พอ คำตอบคือ ให้เติม 3 ใน 4 ส่วนของถัง ไม่ควรเติมน้ำมันจนเต็มถัง เนื่องจากไอระเหยของน้ำมันและแรงดันในถัง อาจทำให้น้ำมันไหลซึมออกมาจากตัวถังได้ เมื่อทราบแบบนี้แล้วผู้ขับขี่ไม่ควรละเลย และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดเพื่อถนอมตัววัดระดับน้ำมันและเครื่องยนต์ให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น
ไฟเตือนรถน้ำมันหมดขึ้น ยังวิ่งได้อีกกี่กิโลเมตร
ตามปกติไฟเตือนน้ำมันใกล้หมดจะแสดงเมื่อน้ำมันในถังเหลือน้อยกว่า 10 ลิตร หรือหน้าจอแสดงระยะที่วิ่งได้เป็น 0 ก็ยังสามารถวิ่งได้ต่อไปอีกสักระยะเพื่อให้ผู้ขับขี่หาปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใกล้ที่สุดได้ แต่ถึงอย่างนั้นระยะทางการขับขี่ของรถยนต์แต่ละคันไม่เท่ากัน หากเป็นรถยนต์รุ่นใหม่จะมีการคำนวณปริมาณน้ำมันในถังว่าสามารถขับต่อไปได้อีกกี่กิโลเมตร
ตัวอย่าง
เข็มแสดงปริมาณน้ำมันจะแจ้งว่าน้ำมันรถของเราอาจจะเกลี้ยงถัง โดยอยู่ในตำแหน่ง Empty แล้ว แต่ในความเป็นจริงรถยังคงมีน้ำมันเหลืออยู่ประมาณ 4-6 ลิตร (ขึ้นอยู่กับรถแต่ละรุ่น) ปรากฎว่ารถของคุณมีอัตรากินน้ำมันอยู่ที่ 15 กิโลเมตรต่อลิตร ถ้าลองคำนวณคร่าว ๆ โดยการนำอัตรากินน้ำมันมาคูณกับปริมาณน้ำมันที่เหลือ รถสามารถวิ่งต่อได้อีกประมาณ 15 x 6 = 90 กิโลเมตร แต่กรณีขับรถในเมืองที่ต้องเผชิญกับรถติดหรือมีแยกไฟแดงถี่ ๆ ตัวเลขระยะทางที่วิ่งได้จะลดต่ำลงตามไปด้วย ดังนั้นถ้าไฟเตือนสีเหลืองกะพริบขึ้นโชว์ผู้ขับขี่สามารถลองคำนวณระยะทางคร่าว ๆ ได้ด้วยตนเองตามวิธีนี้
เมื่อไฟเตือนน้ำมันหมดขึ้นโชว์ ควรทำอย่างไร
เมื่อไฟหน้ารถยนต์ขึ้นเตือนรถน้ำมันหมด สิ่งแรกที่ผู้ขับขี่ต้องทำคือพยายามทำให้รถใช้พลังงานน้ำมันน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะการเซฟน้ำมันทำให้ได้ระยะทางการขับขี่ไกลมากขึ้น สำหรับวิธีลดอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่ควรปฏิบัติตามมีดังนี้
(1) ไม่ควรเหยียบเบรกหรือลดความเร็วโดยไม่จำเป็น เพราะทุกครั้งที่ต้องเหยียบคันเร่งเพื่อให้รถยนต์กลับมาอยู่ในความเร็วปกติจะทำให้ยิ่งสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้น
(2) การขับรถยนต์ด้วยความเร็วสม่ำเสมอประมาณ 60-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และไม่เร่งเครื่องยนต์โดยไม่จำเป็น
(3) แนะนำให้ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าในรถยนต์ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นระบบแอร์รถยนต์ วิทยุ ระบบนำทาง รวมถึงถอดที่ชาร์จแบตมือถือภายในรถยนต์ด้วย เนื่องจากอุปกรณ์เหล่านี้มีผลต่อการเผาผลาญน้ำมันได้เร็วขึ้นนั่นเอง
(4) หลังจากปิดแอร์เพื่อประหยัดน้ำมัน สิ่งที่ควรทำลำดับถัดไปก็คือการเปิดแง้มหน้าต่างเพียงเล็กน้อยเพื่อให้อากาศเข้ามา แทนการกดเปิดหน้าต่างรถแบบกว้าง ๆ จะยิ่งทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงมากกว่าเดิม เพราะเกิดแรงต้านจากลมที่เข้ามาภายในรถยนต์ ทำให้ต้องใช้แรงขับเคลื่อนเครื่องยนต์มากขึ้น
(5) การเข้าเกียร์ว่างขณะที่รถยนต์จอดติดไฟแดงช่วยลดการเผาผลาญน้ำมันเชื้อเพลิงได้ถึง 30-40% ฉะนั้นเวลาจอดรถรอสัญญาณไฟเขียวแนะนำให้เปลี่ยนจากการเข้าเกียร์และเหยียบเบรกทิ้งไว้ มาเป็นการใช้เกียร์ว่างแทน
(6) การกดเข้า Google หรือ Google Map เพื่อค้นหาปั๊มน้ำมันใกล้ฉันถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด แต่ถ้าน้ำมันเกลี้ยงถังอาจเปลี่ยนจากค้นหาปั๊มน้ำมัน มาเป็นบริการเติมน้ำมันฉุกเฉิน ใกล้ฉันแทน ระหว่างรอการช่วยเหลือแนะนำให้พยายามนำรถเข้าข้างทาง และให้สัญญาณเตือนเพื่อนร่วมทางที่ขับตามหลังมาจะได้ทราบว่า รถของคุณเกิดเหตุฉุกเฉินและควรหลีกเลี่ยง
(7) หากผู้ขับขี่มีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน ไม่ว่าจากบริษัทประกันภัยหรือบริการจากผู้ผลิตรถยนต์ของคุณ ถ้าน้ำมันหมดกลางทางควรรีบโทรขอความช่วยเหลือเบื้องต้นทันที แต่ถ้าไม่มีบริการดังกล่าวให้ติดต่อเพื่อนหรือสมาชิกในครอบครัวเพื่อนำน้ำมันเชื้อเพลิงมาให้คุณแทน
รถน้ำมันหมดกลางทาง โทรเบอร์ไหนดี
เบอร์โทรฉุกเฉิน เป็นสิ่งที่ผู้ขับขี่ทุกคนควรมีติดโทรศัพท์ไว้ เพราะเหตุไม่คาดฝันสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ส่วนจะมีเบอร์ไหนบ้างที่ผู้ขับขี่สามารถโทรขอความช่วยเหลือเมื่อรถน้ำมันหมดกลางทาง มาดูกัน
- 1137 วิทยุ จส.100
- 1146 กรมทางหลวงชนบท
- 1197 ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจรตำรวจ
- 1644 สวพ. FM91
- 1193 ตำรวจทางหลวง
- 1584 กรมการขนส่งทางบก
- 1586 สายด่วนกรมทางหลวง
- 1543 การทางพิเศษแห่งประเทศไทย
เมื่อทราบวิธีแก้ไขเบื้องต้นถ้าน้ำมันหมดกลางทางกันแล้ว แต่ทางที่ดีที่สุดก่อนขับรถออกจากบ้านผู้ขับขี่ควรเช็กและเตรียมความพร้อมของรถยนต์ก่อนออกเดินทางทุกครั้ง โดยเฉพาะผู้ที่มีแผนขับรถทางไกลนอกจากเช็กระดับน้ำมันในถัง ยางรถยนต์เป็นอีกจุดที่ไม่ควรละเลย เพราะเป็นชิ้นส่วนที่สัมผัสกับพื้นถนนโดยตรง ถ้าฝืนใช้งานยางรถยนต์ที่เริ่มเสื่อมสภาพหรือปล่อยให้ผ้าเบรกหมดก็มีโอกาสที่จะทำให้รถเบรกไม่อยู่หรือรถเกิดเบรกแตกได้ ฉะนั้นควรนำรถเข้ารับการตรวจสภาพอย่างสม่ำเสมอ และถ้าดอกยางบางหรือสึกลงแนะนำให้เปลี่ยนยางเส้นใหม่ทันที เพื่อความปลอดภัยทั้งของคุณและเพื่อนร่วมทาง
สำหรับผู้ขับขี่ที่กำลังมองหายางรถยนต์คุณภาพดีและนวัตกรรมยอดเยี่ยม อย่าง Run Flat เทคโนโลยีที่ช่วยให้รถสามารถขับต่อไปได้ แม้เจอกับสภาวะฉุกเฉินอย่างลมยางรั่วจากการเหยียบตะปูจนความดันลมยางเป็นศูนย์ หรือ Seal Inside เทคโนโลยีที่มีในยางบางรุ่นของแบรนด์ Pirelli ที่ช่วยให้สามารถควบคุมรถได้อย่างสมบูรณ์แม้ยางถูกเจาะ หากสนใจสามารถติดต่อ Pirelli Thailand ผ่านทาง Pirelli by ATV ตัวแทนจำหน่ายยางพิเรลลี่ ที่สำคัญเมื่อซื้อยาง Pirelli ครบ 4 เส้น / 1 ใบเสร็จ ไม่ว่าจะเป็นยางรุ่นใดหรือขนาดใด เมื่อลงทะเบียนภายใน 14 วัน รับโปรโมชั่นประกันยางรถยนต์ 1 ปี หรือ 25,000 กิโลเมตร หากยางบาด บวม แตกจากการใช้งาน สนใจติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่อินบอกซ์เฟซบุ๊ก m.me/PirellibyAsiatires