ตลาดรถมือสอง อีกทางเลือกของคนอยากมีรถ
การมีรถยนต์ใหม่สักคันไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องใช้เงินจำนวนมากเป็นการแลกเปลี่ยน ดังนั้นรถมือสองจึงกลายมาเป็นอีกทางเลือกสำหรับคนต้องการมีรถยนต์ส่วนตัว เนื่องจากสามารถซื้อได้ในราคาที่ถูกกว่ามือหนึ่งอยู่พอสมควร ทั้งยังมีตลาดรถมือสองเปิดกว้างในปัจจุบัน เพราะสามารถหาข้อมูลรถได้ทั้งจากแพลตฟอร์มบนช่องทางอินเทอร์เน็ตหรือเต็นท์รถทั่วไป กระนั้นการซื้อรถมือสองยังมีความเสี่ยงอยู่พอสมควร ผู้ซื้อมือใหม่ควรเรียนรู้เพื่อพิจารณาอย่างละเอียดก่อนมีการซื้อขายเกิดขึ้น
รถเก๋งมือสอง นิยามเบื้องต้นได้กี่ประเภท
สำหรับรถยนต์มือสองสามารถนิยามได้ง่าย ๆ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท โดยแบ่งออกตามลักษณะการขาย มีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้
- รถบ้าน
รถบ้านเป็นลักษณะการขายรถจากผู้ใช้งานด้วยตัวเอง โดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง มักขายให้กับคนรู้จักหรือขายผ่านช่องทางอินเทอร์เน็ตเพื่อเป็นการโฆษณา ข้อดีสามารถติดต่อกับเจ้าของได้โดยตรง สามารถทราบรายละเอียดประวัติการขับได้ชัดเจน แต่ข้อเสียมีตัวเลือกน้อย สถานที่นัดพบอาจเดินทางได้ค่อนข้างลำบาก
- รถเต็นท์
รถเต็นท์ คือ รถมือสองที่ถูกขายผ่านพ่อค้าคนกลาง สามารถเข้าใจได้ง่าย ๆ ว่าเป็นธุรกิจการซื้อขายรถมือสอง โดยมักจะพบเห็นรถถูกจอดไว้เรียงรายอยู่ในเต็นท์ตามริมถนนจนเป็นที่มาของชื่อดังกล่าว แน่นอนว่าข้อดีคือมีตัวเลือกมากมาย ค่อนข้างมีความเชี่ยวชาญเรื่องรถยนต์ ส่วนข้อเสียอาจให้ประวัติของรถยนต์ได้ไม่มากพอ หรือมีความเสี่ยงต่อการปกปิดจุดด้อยของรถ
รถมือสองมีเอกสารและขั้นตอนการซื้ออย่างไร
การซื้อรถมือสองไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก แต่การวางแผนและเตรียมเอกสารให้พร้อมคือสิ่งที่จำเป็น เพื่อให้การดีลไม่มีติดขัด โดยเอกสารที่จำเป็น มีรายละเอียดดังนี้
ซื้อแบบเงินสด
- สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน
- เอกสารสัญญาการซื้อ-ขายรถ
- แบบคำขอโอนและรับโอน
- ใบมอบอำนาจ กรณีเจ้าของรถตัวจริงไม่สามารถดำเนินการได้
ซื้อแบบเงินผ่อน
- สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน
- สลิปเงินเดือน หนังสือรับรองเงินเดือน สำหรับการขอวงเงินจากไฟแนนซ์หรือสถาบันทางการเงิน
- สเตทเม้นท์ย้อนหลัง 6 เดือน
- เอกสารอื่น ๆ แล้วแต่สถาบันทางการเงิน
ขั้นตอนการซื้อรถมือสอง
- ตั้งงบประมาณ
- ค้นหารถที่ถูกใจผ่านอินเทอร์เน็ตหรือช่องทางโฆษณาอื่น ๆ พร้อมทั้งเช็กราคากลางให้เรียบร้อย
- ตรวจสอบประวัติและสภาพรถ
- ต่อรองราคากับทางผู้ขาย
- ทำสัญญาการซื้อ-ขาย
- ทำเรื่องโอน-รับรถ
รถมือสองราคาถูก แต่ต้องเช็กให้หนักก่อนซื้อใช้งาน
แม้รถยนต์มือสองราคาไม่สูงมากนัก สามารถหาซื้อได้ไม่ยาก แต่การเลือกซื้อมาใช้งานสักคันต้องผ่านการเช็กอย่างละเอียด มิฉะนั้นอาจต้องนั่งเสียอารมณ์จากการส่งซ่อมบ่อยครั้งได้ หากสงสัยว่ารถมือสองสภาพดีจริงไหม สามารถตรวจสอบได้เบื้องต้น ดังนี้
- ตรวจสอบเล่มทะเบียน
ตรวจสอบว่ารถยนต์คันดังกล่าวมีเลขทะเบียนตรงกันกับเล่มทะเบียนหรือไม่ ตรวจเช็กรายละเอียดว่าผ่านผู้ใช้งานมาแล้วกี่คน ใครเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์อยู่ในตอนนี้ เป็นรถที่ผลิตมาตั้งแต่ปีใด รวมไปถึงการตรวจสอบเรื่องการต่อภาษีด้วย
- Book Service
Book Service เป็นเล่มที่ทางศูนย์ให้ไว้เพื่อบ่งบอกถึงประวัติการบำรุงรักษาในช่วงเวลาที่ผ่านมา ทำให้สามารถเช็กได้ว่ามีการดูแลรถมาอย่างถูกต้องหรือไม่ มีปัญหาใดเกิดขึ้นบ้าง
- เลขไมล์
ควรตรวจสอบเลขไมล์ว่ามีการใช้งานมาหนักแค่ไหน มีการปิดบังด้วยการกรอเลขไมล์หรือไม่ โดยสามารถดูให้สอดคล้องกับ Book Service เพื่อความแน่ใจได้ โดยเฉลี่ยแล้วรถจะถูกใช้งานอยู่ที่ระยะทาง 20,000 ถึง 30,000 ต่อปีด้วย
- ตรวจสภาพภายนอกรถยนต์
สำหรับการตรวจสภาพรถเบื้องต้นที่ภายนอกรถ ควรสังเกตรอบตัวรถหารอยเฉี่ยวชน เปิดฝากระโปรงหน้าเช็กที่ตะเข็บต่าง ๆ หัวน็อตมีการแกะออกมาหรือไม่ หากมีร่องรอยการซ่อมแซมอาจมีความเป็นไปได้ที่ประสบอุบัติเหตุรถชนด้านหน้ามาก่อน
ขณะเดียวกันฝากระโปรงท้ายใช้วิธีสังเกตคล้ายกัน โดยแนวซิลิโคนควรมีความสวยเรียบเป็นปกติ หัวน็อตไม่มีการทำสีใหม่ใด ๆ ส่วนมุมท้ายที่มีโอกาสถูกชนสูงเจอร่องรอยการซ่อมแซมหรือไม่
- สีรถยนต์
ควรสังเกตดูมีการโป๊วสีหรือไม่ หากรถทำสีมาใหม่อาจจะได้ยินเป็นเสียงทึบ ไม่โปร่งเท่าที่ควร มีร่องรอยความเรียบไม่สม่ำเสมอ โดยอาจมีสาเหตุจากการซ่อมแซมจนทำให้ต้องทำสีใหม่นั่นเอง
- ขอบประตูรถ
หนึ่งในส่วนที่มักได้ยินให้สังเกตเป็นพิเศษคือขอบประตูรถยนต์ โดยการดึงขอบยางออกมาตรวจสอบในส่วนของรอยอาร์ค หากทั้ง 4 ประตูไม่มีรอยดังกล่าว มีความเป็นไปได้อาจผ่านการชนมาเช่นกัน
- สภาพภายในตัวรถ
สามารถสังเกตเบื้องต้นได้จากพวงมาลัยว่ามีร่องรอยการใช้งานหนักหรือไม่ หากสภาพค่อนข้างแย่มีความเป็นไปได้ที่ตัวเลขไมล์ผิดจากที่ควรจะเป็น ที่สำคัญยังต้องเช็กในส่วนของปุ่มการใช้งานต่าง ๆ ว่าสามารถใช้ได้ปกติหรือไม่
- เครื่องยนต์
สังเกตว่าเครื่องยนต์มีความผิดปกติหรือไม่ สังเกตได้จากเสียงที่ต้องไม่ผิดปกติ ฝาเครื่องต้องไม่มีคราบน้ำมันหรือของเหลวต่าง ๆ ไหลรั่วออกมามากเกินไป ไม่ควรมีกลิ่นไหม้โชยมาที่อาจเป็นปัจจัยจากการรั่วซึมของจุดใดจุดหนึ่ง
- ไฟเตือนหน้าปัดรถยนต์
โดยปกติไฟโชว์หน้าปัดรถยนต์จะแสดงออกมาให้ทราบถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นของรถอยู่แล้ว ดังนั้นจึงเป็นอีกส่วนที่สามารถตรวจสอบได้ว่ารถมีความผิดปกติใดหรือไม่ อาทิ ระบบเบรกมีปัญหา ระดับของเหลวในเคื่องต่ำกว่าเกณฑ์ เป็นต้น
- ตรวจเช็กยาง ช่วงล่าง เบรก โช๊ค
ยางสามารถสังเกตได้ทันทีจากสัญลักษณ์บนยางรถยนต์ ซึ่งมีข้อมูลปีที่ผลิต ขนาดยางรถยนต์ รวมไปถึงระดับของดอกยางว่าสึกหรอลึกจนไปถึงสะพานยางหรือไม่ หากลึกถึงระดับดังกล่าวต้องมีการเปลี่ยนยางรถยนต์เพื่อความปลอดภัย คัสซีด้านล่างมีร่องรอยหรือสนิมไหม ขณะที่โช๊คไม่ควรมีการรั่วซึมของน้ำมันด้วย นอกจากนี้ต้องตรวจสอบเบรก โดยจานเบรกไม่ควรผิดรูป ผ้าเบรกหมดหรือไม่
- ทดลองด้วยการขับจริง
การใช้งานสตาร์ทเครื่องยนต์ ทดลองขับ นับเป็นส่วนสำคัญต่อการพิจารณา ทำให้ทราบได้ถึงปัญหาของตัวรถว่ามีเสียงดังผิดปกติหรือไม่ เลี้ยวรถรู้สึกมีอาการผิดแปลกไปไหม เป็นต้น
หากตรวจสอบการซื้อรถมือสองเป็นแล้ว การเป็นเจ้าของรถสักคันย่อมไม่ใช่เรื่องยาก แต่สิ่งที่ยากยิ่งกว่าคือการดูแลรักษารถยนต์ให้ใช้งานได้ดีและปลอดภัยเสมอ อย่างน้อยควรหันมาใช้งานยางที่ได้คุณภาพอย่าง Pirelli by ATV ที่จะทำให้คุณรู้สึกโล่งใจต่อการดูแลรถในระดับหนึ่ง เนื่องจากยางได้มาตรฐานโลกและมีการดูแลหลังการขายที่ยอดเยี่ยมด้วยประกันยางบาด ยางบวม และยางแตกที่สามารถเคลมฟรี 1 ปี หรือระยะทาง 25,000 กิโลเมตรโดยอยู่ภายใต้เงื่อนไขของบริษัท สนใจติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่อินบอกซ์เฟซบุ๊ก m.me/PirellibyAsiatires