อาวดี้ ตำนานรถเยอรมันที่ยังคงอยู่
หากใครที่ชื่นชอบรถยนต์แบรนด์ยุโรป ย่อมรู้จัก Audi แบรนด์รถเมืองเบียร์ที่เพิ่งมีข่าวเปิดตัวรถ SUV ไฟฟ้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อย่าง Audi New Q8 e-Tron ไปไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ด้วยดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ มาพร้อมกับความตื่นเต้นและสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม ทำให้ชื่อ Audi กลับมาเรียกเสียงฮือฮาในตลาดรถยนต์อีกครั้ง บทความนี้ขอพาทุกคนไปทำความรู้จัก Audi คือแบรนด์อะไร มีความเป็นมาอย่างไร ทำไมถึงถูกยกย่องให้เป็นตำนานรถเยอรมัน
จุดเริ่มต้นของ Audi บนเส้นทางยานยนต์
หากพูดถึงค่ายรถยนต์ที่มีชื่อเสียงยาวนานและยี่ห้อรถในฝันหลายคน ต้องมีชื่อ Audi ติดมาแน่นอน แต่ก่อนจะมาเป็นผู้นำด้านรถยนต์ซึ่งมีชื่อเสียงและได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง แบรนด์ Audi ก็มีจุดเริ่มต้นที่น่าสนใจไม่น้อย โดยต้องย้อนกลับไปเมื่อปี 1902 ซึ่งในเวลานั้น August Horch วิศวกรชาวเยอรมันและหนึ่งในผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมยานยนต์ของเยอรมนีได้ก่อตั้งกิจการของตัวเองขึ้นในชื่อ Horch&Cle. Motorwagen Werke ก่อนจะปิดตัวลงในเวลาไม่นาน เพราะเขาไม่สามารถบริหารจัดการบริษัทให้ได้ตามเป้าที่วางไว้ กระทั่งในปี 1904 มีนักธุรกิจด้านการเงินเข้ามาร่วมทุนและได้ตั้งบริษัทฯ ใหม่ขึ้นพร้อมกับย้ายกิจการไปตั้งที่เมืองสวิคเคา แต่เพียงระยะเวลาไม่นาน ก็เกิดความแตกแยกทางความคิดของคณะกรรมการบริหารทำให้ August Horch ตัดสินใจลาออกจากบริษัทไปในปี 1909 ซึ่งจากจุดนี้เองได้ถือกำเนิดแบรนด์รถยนต์ที่มี 4 ห่วงในเวลาต่อมา นอกจากนี้ August Horch ได้เปลี่ยนชื่อแบรนด์ใหม่ เป็น Audi ซึ่งมาจากคำว่า คำว่า Horch ในภาษาเยอรมัน แปลว่า ฟัง ส่วนคำว่า Audi มาจากภาษาลาตินที่ว่า von audire แปลว่า จงฟัง และนี่เองเป็นที่มาของชื่อแบรนด์รถอาวดี้มาจนถึงปัจจุบัน
ระบบขับเคลื่อน Audi Quattro ประกาศชัยชนะบนสนาม WRC
หลังก่อตั้งบริษัท Audi เมื่อปี 1909 ค่ายรถยนต์อาวดี้ก็เร่งพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ มากมาย เพื่อให้ Audi เป็นยานยนต์ที่ตอบโจทย์การใช้งานมากขึ้น หนึ่งในนั้นคือ Audi Quattro สุดยอดระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่ทำมาเพื่อรองรับการยึดเกาะทุกสภาพถนนโดยเฉพาะถนนคดเคี้ยว ลดอาการท้ายปัดหรือหลุด เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้อย่างคล่องตัวและปลอดภัยยิ่งขึ้น ด้วยความโดดเด่นของระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Quattro ทำให้รถ Audi ที่ใช้นวัตกรรมการขับเคลื่อน 4 ล้อ ได้รับชัยชนะในการแข่งขันในระดับโลก World Rally Championship (WRC) ซึ่งเป็นการแข่งขันที่จัดโดย FIA (Fédération Internationale de l’Automobile) หรือสหพันธยานยนต์นานาชาติ เมื่อปี 1980-1982 และจากการแข่งขันในครั้งนี้เองที่ทำให้ Audi ถูกมองเป็นรถยนต์ที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัยอย่างแท้จริง
Audi ยกระดับแบรนด์สู่ความพรีเมียม
แต่ความสำเร็จของแบรนด์ Audi ไม่ได้หยุดแค่การคิดค้นนวัตกรรมการขับเคลื่อน 4 ล้อ เพราะในปี 1993 ถือเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ Audi ภายใต้นโยบายของผู้บริหาร Volkswagen Group ที่มีความประสงค์จัดกลุ่มของรถยนต์หลายแบรนด์ในเครือให้ชัดเจน ส่งผลให้ Audi ถูกจัดแบรนด์รถยนต์ระดับพรีเมียม ทำให้ภาพลักษณ์ของ Audi เปลี่ยนไป รวมถึงดีไซน์ทั้งด้านในและด้านนอกตัวรถยนต์ก็มีการปรับเปลี่ยนให้ดูทันสมัยและละเมียดละไมมากยิ่งขึ้น เพื่อตอกย้ำความเป็นค่ายรถระดับพรีเมียม ปี 1994 แสดงความล้ำหน้าของเทคโนโลยีไปอีกขั้นผ่านการเปิดตัว ASF (Audi Space Frame) โครงสร้างรถยนต์ที่ทำด้วยอลูมิเนียมทั้งคัน ทำให้รถอาวดี้มีน้ำหนักเบาและแข็งแกร่งทนทานกว่าเดิม ถือว่าเป็นอีกก้าวสำคัญที่ทำให้ Audi ได้รับการยอมรับในตลาดรถของยุโรป
แนะนำ Audi R8 รถสปอร์ตสุดล้ำ ที่มีแค่ 333 คันในโลก

Audi R8 เป็นรถสปอร์ตขุมพลังซุปเปอร์คาร์ที่สร้างความตื่นเต้นให้กับวงการยนตรกรรมเมื่อปี 2006–2007 และภายหลังจากกระแสรักษ์ที่นำไปสู่การผลิตรถ EV หรือรถยนต์ไฟฟ้า ส่งผลให้ Audi เป็นอีกแบรนด์ที่สนใจลงสนามแข่งขันในตลาดรถ EV อย่างจริงจัง เห็นได้จากการเปิดตัวรถไฟฟ้าอเนกประสงค์ Audi New Q8 e-Tron เทคโนโลยีเจเนอเรชั่นล่าสุดที่พร้อมสร้างมาตรฐานใหม่รถไฟฟ้าพรีเมียมเซกเมนต์ แต่ก่อนมุ่งหน้าลุยตลาดแบรนด์อาวดี้ไม่ส่ง Audi R8 Coupe V10 GT RWD รถรุ่นสุดในตระกูล R8 มาให้คนรักรถ Audi ได้ครอบครองในจำกัด เพราะผลิตออกมาแค่ 333 คันในโลกเท่านั้น ส่วนสเปกและดีไซน์ทั้งภายนอก ภายใน ก็สมเป็นรถรุ่นสุดท้ายก่อน Audi ตัดสินใจยุติบทบาทเครื่องยนต์สันดาปภายใน
โดย Audi R8 Coupe V10 GT RWD มาพร้อมตัวถังน้ำหนัก 1,570 กิโลกรัม เบาลงไป 20 กิโลกรัม เมื่อเทียบกับ R8 Coupe V10 performance RWD หน้าตาภายนอกเสริมด้วยชุดแต่งคาร์บอนไฟเบอร์รอบคันตั้งแต่ กันชนหน้าเสริมลิ้นด้านล่างกับคานาร์ดข้าง 2 ชั้น สเกิร์ตข้าง แผงจัดเรียงอากาศข้างกันชนหลัง ดิฟฟิวเซอร์ใหญ่ขึ้น และปีกท้ายทรงคอห่าน ล้อฟอร์จลายพิเศษ 10 ก้าน ควบคู่กับยาง Michelin Sport Cup 2 ใช้ได้ทั้งบนถนนและสนามแข่ง เบรกเซรามิกใส่มามาตรฐาน ช่วงล่างแบบสปอร์ตพร้อมเหล็กกันโคลงทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ (CFRP) เมื่อใช้ร่วมกับข้อต่อก้านคัปปลิ้งสองตัวที่ทำจากอะลูมิเนียมชุบสีแดง (ป้องกันการกัดกร่อน) จะช่วยลดน้ำหนักและเพิ่มความคล่องตัวในการยึดเกาะถนนและการเข้าโค้ง
ส่วนด้านขุมพลัง Audi R8 Coupe V10 GT RWD ใช้ขุมพลัง เบนซิน V10 DOHC 40 วาล์วขนาด 5.2 ลิตร (5,204 ซีซี) จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดอีเล็กโทรนิคส์ตรงสู่ห้องเผาไหม้ TSI แบบผสมผสาน Direct Injection และ Indirect Injection พร้อมระบบ Cylinder on demand และระบบแปรผันวาล์ว ให้กำลังสูงสุด 620 แรงม้า (PS) ที่ 8,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 565 นิวตันเมตร ที่ 7,000 รอบ/นาที มีท่อไอดีพ่นสีดำเฉพาะรุ่น ทั้งมาพร้อมเกียร์คลัทซ์คู่ 7 สปีดใหม่ เปลี่ยนเกียร์ฉับไวขึ้นเพราะมีการเปลี่ยนอัตราทด รวมถึงมีโหมดใหม่ Torque Rear Drive Mode เปิดใช้งานผ่านปุ่มรูปธงหมากรุกบนพวงมาลัย โหมดนี้จะให้ผู้ขับสามารถเลือกได้ว่าจะให้ระบบ ESC เข้ามาช่วยแค่ไหนเสริมสมรรถนะการขับขี่ให้ดียิ่งขึ้น
มาถึงตรงนี้ หลายคนคงรู้แล้วว่า รถอาวดี้หรือรถออดี้ ประวัติอย่างไร ทำไมถึงได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน สำหรับใครที่สนใจรถแบรนด์นี้ทาง Audi ประเทศไทย ที่ได้รับการแต่งตั้งจาก Audi AG ประเทศเยอรมนี ในการนำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์ Audi ก็มีรุ่นรถอาวดี้ให้เลือกซื้อมาใช้งานหลากรุ่น และเพื่อเสริมประสิทธิภาพในการขับขี่ การเลือกยางรถยนต์ที่ดอกยางและเนื้อยางถูกออกแบบเพื่อตอบโจทย์การขับขี่สำหรับรถยนต์ที่มีสมรรถนะสูง ยึดเกาะในทุกสภาพถนน ทั้งถนนเปียกยามฝนตกหนักและถนนแห้ง รวมถึงมีเทคโนโลยีอย่าง PNCS ช่วยลดเสียงรบกวนภายในรถที่เกิดจากการหมุนของยางบนพื้นผิวถนน หรือ Seal Inside ที่ถูกออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบายและความปลอดภัยในการขับขี่บนท้องถนเมื่อยางเกิดรอยรั่ว ซึ่งแบรนด์ Pirelli Tyres Thailand เป็นตัวเลือกที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยไว้ครบครัน สำหรับผู้สนใจยางคุณภาพอย่าลืมติดต่อ Pirelli Thailand by ATV สามารถขอรับคำปรึกษาสอบถามเรื่องการซื้อหรือผ่อนยางได้อย่างรวดเร็ว นอกจากมียางหลายขนาดที่ครอบคลุมรถหลากประเภท ยังมีบริการหลังการขายที่น่าประทับใจ อย่างประกันยางบาด บวม แตกที่สามารถเคลมฟรี 1 ปี หรือระยะทาง 25,000 กิโลเมตร โดยอยู่ภายใต้เงื่อนไขของบริษัท สอบถามเพิ่มเติมได้ที่อินบอกซ์เฟซบุ๊ก m.me/PirellibyAsiatires