นอกจากดูแลรถยนต์ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน การต่อภาษีรถยนต์เป็นสิ่งที่เจ้าของรถยนต์ทุกคนไม่ควรละเลย เพราะรถทุกคันที่วิ่งอยู่บนท้องถนนมีอายุทะเบียนที่อนุญาตให้ขับขี่ได้เพียง 1 ปี เมื่อครบรอบต้องไปยื่นชำระค่าภาษีหรือที่เรียกกันว่าต่อภาษีรถยนต์ประจำปี เพื่ออำนวยความสะดวกต่อผู้ใช้รถยนต์ทุกประเภท ทางกรมการขนส่งทางบกเปิดให้บริการชำระภาษีรถประจำปีผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งบทความนี้ได้รวบรวมขั้นตอนวิธีต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ พร้อมทั้งแนะนำวิธีเตรียมตัวอย่างไร ใช้เอกสารอะไรบ้าง มาไว้ให้ทุกคนแล้ว
ภาษีรถยนต์ คืออะไร
ภาษีรถยนต์ คือ ภาษีที่รัฐบาลเก็บจากเจ้าของรถยนต์เป็นประจำทุกปี หรือหลาย ๆ คนอาจจะคุ้นชินกับป้ายกระดาษสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ที่คนมีรถยนต์ทุกคนต้องจ่ายภาษีตามที่กฎหมายบังคับเมื่อถึงกำหนด โดยภาษีรถยนต์ที่จ่ายทุกปีจะถูกภาครัฐนำไปใช้พัฒนาปรับปรุงถนน รวมไปถึงการคมนาคมภายในประเทศ ด้วยเหตุนี้เจ้าของรถยนต์ทุกคนต้องทำการต่อภาษีรถยนต์หรือต่อทะเบียนรถยนต์ทุกปี ถ้าปล่อยให้ขาดนอกจากต้องเสียค่าปรับและยังเสียเวลาดำเนินการอีกด้วย
ต่อภาษีรถยนต์ ต้องทำตอนไหน
เพื่อให้รถยนต์ของคุณสามารถวิ่งได้อย่างถูกกฎหมายบนท้องถนน ผู้ที่มีรถยนต์จะต้องทำการต่อภาษีรถยนต์ซึ่งสามารถต่อได้ก่อนวันที่จะหมดอายุล่วงหน้า 90 วัน (3 เดือน) แต่ถึงอย่างนั้นการเสียภาษีรถยนต์ประจำปีจะทำได้เมื่อมีการต่อ พ.ร.บ. รถยนต์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ประเภทของรถที่สามารถต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ได้
- รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน
- รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน
- รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล
- รถจักรยานยนต์
เงื่อนไขที่สามารถยื่นต่อภาษีรถออนไลน์ได้
ก่อนที่จะยื่นต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ ควรตรวจเช็กก่อนว่ารถยนต์ที่ใช้งานอยู่ในชีวิตประจำวันเข้าเงื่อนไขสามารถต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ได้หรือไม่ โดยประเภทรถยนต์ที่สามารถต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ได้ มีรายละเอียดดังนี้
- รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล และรถจักรยานยนต์
- รถยนต์อายุไม่เกิน 7 ปี (ถ้าเกิน 7 ปี ต้องทำการตรวจสภาพที่สถานตรวจสภาพรถ หรือ ตรอ. ให้เรียบร้อยก่อน)
- รถจักรยานยนต์อายุรถไม่เกิน 5 ปี (ถ้าเกิน 5 ปี ต้องทำการตรวจสภาพที่สถานตรวจสภาพรถ หรือ ตรอ. ให้เรียบร้อยก่อน)
- รถยนต์ค้างชำระภาษีไม่เกิน 1 ปี
- รถยนต์ติดแก๊ส ต้องยื่นเอกสารรับรองการติดแก๊สที่ถูกต้อง พร้อมใบตรวจสภาพรถจากวิศวกร
- รถยนต์ทุกจังหวัดที่มีสถานะทะเบียนปกติ หรือไม่ถูกระงับทะเบียนเนื่องจากค้างชำระภาษีประจำปี ติดต่อกันครบ 3 ปี
- รถที่ไม่ได้รับการยกเว้นภาษี/ไม่ใช่รถของหน่วยงานราชการ
- รถที่ไม่ถูกอายัด
- สามารถชำระภาษีรถล่วงหน้าก่อนสิ้นอายุภาษีได้ไม่เกิน 90 วัน
ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ รถยนต์เกิน 7 ปี ทำได้หรือไม่
ปัจจุบันกรมการขนส่งทางบกอนุญาตให้รถยนต์ที่มีอายุเกิน 7 ปี (นับตั้งแต่วันที่จดทะเบียนครั้งแรก) สามารถยื่นต่อภาษีรถยนต์ประจำปีผ่านช่องทางออนไลน์ได้ แต่ก่อนยื่นต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ ต้องนำรถไปตรวจสภาพรถที่สถานตรวจสภาพรถเอกชนหรือ ตรอ. ให้เรียบร้อยเสียก่อน หลังตรวจสภาพผ่านแล้วทาง ตรอ. จะออกใบรายงานผลการตรวจสภาพรถตามกฎหมาย มาใช้ประกอบเวลายื่นชำระภาษีรถประจำปีออนไลน์
ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ ใช้เอกสารอะไรบ้าง
- พ.ร.บ. รถยนต์ ที่ยังไม่หมดอายุ
- ใบคู่มือจดทะเบียนรถ (ตัวจริง) หรือสำเนาทะเบียนรถยนต์ (กรณีรถติดไฟแนนซ์ให้ใช้สำเนาทะเบียนจากสถานบันการเงิน)
- ใบตรวจสภาพรถยนต์ สำหรับรถยนต์ที่เกิน 7 ปี
- รถยนต์ติดแก๊ส ต้องยื่นเอกสารรับรองการติดแก๊สที่ถูกต้อง พร้อมใบตรวจสภาพจากวิศวกร
ขั้นตอนการต่อภาษีออนไลน์
กรมการขนส่งทางบกได้อำนวยความสะดวกให้ประชาชนสามารถดำเนินการต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ ทำให้การต่อภาษีรถยนต์เป็นเรื่องที่ง่าย ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาในการเดินทาง สำหรับขั้นตอนการยื่นต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์สามารถทำได้ ดังนี้
- ไปที่เว็บไซต์ https://eservice.dlt.go.th
- ทำการ Log-in เข้าสู่ระบบโดยใช้เลขบัตรประชาชน พร้อมใส่รหัสผ่าน หากเพิ่งเข้ามาใช้งานครั้งแรกให้ลงทะเบียนสมาชิกใหม่ก่อน
- เมื่อเข้าสู่ระบบเรียบร้อยแล้ว ไปที่หัวข้อบริการ เลือกชำระภาษีรถประจำปีผ่านอินเทอร์เน็ต
- ลงทะเบียนรถที่จะชำระภาษีรถประจำปี พร้อมกรอกข้อมูลประเภทรถ จังหวัดตามป้ายทะเบียน เลขตามทะเบียนรถ และชื่อผู้ครอบครอง หากเคยใช้งานแล้วสามารถเลือกรายชื่อรถที่ต้องการชำระภาษีรถประจำปีด้านล่างได้เลย
- ตรวจสอบความถูกต้องข้อมูลต่าง ๆ รวมถึงกรอกข้อมูล พ.ร.บ. เพิ่มเติม หากยังไม่มี พ.ร.บ. สามารถซื้อในขั้นตอนนี้ได้เลย เมื่อเสร็จแล้วให้เลือก “กรอกสถานที่จัดส่งเอกสาร” และกรอกที่อยู่ให้ครบถ้วน
- เลือกรูปแบบวิธีการชำระเงิน โดยระบบมีให้เลือกหลายช่องทาง ทั้งหักบัญชีธนาคาร ชำระผ่านบัตรเครดิต หรือชำระผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส พร้อมกับตรวจสอบข้อมูลการชำระเงิน และตรวจสอบข้อมูลที่อยู่ในการจัดส่งเอกสาร
- เมื่อตรวจสอบความถูกต้องเรียบร้อยแล้ว ให้กด “ยืนยัน”
- หลังจากทำรายการเสร็จทุกขั้นตอนให้กลับมาที่หน้ายื่นชำระภาษีที่หน้าแรก เพื่อตรวจสอบผลการชำระภาษี ซึ่งจะมีรายละเอียดทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นวันที่ยื่นชำระ, วันสิ้นสุดอายุภาษี, วันสุดท้ายที่สามารถจะชำระเงินได้ พร้อมกับบอกถึงสถานะ การชำระเงินว่าอยู่ในขั้นตอนไหน อีกทั้งยังสามารถเลือกเปลี่ยนช่องทางชำระเงินใหม่ได้
ขั้นตอนการชำระภาษีผ่านเว็บไซต์กรมการขนส่งทางบก
การชำระภาษีสามารถทำได้ผ่านเว็บไซต์กรมการขนส่งทางบก ช่วยให้มีความสะดวก รวดเร็ว ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง สำหรับขั้นตอนการชำระภาษีผ่านเว็บไซต์กรมการขนส่งทางบกมีดังนี้
- เข้าไปที่เว็บไซต์ https://eservice.dlt.go.th
- สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยใช้บริการออนไลน์มาก่อน จำเป็นต้องลงทะเบียนเพื่อสร้างบัญชีผู้ใช้ก่อน
- เลือกบริการยื่นชำระภาษี
- กรอกรายละเอียดรถยนต์ พร้อมแสดงหลักฐานประกันภัย
- เลือกวิธีการชำระเงิน ด้วยช่องทางต่าง ๆ ดังนี้
- การหักผ่านบัญชีธนาคาร
- บัตรเครดิตหรือเดบิต
- ตู้ ATM ของธนาคารที่ร่วมโครงการ
- เคาน์เตอร์เซอร์วิส
- หลังจากชำระเงินเรียบร้อยแล้ว กรมการขนส่งทางบกจะจัดส่งใบเสร็จรับเงิน พร้อมเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีผ่านทางไปรษณีย์ตามที่อยู่ที่ลงทะเบียนไว้
ขั้นตอนการชำระภาษีผ่านแอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax
แอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax ถูกพัฒนาขึ้นโดยกรมการขนส่งทางบกเพื่อให้บริการรับชำระภาษีรถประจำปีตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งมีขั้นตอนการชำระภาษีผ่านแอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax ดังนี้
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax ได้ทั้งระบบ Android (Google Play Store) และ IOS (App Store)
- สำหรับผู้ที่ไม่เคยใช้งานมาก่อน ให้กดลงทะเบียน พร้อมกรอกรายละเอียดต่าง ๆ ให้เรียบร้อย
- กรอกรหัส OTP และ PIN Code ให้เรียบร้อย
- เลือกรูปแบบในการชำระเงิน ซึ่งมี 2 รูปแบบ
- ทั้งแบบชำระภาษีรถตนเอง
- ชำระภาษีแทนเจ้าของรถ
- เลือกประเภทรถยนต์ที่ต้องการชำระภาษี
- กรอกข้อมูลเลขทะเบียนรถ
- กรอกข้อมูลประกันภัยรถยนต์ (w.ร.บ.)
- เลือกช่องทางการรับเอกสาร
- เลือกช่องทางการชำระเงิน
- รอรับเอกสาร
ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ กี่วันได้รับเอกสาร
หลังจากชำระเงินเรียบร้อยแล้ว ทางกรมการขนส่งทางบกจะจัดส่งเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีและใบเสร็จรับเงินทางไปรษณีย์ ภายใน 3-5 วันทำการนับจากวันชำระเงิน
จะเห็นได้ว่าการต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ใช้เวลาไม่นาน มีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก อีกทั้งประหยัดเวลา เพียงเตรียมเอกสารให้ครบถ้วน ไม่ต้องเดินทางมาที่สำนักงานก็สามารถต่อภาษีรถจากที่ไหนก็ได้ นอกจากการชำระภาษีรถประจำปี การตรวจสอบสภาพเครื่องยนต์ และสภาพของยางรถยนต์อยู่เป็นประจำ เพื่อให้สมรรถภาพด้านการขับขี่มีความพร้อมอยู่เสมอและมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ซึ่งการเลือกใช้ยางรถยนต์ที่เหมาะสมกับการใช้งานกับรถยนต์ช่วยให้ขับเคลื่อนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะขับขี่ในช่วงเวลาไหน หรือต้องเจอกับเหตุการณ์ใด จึงควรใส่ใจกับการเลือกยางก่อนการเปลี่ยนยางรถยนต์ใหม่ทุกครั้ง